“ดร.พิมพ์รพี” ชำแหละบทเรียนจากเงินกู้ 1 ล้านล้าน

รัฐสภา 9 มิ.ย. – “ดร.พิมพ์รพี” ชำแหละบทเรียนจากเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท หวังให้เงินกู้รอบใหม่เป็นการกู้เพื่อพยุงชาติ มีวัคซีนแก้ความยากจน แก้โรคระบาด แก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคม ไม่ใช่การกู้เพื่อผลทางการเมือง


9 มิ.ย.64 ดร.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2565 ซึ่งมีการแบ่งแผนงานออกเป็น 3 ส่วน คือ แผนงานช่วยเหลือเยียวยาทั้งผู้ประกอบการและประชาชน 300,000 ล้านบาท แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 170,000 ล้านบาท และแผนงานสู้กับสงครามโควิด-19

ดร.พิมพ์รพี ระบุว่า ในส่วนแผนงานช่วยเหลือเยียวยานั้น ที่ผ่านมารัฐบาลโอนไว แจกเร็ว เบิกจ่ายเข้าเป้า แตกต่างจากงานด้านสาธารณสุขและการฟื้นฟูเศรษฐกิจสังคม จึงมีความเป็นห่วงว่า หากไม่มีการถอดบทเรียนจาก พ.ร.บ.กู้เงิน 1 ล้านล้านที่ผ่านมา อาจจะทำให้เกิดปัญหาในภายหลังได้


โดยในช่วงปีเศษที่ผ่านมา เงินกู้ที่ใช้ในส่วนนี้เบิกจ่ายกันไปเพียง 26.03% เท่านั้น โดยเป็นการเบิกจ่ายไปแค่ 70,294.36 ล้านบาท จากวงเงินกู้ 2.7 แสนล้านบาท จึงต้องการให้รัฐบาลทบทวนวิธีการใช้เงินก้อนนี้ถึงปัญหาเรื่องประสิทธิภาพในการใช้จ่ายเงิน โดยต้องเริ่มจากการเปลี่ยนวิธีคิดแบบรวมศูนย์จากราชการแล้วผ่องถ่ายไปที่ภาคเอกชน และให้ประชาชนมีส่วนร่วม

ทั้งนี้ ดร.พิมพ์รพี ได้ตั้งข้อสังเกตถึงการอนุมัติโครงการโดยคณะกรรมการจากสภาพัฒน์ฯ ว่า ชื่อโครงการมีลักษณะซ้ำๆ เหมือนลอกกันมา หรือเพียงใส่แค่นามสกุลว่าฟื้นฟูเศรษฐกิจจากพิษโควิด-19 ก็ได้รับการอนุมัติแล้ว เพราะหากบริหารลักษณะนี้ ผู้ประกอบการรายเล็กและประชาชนจะไปต่อไม่ได้

ที่สำคัญคือ การจัดงบแบบมียุทธศาสตร์ที่แท้จริง ไม่ใช่มียุทธศาสตร์แค่บนหน้ากระดาษเท่านั้น เวลานี้การท่องเที่ยวพังทั้งระบบ ดังนั้น จึงต้องเร่งทุ่มงบไปให้เต็มที่ โดยเฉพาะสินเชื่อเอสเอ็มอี โดยให้คำนึงถึงผู้ประกอบการรายเล็กจริงๆ ไม่ใช่อิงอยู่กับความอยู่รอดของสถาบันการเงินเป็นหลัก หากยังไม่ปรับแนวคิดในเรื่องนี้ ก็เชื่อว่าจะมีเอสเอ็มอีล้มหายตายจากไปอีกมาก


งบด้านสาธารณสุข ได้มีการเตรียม “กระสุน” ไว้ให้นักรบชุดขาวไปสู้กับไวรัสร้าย 3 หมื่นล้าน แต่ที่ผ่านมาในการกู้เงินครั้งแรก ได้ตั้งงบส่วนนี้ไว้ 45,000 ล้านบาท แต่ปีกว่าผ่านไปมีการเบิกจ่าย 21.21% ขณะที่ทุกโรงพยาบาลรัฐขาดแคลนทุกอย่าง จนต้องขึ้นป้ายรับบริจาคกันเป็นแถว ในเมื่อรัฐบาลกู้มาแล้ว เหตุใดจึงไม่อัดฉีดลงไปสู่ระบบ ให้คนไทยได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ดี มีประสิทธิภาพ ยิ่งขณะนี้มีผู้ป่วยอาการหนักมากขึ้น ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจมากขึ้น หมอบ่นกันแทบทุกวันว่าทุกอย่างกำลังตึงมือ ดังนั้นจะต้องเร่งจัดงบประมาณไปดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มที่

“จะน่าเศร้ามากนะคะ ถ้าวันหนึ่งเราต้องเข้าสู่ยุค หมอต้องเลือกให้ใครบางคนรอด และทิ้งให้ใครบางคนสิ้นลมหายใจไป เพียงแค่เราไม่จัดงบประมาณเพื่อซื้อเครื่องมือทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยหนักอย่างเพียงพอ จะให้พี่ตูนมาวิ่ง ก้าวคนละก้าว จากเหนือลงใต้ จากใต้ขึ้นเหนือ เพื่อช่วยโรงพยาบาลต่างๆ คงไม่ไหว รัฐบาลจะทำตัวเป็นมือใหม่หัดขับไม่ได้ แต่ท่านต้องฟันธง ตรงประเด็น จัดงบประมาณดูแลเครื่องไม้เครื่องมือ รองรับการรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่ รวมถึงการจัดหาวัคซีนที่เพียงพอด้วย” ดร.พิมพ์รพี กล่าว

ส่วนเรื่องการกระจายวัคซีน ดร.พิมพ์รพี ระบุว่า มีลักษณะเหมือนจะมีแผน แต่สุดท้ายกลายเป็นแผล เพราะไม่ได้พูดความจริงกับประชาชน ไม่ยอมรับความผิดพลาด จนทำให้วันฉีดวัคซีนแห่งชาติ ในวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา กลายเป็นวันอลหม่านแห่งชาติ โกลาหลกันไปหมด สำหรับโรงพยาบาลต่างๆ บางแห่งมีวัคซีนฉีดได้วันเดียว ต้องประกาศเลื่อนออกไปแบบไม่มีกำหนด

“ดิฉันขอยกตัวอย่าง จ.กระบี่ ที่ขอวัคซีนไป 1.5 แสนโดส แต่มีการต่อรองเหลือ 5 หมื่นโดส ตอนนี้ให้มาแค่หมื่นห้า แล้วจังหวัดดิฉันจะให้ทำตามกติกาได้อย่างไร ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดต้องทำจดหมายถึงท่านนายกฯ ขอปันส่วนไปเรื่อยๆ แล้ววันนี้แผนการต่างๆ ก็ยังไม่มา ถ้าใครรายงานท่านนายกฯ ว่ามาแล้ว ดิฉันขอแก้ไขด้วยว่ารายงานผิด ตอนนี้ผู้ว่าฯ เดือดร้อนมาก รู้ว่าของจะมา แต่ไม่รู้มาเมื่อไหร่ หมอทำงานไม่ได้”

สำหรับเรื่องภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ดร.พิมพ์รพี ได้ขอบคุณรัฐบาลที่มีความก้าวหน้า สามารถเปิดอันดามันให้ได้ ในเรื่องภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์นี้ สามารถเดินหน้าฉีดวัคซีนได้ 70% และ 1 ก.ค.นี้ จะเปิดรับนักท่องเที่ยวให้ได้ จึงหวังว่านายกรัฐมนตรีจะจัดสรรวัคซีนตามสัดส่วนและความจำเป็นตามยุทธศาสตร์ของประเทศให้สำเร็จให้ได้ ขณะที่วันที่ 1 ต.ค.นี้ จะเปิดอีก 10 จังหวัดท่องเที่ยว ซึ่ง จ.กระบี่ ก็อยู่ในจำนวนนี้ จึงหวังว่าจะได้รับการจัดสรรวัคซีนได้ตามยุทธศาสตร์

“ดิฉันหวังให้การกู้เงินรอบนี้เป็นการกู้เพื่อพยุงชาติ วัคซีนนี้เป็นวัคซีนแก้ปัญหาความยากจน แก้โรคระบาด แก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคม และไม่ใช่การกู้เพื่อผลทางการเมือง” ดร.พิมพ์รพี กล่าวในที่สุด. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 […]

5 คนร้ายปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดังย่านลาดพร้าว

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – อุกอาจ! นัดซื้อคริปโต กลายเป็นแผนปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท กลางลานจอดรถห้างดังย่านลาดพร้าว ก่อนหลบหนีลอยนวล ตำรวจเร่งสกัดจับคนร้าย เกิดเหตุอุกอาจ ปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท กลางลานจอดรถชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. โดยกลุ่มคนร้ายเป็นชาย 5 คน มีทั้งอาวุธปืนและมีด หลังก่อเหตุ กลุ่มคนร้ายใช้รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีเทา ทะเบียน ขก 1116 นครสวรรค์ หลบหนีออกจากห้าง ล่าสุดทราบว่า คนร้ายหลบหนีไปตามเส้นทางถนนสายเอเชีย สอบถามผู้เสียหาย ให้การว่า นัดกับกลุ่มคนร้ายมาซื้อทรัพย์สินเป็นเงินคริปโทเคอร์เรนซี 3.4 ล้านบาท โดยผู้เสียหายนำเงินสดมาเพื่อจ่ายแลกกับเงินคริปโต แต่ถูกฝ่ายคนร้ายชิงเงินสดทั้งหมดและขับรถหนีไป ทั้งนี้ ตำรวจสืบสวน สน.พหลโยธิน อยู่ระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี. – สำนักข่าวไทย

จับ 6 ล้อขนยาบ้า 10 ล้านเม็ด ซุกลำโพง

30 มิ.ย. – ขบวนค้ายาเสพติดยังพยายามขนยาบ้าเข้ามาทางชายแดนภาคเหนือของไทย ช่วง 9 เดือนมานี้ เจ้าหน้าที่สกัดได้กว่า 130 ล้านเม็ด แต่ที่หลุดรอดไปได้อีกมหาศาล ซึ่งพบว่ามีการขนยาบ้าลอตใหญ่เข้าสู่พื้นที่ชั้นในมากขึ้น โดยเปลี่ยนจุดพักยาบ้าเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ขนยาบ้าที่ซุกซ่อนมากับสินค้ามากขึ้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่สกัดรถ 6 ล้อ ขนยาบ้า 10 ล้านเม็ด ได้ที่จังหวัดแพร่ โดยซุกซ่อนในตู้ลำโพง คนขับอ้างว่า รับงานจากบริษัทให้ไปส่งสินค้าที่ลพบุรี โดยไม่รู้ว่ามีการซุกซ่อนยาบ้าไว้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้โรงงานผลิตทิชชู คนงานสูญหาย 9 คน

สระบุรี 30 มิ.ย. – เหตุไฟไหม้โรงงานผลิตทิชชู จ.สระบุรี มีผู้บาดเจ็บ 7 คน และยังสูญหายอีก 9 คน เป็นพนักงานประจำสำนักงานอยู่บนชั้น 2 และชั้น 3 ล่าสุดมีรายงานพบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย เกิดเหตุเพลิงไหม้รุนแรงที่โรงงานผลิตทิชชู ตั้งอยู่ภายในนิคมเหมราช อ.หนองแค จ.สระบุรี รถดับเพลิงรถน้ำจาก อ.หนองแค และใกล้เคียงกว่า 50 คัน รวมถึงอาสาสมัครจากหลายมูลนิธิ รุดไปที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้ภายในโรงงานพร้อมกับได้รับแจ้งว่ามีพนักงานอยู่ภายในสำนักงานชั้น 2 และชั้น 3 รวม 10 คน ยังไม่สามารถออกมาได้ จึงเร่งฉีดน้ำสกัดดับเพลิงแต่ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากจุดที่เกิดเพลิงไหม้มีกองกระดาษซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี กระทั่งเวลาล่วงเลยไปกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด ขณะที่รถจากโรงพยาบาลหลายแห่ง พร้อมทีมแพทย์และพยาบาลมายังจุดเกิดเหตุเพื่อรอรับผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล พร้อมกับตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ รับแจ้งตรวจสอบรายชื่อผู้สูญหาย เบื้องต้นทราบว่ามีผู้สูญหายยังไม่มารายงานตัวจำนวน 11 คน แต่ต่อมาช่วยเหลือออกมาได้ 2 คน จึงยังมีผู้สูญหายในเหตุการณ์นี้อีก […]