ศาล รธน. แจงคำวินิจฉัยวันอ่านกับที่ลงประกาศในราชกิจจาฯ ผลเดียวกัน

กรุงเทพฯ 2 มิ.ย.-ศาลรัฐธรรมนูญ แจงคำวินิจฉัยวันอ่านกับที่ลงประกาศในราชกิจจาฯ เป็นผลอย่างเดียวกัน

ศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้ ( 2 มิ.ย.) สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้ เผยแพร่คำชี้แจงของโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องกระบวนการจัดทำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าเริ่มจากในวันลงมติ เมื่อตุลาการไม่น้อยกว่า 7 คน ซึ่งเป็นองค์คณะประชุมมาครบองค์คณะจะแถลงด้วยวาจาตามความเห็นส่วนตนของตุลาการแต่ละคนที่จัดทำเป็นหนังสือ โดยผลการลงมติต้องเป็นเสียงข้างมาก


จากนั้นศาลจะรวบรวมความเห็นส่วนตนของตุลาการ ซึ่งให้เหตุผลที่หลากหลายของเสียงข้างมากมาเรียบเรียงเพื่อจัดทำคำวินิจฉัย โดยมีเนื้อหาตามที่กำหนดไว้ใน มาตรา 73 วรรคหนึ่งของ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 ประกอบด้วยข้ออ้างและคำขอ ข้อโต้แย้ง ประเด็นแห่งคดี สรุปข้อเท็จจริงที่ได้จากการพิจารณา เหตุผลในการวินิจฉัยในแต่ละประเด็น และบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่ยกขึ้นอ้างอิง รวมทั้งผลแห่งคำวินิจฉัย สำหรับผลของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญตาม มาตรา 76 บัญญัติให้มีผลในวันอ่าน ทั้งคดีที่มีคู่กรณีและคดีที่ไม่มีคู่กรณี โดยคดีที่มีคู่กรณี ให้คำวินิจฉัยของศาลมีผลในวันอ่าน ส่วนคดีที่ไม่มีคู่กรณีซึ่งศาลไม่ได้อ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟัง ให้ถือว่าวันที่ศาลลงมติเป็นวันอ่าน

การจัดทำคำวินิจฉัยที่ศาลใช้อ่านให้คู่กรณีฟังนั้น ศาลจะจัดทำผลการวินิจฉัยเพื่อใช้ในการอ่านให้คู่กรณีฟังโดยย่อ ก่อนที่ศาลจะจัดทำคำวินิจฉัยฉบับสมบูรณ์ส่งไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ภายใน 30 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญมีเวลาเพียงพอในการจัดทำคำวินิจฉัยให้ครบถ้วนสมบูรณ์


“เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ นอกจากมีที่มาจากเหตุผลที่หลากหลายของตุลาการเสียงข้างมากแล้ว ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางบรรทัดฐานอันเป็นรากฐานสำคัญของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ รวมทั้งผูกพันต่อรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระและหน่วยงานของรัฐด้วยเช่นกัน โดยที่ผลของคำวินิจฉัยในวันที่ศาลอ่านกับผลของคำวินิจฉัยที่ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษานั้น เป็นผลอย่างเดียวกัน มิได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด” คำชี้แจงระบุ

ทั้งนี้คำชี้แจงดังกล่าวน่าจะสืบเนื่องจากหลัง ราชกิจจานุเบกษามีการเผยแพร่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ชี้ว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร ไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ จากเหตุ ต้องคำพิพากษาศาลแขวงรัฐนิวเซาท์เวลส์ ออสเตรเลีย ให้จำคุกในคดียาเสพติด แล้วมีการนำคำวินิจฉัยดังกล่าวไปเปรียบเทียบกับเนื้อหาคำวินิจฉัยที่คณะตุลาการฯมีการอ่าน ให้คู่กรณีฟังในวันที่นัดอ่านคำวินิจฉัย 5 พฤษภาคม โดยเห็นว่ามีความแตกต่างกัน .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สั่งย้ายครูแบทแมน

สั่งเด้ง “ครูแบทแมน” ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน

กัน จอมพลัง บุก ก.ศึกษาธิการ ร้องเอาผิดครูชายสวมหน้ากากแบทแมน ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน จ.อุทัยธานี ล่าสุดสั่งย้าย “ผอ.โรงเรียน-ครูแบทแมน” เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้าน “สส.ชาดา-กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่ ขีดเส้นตายสอบเอาผิด

แม่อดีตครูสาว ยังติดใจสาเหตุ หลังพบศพในรถลานจอด รพ.

“น้องกิ๊ฟ” อดีตครูหายตัวไปเกือบ 1 เดือน พบอีกทีเป็นร่างไร้วิญญาณในรถยนต์บนลานจอดของโรงพยาบาล ญาติยังติดใจสาเหตุวอนตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไขข้อสงสัย

สั่งจำคุก “อัจฉริยะ” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีละเมิดอำนาจศาล

ศาลอาญาสั่งจำคุก “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล เผยแพร่เอกสารสรุปย่อคำพิพากษาต่อสื่อมวลชนโดยไม่ได้รับอนุญาต

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง กทม.-ปริมณฑล อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาฯ

นายกฯ เผยวงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลชื่นมื่น

นายกฯ เผยวงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลชื่นมื่น รีแล็กซ์ปิดห้องคุยรับศึกซักฟอก ลั่นต้องเป็นเอกภาพ เพื่อเสถียรภาพรัฐบาล ไม่กังวลตกเป็นเป้าใหญ่ พร้อมแจง-มั่นใจรัฐมนตรีทุกคนสอบผ่าน ยอมรับดื้อทุกพรรค รวมถึงนายกฯ แต่ไม่ต้องตบให้เข้าที่

แม่อดีตครูสาว ยังติดใจสาเหตุ หลังพบศพในรถลานจอด รพ.

“น้องกิ๊ฟ” อดีตครูหายตัวไปเกือบ 1 เดือน พบอีกทีเป็นร่างไร้วิญญาณในรถยนต์บนลานจอดของโรงพยาบาล ญาติยังติดใจสาเหตุวอนตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไขข้อสงสัย

บอร์ดคดีพิเศษ เลื่อนโหวตคดีฮั้วเลือก สว.

บอร์ดคดีพิเศษ เลื่อนโหวตคดีฮั้วเลือก สว. เชิญประธาน กกต. ชี้แจง 5 มี.ค. ก่อนเคาะอีกครั้ง 6 มี.ค. เสียงแตก แย้งให้ส่งอนุกรรมการกลั่นกรองคดีพิเศษตามขั้นตอนก่อน ขณะที่กรรมการบางส่วน เสนอรับเฉพาะที่เกี่ยวกับคดีอาญา “ภูมิธรรม” ยันไม่กระทบสัมพันธ์พรรคร่วม “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย”