fbpx

“องอาจ” นัด ส.ส.ปชป. ถก พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้าน

กทม. 6 มิ.ย.-“องอาจ” นัด ส.ส.ปชป. ประชุมถก พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้าน ฝาก 4 แนวทางใช้เงินกู้สู้โควิด

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ว่า ตนได้เชิญ ส.ส. ของพรรค ประชุมในวันอังคารที่ 8 มิ.ย. 2564 นี้ เวลา 13.30 น. เพื่อเตรียมความพร้อมในการพิจารณา พ.ร.ก. เงินกู้เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่จะมีการประชุมพิจารณา พ.ร.ก.นี้ในวันพุธที่ 9 มิ.ย. นี้


เมื่อพิจารณา พ.ร.ก. นี้ พบว่า จะนำเงินกู้ไปใช้จ่ายใน 3 ส่วนสำคัญ คือ

  1. ใช้จ่ายทางด้านสาธารณสุข
  2. การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
  3. การฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้กรอบวงเงินกู้ 5 แสนล้านบาท

การออก พ.ร.ก.เพิ่มเติมครั้งนี้ต่อเนื่องมาจากที่ออก พ.ร.ก. 1 ล้านล้านบาท ซึ่งจากการดำเนินการตาม พ.ร.ก. 1 ล้านล้านบาทที่ผ่านมา พบว่ามีทั้งที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในขณะที่หลายโครงการก็ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์


เพราะฉะนั้นการใช้เงินกู้เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตาม พ.ร.ก. นี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลและ ศบค. ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษในประเด็นต่างๆ ดังนี้

  1. ต้องนำการใช้เงินกู้ที่ผ่านมาเป็นบทเรียนว่าอะไรบ้าง ที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายอย่างที่ควรจะเป็นและเร่งปรับปรุงแก้ไข เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
  2. การดำเนินการใดๆ จากการใช้เงินกู้ที่ผ่านมาประสบผลสำเร็จเป็นไปตามเป้าหมายก็อาจทำต่อไป แต่ควรมีมาตรการใหม่ๆ ออกมาเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์มากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะมาตรการช่วยเหลือเยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
  3. การใช้เงินกู้ครั้งนี้ ไม่ควรมุ่งเน้นแก้ปัญหาระยะสั้น หรือปัญหาเฉพาะหน้า แต่เพียงอย่างเดียว ควรให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในระยะยาวด้วย เพราะโควิด-19 อาจจะอยู่กับเรายาวพอสมควร จึงควรเตรียมความพร้อมรับมือล่วงหน้า
  4. เป้าหมายสำคัญของ พ.ร.ก. นี้ไม่ควรเป็นเพียงการให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ จากโควิด-19 เท่านั้น แต่ควรสร้างความเชื่อมั่น ให้ประชาชนมั่นใจว่าภาระหนี้ที่เราต้องแบกรับร่วมกันนี้จะทำให้เราสามารถอยู่รอดปลอดภัยจากโควิด-19 ด้วยการบริหารจัดการทางด้านสาธารณสุข การเยียวยา และแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจสังคมอย่างนักบริหารมืออาชีพ

นายองอาจกล่าวเพิ่มเติมว่า เชื่อมั่นว่าข้อเสนอนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการใช้เงินทุกบาททุกสตางค์อย่างคุ้มค่า แก้ปัญหาได้จริง จึงขอฝากนายกรัฐมนตรี และ ศบค. ดำเนินการให้การใช้จ่ายตาม พ.ร.ก. เงินกู้ครั้งนี้เป็นไปตามวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนงานไม้ค้ำ จ.เชียงใหม่

กลุ่มวัยรุ่นตะลุมบอนชกต่อยกันในงานแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้จัดงานติดป้ายเตือนทะเลาะวิวาทในงาน จับได้ปรับ 75,000 มอบให้คนถ่ายคลิป 5,000

ล่า “จัก เขาบายศรี” ถ้าต่อสู้อาจจำเป็นต้องวิสามัญ

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นหลายจุดทั่วเมืองชลบุรี ล่าตัว “จัก เขาบายศรี” มือกราดยิงวันไหล ย่านบ่อนไก่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หากเจอตัวแล้วยิงต่อสู้ อาจจำเป็นต้องวิสามัญ วอนญาติรีบประสานพามามอบตัว

ข่าวแนะนำ

ปลัด ก.พาณิชย์ เสียชีวิตอย่างสงบ ในวัย 56 ปี

ครอบครัวรัชโน แจ้งข่าว นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ จากไปแล้วอย่างสงบ ด้วยวัย 56 ปี หลังจากมีอาการวูบและล้มในห้องน้ำ เมื่อวันที่ 10 เม.ย.

จับตา ครม.เศรษฐา 2 โผเริ่มนิ่ง คาดไม่เกินสัปดาห์

จับตา “ครม.เศรษฐา 2” โผเพื่อไทยเริ่มนิ่ง คาดไม่เกินสัปดาห์ รอตรวจสอบประวัติว่าที่รัฐมนตรี “สุทิน-หมอชลน่าน-ไชยา-เกรียง” ส่อหลุดเก้าอี้ ด้าน “ธรรมนัส” ยันโควตา พปชร. อีก 1 ตำแหน่ง เป็นของ “ไผ่ ลิกค์”

“ดาว บ้านดอน” ลูกทุ่งดัง ล้มในห้องน้ำ

“ดาว บ้านดอน” วัย 76 ปี เจ้าของผลงานเพลงดัง ประสบอุบัติเหตุล้มในห้องน้ำ ล่าสุดลุกนั่งได้ ลืมตาได้ และรู้สึกตัวดี แต่ยังไม่สามารถพูดได้

“บิ๊กต่าย” เซ็นให้ “บิ๊กโจ๊ก-4 ลูกน้อง” ออกจากราชการไว้ก่อน

รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เซ็นคำสั่งให้ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” พร้อมลูกน้องอีก 4 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน หลังถูกดำเนินคดีอาญา