กรุงเทพฯ 9 มิ.ย.-ปลัดมหาดไทยส่งหนังสือด่วนถึงอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น- ผู้ว่าฯทั่วประเทศ” ย้ำดูแลอปท.จัดซื้อวัคซีนตามแนวทางศบค.อย่างเคร่งครัด ไม่ให้เหลื่อมล้ำ
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ออกหนังสือด่วนถึงอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและผู้ว่าราชการทุกจังหวัด ว่าตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลงนามในประกาศศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2564 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันดังกล่าว ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงมหาดไทย จึงขอให้จังหวัดรับทราบและถือปฏิบัติตามประกาศดังกล่าวโดยเคร่งครัด
สำหรับสาระสำคัญของประกาศดังกล่าว มีดังนี้ 1.ให้จัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ครอบคลุมร้อยละ 70 ของจำนวนประชากร(ไม่น้อยกว่าห้าสิบล้านคน) 2.ให้สำนักงานคณะกรรรมการอาหารและยา ประสานงาน ส่งเสริม และสนับสนุนผู้ผลิต วัคซีนป้องกันโรคโควิด -19 ในการดำเนินการขึ้นทะเบียนวัคซีนให้เป็นไปอย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ 3.ให้กรมควบคุมโรค องค์การเภสัชกรรม สถาบันวัคซีนแห่งชาติ สภากาชาดไทย ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ หรือหน่วยงานของรัฐ ที่มีหน้าที่และอำนาจในการให้บริการทางการแพทย์หรือสาธารณสุขแก่ประชาชน ร่วมมือกันในการดำเนินการจัดหา สั่ง หรือนำเข้าวัคซีนป้องกันโรคโควิด -19 อย่างเร่งด่วน
4.สถานพยาบาลเอกชนและภาคเอกชนอาจจัดหาหรือขอรับการสนับสนุนวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 จากหน่วยงานตามข้อ 3 ภายใต้กฎหมาย กฎระเบียบหรือหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง 5.หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 มาให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ให้จัดหาจากหน่วยงานตามข้อ และต้องดำเนินการ เป็นไปตามกฎหมาย กฎ หรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงหลักเกณฑ์หรือแผนการใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและสอดคล้องกับแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 หรือนายกรัฐมนตรีกำหนด โดยเป็นไปตามแนวทางหรืออยู่ในการกำกับดูแลของผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่อมิให้เกิดความเหลื่อมล้ำในการจัดหาวัคซีนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีศักยภาพด้านงบประมาณและรายได้ที่แตกต่างกัน
5.สนับสนุนและให้ความสำคัญในการอำนวยความสะดวก แก่ประชาชนในพื้นที่ในการเข้ารับบริการฉีดวัคนป้องกันโรคโควิด – 19 เพื่อประโยชน์ต่อประชาชน ส่วนรวมของประเทศ และ 6.ให้หน่วยงานทุกภาคส่วนเชื่อมโยงและบูรณาการข้อมูลกับระบบแพลตฟอร์มหมอพร้อมของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชนที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด -19และเพื่อให้การบริหารจัดการข้อมูลเป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ.-สำนักข่าวไทย