รัฐสภา 7 มิ.ย.-“วิรัช” เผย กมธ.งบฯ 65 เริ่มตรวจสอบงบฯ กระทรวงการคลัง เรื่องการจัดเก็บรายได้ ส่วนงบฯ ลับ รอถกตอนงบฯกลาโหม-สำนักนายกฯ ซึ่งปกติไม่เคยเปิดกลางที่ประชุม แต่เปิดให้เฉพาะประธานดู ไม่หวั่นฝ้านค้านโหวตคว่ำ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้าน ลั่นรัฐบาลต้องโหวดทิศทางเดียวกัน
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล รองประธานคณะกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ในชั้นกรรมาธิการ ว่าในวันนี้จะเริ่มพิจารณางบประมาณในส่วนของกระทรวงการคลัง การจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานภาครัฐ และคงลงในรายละเอียด ขึ้นอยู่กับกรรมาธิการว่าจะซักถามมากน้อยแค่ไหน
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมตรวจสอบงบฯ ลับนั้น ก็คงพิจารณาเมื่อถึงการพิจารณา ในส่วนของกระทรวงกลาโหมและสำนักนายกรัฐมนตรี โดยประเพณีแล้วการตรวจสอบงบฯลับว่าจะใช้อะไรไปบ้าง ทางหน่วยงานจะชี้แจงให้ประธานในที่ประชุม กมธ.ได้มีโอกาสดู และเห็นว่าใช้อะไรแล้วก็ส่งคืน เพราะฉะนั้นในส่วนนี้อาจจะเป็นความลับของหน่วยงานราชการ ซึ่งที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยได้ดู อย่างไรก็ตามอาจจะมีการซักถามบ้างว่าจะใช้งบประมาณไปในแนวไหน เป็นภาพกว้างๆ ซึ่งมีหลายหน่วยงานใช้รวมกัน ทางผู้รับผิดชอบก็อาจจะเปิดเผยในภาพรวม เท่าที่ดูยอดงบฯลับก็มีไม่มาก ถ้าเทียบในแต่ละหน่วย
“ขึ้นชื่อว่าความลับ ก็คือความลับ และเป็นงบฯที่มีอยู่ เป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณที่เคยมีทุกปีอยู่แล้ว ถามว่าเปิดเผยได้หรือไม่ ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารต้องถามฝ่ายบริหารว่าจะเปิดเผยอย่างไร” นายวิรัช กล่าว
สำหรับการพิจารณาพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม วงเงินไม่เกิน 500,000 ล้านบาทนั้น ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่าในวิปรัฐบาลได้หารือและเตรียมความพร้อมโดยมี ส.ส.รัฐบาลแสดงความจำนงที่จะอภิปราย 25 คน แบ่งเวลากับฝ่ายค้านฝั่งละ 9 ชั่วโมง ซึ่งต้องรอดูหาก ส.ส. รัฐบาลใช้เวลาไม่ครบก็อาจจะใช้เวลาอภิปรายเพียงวันเดียว ทั้งนี้ไม่กังวลกรณีที่ฝ่ายค้านประกาศไม่ให้ความเห็นชอบพระราชกำหนด เพราะ เชื่อว่าคงเหมือนกรณีพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ ที่ฝ่ายค้านก็ประกาศเช่นนี้แต่สุดท้ายสภาก็รับหลักการ เพราะในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลยืนยันว่าการลงมติจะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
นายวิรัช ยังกล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายกังวลที่งบฯ กระทรวงสาธารณสุขถูกปรับลดลง ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่าตอนนี้เชื่อว่าทุกฝ่ายอยากทราบถึงการฉีดวัคซีน และถ้าเป็นไปได้อยากให้เป็นกระทรวงลำดับต้นๆ ในการพิจารณา
ส่วนความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเพิ่มงบประมาณให้กับกรมควบคุมโรคติดต่อ นายวิรัช กล่าวสั้นๆ ว่ามีความเป็นไปได้ ซึ่งต้องหารือกันก่อน .- สำนักข่าวไทย