นายกฯ ยันเร่งแก้ปัญหาวัคซีนให้เพียงพอ

รัฐสภา 1 มิ.ย.- นายกรัฐมนตรี ยืนยันเร่งแก้ปัญหาวัคซีนให้เพียงพอกับประชาชน ไม่ต้องการให้มีคนเสียชีวิตจากโควิด-19 แม้แต่คนเดียว แจงหนี้สาธารณะเพิ่ม ส่วนหนึ่งเอาไปใช้หนี้จากภาระจำนำข้าว พร้อมย้ำงบจัดหาอาวุธจำเป็นสำหรับป้องกันภัยคุกคามและจัดสรรเพียง 1 ใน 3 ของความต้องการ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงต่อที่ประชุมสภา หลัง ส.ส.ฝ่ายค้านอภิปรายพาดพิง ย้ำการจัดสรรงบประมาณปี 2565 ได้ไตร่ตรองและคัดกรองอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าตัวเลขสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกเมื่อเทียบกับประเทศใหญ่แล้ว มียอดสูงทั้งสิ้น แม้แต่ในอาเซียนก็มีอย่างต่อเนื่อง ส่วนประเทศไทย ยอดติดเชื้อเริ่มลดลง พร้อมยืนยันจะเร่งแก้ปัญหาโดยเร็ว ขณะเดียวกัน ตนคำนวณจำนวนวัคซีนในฐานะเคยเป็นทหารว่า ไทยมีเวลาฉีดวัคซีนให้ประชาชนตั้งแต่เดือนมิถุนายน-ธันวาคม หากหาวัคซีนได้เพิ่มอีก 10 ล้านโดส ก็จะฉีดได้ประมาณ 70 ล้านคน ซึ่งอาจเป็นเข็มแรก และเข็มสองนั้น มีแผนรองรับการติดต่อสั่งซื้อให้เพียงพอ อีกทั้งวัคซีนอื่นเพิ่มเติมเข้ามาอีก ณ วันนี้ได้ซิโนแวค กับแอสตราเซเนกา ยืนยันได้รับวัคซีนตามแผนในเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป และยังมีวัคซีนซิโนฟาร์มเข้ามาเสริมอีก ส่วนวัคซีนไฟเซอร์ที่มาขึ้นทะเบียนกับไทย ก็มีแผนในไตรมาส 3-4

อย่างไรก็ตาม ปัญหาวัคซีนวันนี้ คือ ทั่วโลกกำลังแย่งวัคซีน จึงต้องเป็นวัคซีนของรัฐ ที่รัฐจะนำส่งออกได้หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่บริษัทจะขออนุมัติจากรัฐบาลของเขา และโชคดีที่เราทำสัญญาไว้ก่อนแล้ว โดยย้ำว่าไทยมีงบประมาณไม่จำกัดในการจัดหาวัคซีน และการนำเข้าต้องผ่าน อย. เท่านั้น


สำหรับคุณภาพของวัคซีนนั้น นายกรัฐมนตรียืนยันว่า มีข้อมูลอ้างอิงจาก 3 สถาบัน พร้อมย้ำทุกการตัดสินใจอยู่ใน ศบค. ไม่ใช่ไปสั่งใคร ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีถอนหายใจ พร้อมยืนยันรัฐบาลกพยายามทำเต็มที่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน การที่ ส.ส. มาโจมตีว่าหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น ก็อยากถามกลับว่า รู้หรือไม่ รัฐบาลตนใช้หนี้จำนำข้าวไปแล้ว 705,000 ล้าน เหลืออีก 280,000 ล้าน ต้องทยอยใช้อีก 12 ปี จึงจะหมดภาระ

นายกรัฐมนตรี ชี้แจงค่าใช้จ่ายการจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ในปี 2563 และปี 2564 รวมทั้งสิ้น 21,134 ล้านบาท และโดยใช้งบกลาง 11,346 ล้านบาท จากงบเงินกู้ 9877 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงแค่จะใช้งบประมาณของกระทรวงเท่านั้น และการพิจารณาใช้งบกลางไม่สามารถตัดสินใจเองได้ แต่จะต้องขออนุมัติและมีกระบวนการตรวจสอบจากองค์กรภายในของรัฐบาลและองค์กรภายนอก ทั้ง สตง.-ป.ป.ท.-ป.ป.ช. ยืนยันไม่เคยถูกละเว้นการตรวจสอบ และสามารถชี้แจงได้ว่าทำตามกติกากฎหมาย ขณะเดียวกันยืนยันรัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้งการพัฒนาวิจัยภายในประเทศ ซึ่งในปี 2563 สถาบันวิจัยจุฬาได้รับงบในการผลิตพัฒนาวัคซีน mrna 365 ล้านบาท และศูนย์วิจัยไพรเมท ในการเพิ่มโครงสร้างพื้นฐานด้านสัตว์ทดลองจำนวน 35 ล้านบาท รวมใช้งบประมาณกลางปี 2563 จำนวน 400 ล้านบาท

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับวงเงินกู้จากปี 2563 และปี 2564 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์พัฒนาศักยภาพการผลิตและควบคุมคุณภาพวัคซีน 49 ล้านบาท ไบโอเนท พัฒนาและผลิตวัคซีนงบประมาณ 650 ล้านบาท มรภ.พระจอมเกล้าธนบุรี สำหรับโรงงานต้นแบบผลิตยาชีววัตถุแห่งชาติและพัฒนาห้องปฏิบัติการเฉพาะทาง 562 ล้านบาท และองค์การเภสัชในการขยายศักยภาพการผลิตวัคซีนและการแบ่งบรรจุวัคซีน 239 ล้านบาท อีกทั้งยังมีงบประมาณของไบยาไฟโตฟาร์ม ในการวิจัยและทดสอบวัคซีน 164 ล้านบาท สวทช. โครงการพัฒนาวัคซีนต้นแบบ 200 ล้านบาท ซึ่งรวมแล้วใช้งบประมาณจากเงินกู้และงบกลาง 2260 ล้านบาท นี่คืองบประมาณสำหรับการวิจัยและพัฒนาภายในประเทศ


ขณะที่โครงการความร่วมมือวิจัยกับต่างประเทศโดยบริษัทสยามไบโอซายน์ ใช้งบประมาณกลางปี 2563 จำนวน 600 ล้านบาท เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีและนำมาผลิตภายในประเทศภายใต้มาตรฐานการควบคุมของประเทศเจ้าของลิขสิทธิ์ ส่วนวัคซีนซิโนแวค การจัดหาจัดซื้อภายในประเทศจำนวนเกือบ 69.1 ล้านโดส โดยมีวัคซีนซิโนแวคจำนวน 8.1 ล้านโดส ใช้งบประมาณกลางปี 2564 วงเงิน 5,059 ล้านบาท ส่วนวัคซีนแอสตราเซเนกา 26 ล้านโดส ใช้งบประมาณ กว่า 5,000 ล้านบาท ส่วนอีก 35 ล้านโดส 6,378 ล้านบาท นอกจากนี้ค่าฉีดวัคซีน ใช้เงินกู้ปี 2564 วงเงิน 1,520 ล้านบาท และมีค่ารักษาอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท จึงขอยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญในการดูแลประชาชน

“การระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบกับทุกประเทศทั่วโลก โดยมุ่งหวังว่าไม่ต้องการให้คนไทยต้องเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว เพราะผมรักประชาชน โดยได้คิดทุกวันว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และจะบริหารให้เกิดความทั่วถึงทุกพื้นที่ที่มีความจำเป็น ซึ่งไม่ได้ ไหวังผลประโยชน์ใดตอบแทน”นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงเรื่องการจัดซื้ออาวุธยุทธโธปกรณ์ ยืนยันไม่ต้องการให้มีการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง แต่สิ่งที่สำคัญที่จะต้องประเมินคือภัยคุกคามที่เกิดขึ้นในปัจจุบันว่าเป็นอย่างไรบ้าง จะมีเหตุการณ์สู้รบหรือไม่ หรือความจำเป็นในการดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์สู้รบภายในประเทศหรือไม่ ซึ่งเป็นภารกิจของรัฐบาลที่จะต้องดูแล และรัฐบาลใช้งบประมาณในการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ รถยานเกาะ เพื่อเตรียมไว้สำหรับรองรับสถานการณ์ที่จะต้องดูแลให้ประชาชนเกิดความปลอดภัยและเป็นการจัดซื้อจัดหาเพียงจำนวน 1 ใน 3 ของความต้องการทั้งหมด . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“มทภ.2” ชี้เขมรไว้ใจไม่ได้-ชายแดนยัง 50-50 หากปะทะพร้อมสู้

วปอ. 19 ส.ค.- “แม่ทัพภาค 2” ลั่นกลางวง วปอ. เหตุชายแดนยัง 50-50 ชี้ ‘เขมร’ ไว้ใจไม่ได้ หากปะทะพร้อมสู้ เตรียมคุย ‘อาร์บีซี’ ปลาย ส.ค.นี้ หวังคุยกันเข้าใจ ยึดผลประโยชน์ชาติ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวภายหลังพิธีมอบความช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงของฐานที่มั่นในการปกป้องอธิปไตย จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รู้สึกชื่นชมและดีใจที่ประเทศชาติเราเป็นอย่างนี้ คนไทยไม่ทิ้งกัน เหตุการณ์ตลอดแนวชายแดนเกือบ 1,000 กิโลเมตร มีหลายเหตุการณ์ ลูกหลานทหารพยายามทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้ การสูญเสียพวกเราป้องกันอย่างเข้มงวดทุกระดับชั้น แต่การเข้าตีบางอย่างเราเป็นฝ่ายรุกอาจมีเหตุที่พวกเราบาดเจ็บบ้าง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยทหารทุกนายที่ได้รับผลกระทบ การปฏิบัติด้านยุทธการครั้งนี้ พระองค์ทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณสิ่งของที่มอบให้ในวันนี้ จะนำไปใช้กับน้องๆ ที่อยู่หน้าแนวตามวัตถุประสงค์ ที่ทุกท่านได้มอบให้โดยด่วน ซึ่งบางครั้งงบประมาณราชการ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก รัฐบาล ได้มอบให้เพียงพอ แต่บางรายการนั้นเร่งด่วน รอการจัดหาตามช่วงเวลาไม่ทัน […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ตั้งกรรมการสอบปมหนังสือต้อนรับ “เดชอิศม์”

สงขลา 19 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สงขลา สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหนังสือราชการมีลายเซ็นผู้ว่าฯ ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก “เดชอิศม์” ขีดเส้นแล้วเสร็จใน 30 วัน นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกคำสั่งจังหวัดสงขลา เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อโซเชียลมีการเผยแพร่ภาพหนังสือราชการที่มีลายเซ็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวกนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการเดินทางมาราชการในพื้นที่ จนก่อให้เกิดความเสียหาย มีการตั้งข้อสังเกตวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดสงขลา คณะกรรมการดังกล่าวมีนายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานกรรมการฯ ให้ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก่อนรายงานผล พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้สั่งแต่งตั้ง เพื่อพิจารณาสั่งการ และหากปรากฏมีการกระทำความผิดจริงให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ครม.เคาะแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กมหาดไทย 25 ตำแหน่ง

ทำเนียบ 19 ส.ค. – ครม.เห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” อธิบดี พช. นั่งพ่อเมืองปากน้ำ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (19 ส.ค. 68) กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เช่น ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ยกเว้นนายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป -สำนักข่าวไทย