fbpx

นายกฯ เดือดกลางสภา ลั่นกู้เงินทำตามกฎหมาย

รัฐสภา 10 มิ.ย. – นายกฯ แจงการกู้เงินรัฐบาลทำด้วยความรอบคอบ ยืนยันเป็นการทยอยกู้และทำตามกฎหมาย ส่วนประเด็นกระจายวัคซีนเป็นหน้าที่ของผู้ว่าฯ และคณะทำงานด้านสาธารณสุข การระบาดของโควิด-19 ยังตอบไม่ได้ว่าจะจบลงเมื่อใด ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องเตรียมการ เพราะจัดเก็บรายได้ไม่พอ


เมื่อวาน (9 มิ.ย.) การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เป็นไปอย่างเข้มข้น โดยมีทั้ง ส.ส.รัฐบาล และ ส.ส.ฝ่ายค้าน ลุกขึ้นอภิปรายแสดงความเห็นเกี่ยวกับกฎหมายฉบับนี้ มีทั้งสนับสนุนและคัดค้าน รวมถึงเสนอแนะแนวทางการใช้จ่าย

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า ในปี 2563 ได้มีการออก พ.ร.ก.กู้เงินฯ “โควิด-19” วงเงิน 1 ล้านล้านบาท เพื่อใช้จ่ายรองรับสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งปัจจุบันมีวงเงินกู้เหลือเพียง 1,764 ล้านบาท ทำให้ไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากโควิด-19 ในระยะต่อไป โดยรัฐบาลได้แก้ไขวิกฤติผ่านแหล่งเงินภายใต้กรอบกฎหมายที่มี แต่ด้วยข้อจำกัดการจัดเก็บรายได้ปี 2564 ที่เป็นผลจากการแพร่ระบาด และหากรอแหล่งเงินจากงบปี 2565 จะไม่ทันต่อการแก้ปัญหาระลอกใหม่ จึงจำเป็นต้องใช้เงินอย่างเร่งด่วนในการแก้ไขสถานการณ์ ซึ่งถือเป็นกรณีฉุกเฉินรีบด่วน พร้อมย้ำว่าเป็นการใช้จ่าย 3 แผนงาน คือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจ ตามกรอบวินัยการเงินการคลัง


อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเย็นมีสมาชิกในห้องประชุมอย่างบางตา ทำให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เสนอให้นับองค์ประชุม แต่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ขอร้องไม่ให้นับ เพราะบรรยากาศอภิปรายดำเนินมาด้วยดีตั้งแต่เช้า

จากนั้นปรากฏว่านายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นมาสอบถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาถึงรัฐสภาเกือบครึ่งชั่วโมง แต่กลับไม่เข้ามาชี้แจง จึงขอนับองค์ประชุมอีกครั้ง จนท้ายสุดนายกรัฐมนตรีได้เดินเข้ามาร่วมรับฟังการอภิปราย

นายกรัฐมนตรีชี้แจงการออก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท โดยย้ำว่าให้เกียรติสภา แต่ตนเองติดภารกิจ ส่วนการระบาดของโควิด-19 ยังตอบไม่ได้ว่าจะจบลงเมื่อใด ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องเตรียมการ เพราะจัดเก็บรายได้ไม่พอ และในการบริหารงบเงินกู้จำนวนมาก หากใครเคยเป็นรัฐบาลจะเข้าใจว่าแม้อนุมัติเงินกู้แล้วก็ต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ แต่ย้ำว่ารัฐบาลทำด้วยความรอบคอบ ยืนยันการกู้เงินเป็นการทยอยกู้และทำตามกฎหมาย ส่วนประเด็นกระจายวัคซีนเป็นหน้าที่ของผู้ว่าฯ และคณะทำงานด้านสาธารณสุข


ส่วนกรณีที่มี ส.ส.บางส่วน ระบุว่าอย่าเอาเรื่องวัคซีนเป็นเรื่องการเมืองนั้น นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ไม่เคยมองเป็นการเมือง แต่เป็นเรื่องการทำงาน ตนให้เกียรติการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ให้เกียรติสภา บางครั้งการทำการเมืองอย่างเดียวประเทศก็เดินหน้าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กโจ๊ก” ถอนคำร้องเอาผิด “เศรษฐา” อ้างไม่ติดใจแล้ว

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช. ขอถอนคำร้องเอาผิด “นายกฯ เศรษฐา” กรณีปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม ม.157 อ้างไม่ติดใจดำเนินคดีแล้ว

นายกฯ เชิญ 4 ธนาคารใหญ่ ถกลดดอกเบี้ยบ้านกลุ่มเปราะบาง

นายกฯ เชิญผู้บริหาร 4 ธนาคารใหญ่ เข้าหารือ ขอให้ทั้ง 4 ธนาคาร ช่วยลดราคาดอกเบี้ยเงินกู้บ้านให้กับประชาชน ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เผยส่งชื่อรัฐมนตรีให้นายกฯ พิจารณาแล้ว

สถานการณ์ชายแดนแม่สอดยังไม่น่าไว้วางใจ มีเสียงปืน-ระเบิดจากฝั่งเมียนมา

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ยังไม่น่าไว้วางใจ หลังเช้านี้ได้ยินเสียงปืนและระเบิดจากการปะทะของกองกำลังกะเหรี่ยงกับทหารเมียนมา ดังขึ้นในรอบ 3 วัน ขณะที่บ่ายนี้ (23 เม.ย.) รมว.ต่างประเทศ เตรียมลงพื้นที่

เฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือมาเลเซียชนกันกลางอากาศ-ดับแล้ว 10

กองทัพเรือมาเลเซียกล่าวในแถลงการณ์ว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือมาเลเซีย 2 ลำ ชนกันกลางอากาศในระหว่างการฝึกซ้อมสำหรับการแสดงในขบวนพาเหรดของกองทัพเรือ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย