รมช.กลาโหม แจงปี 65 กองทัพได้รับจัดสรรงบลดลง

รัฐสภา 31 พ.ค.-รมช.กลาโหม แจงกองทัพบูรณาการกับหน่วยงานอื่นสนับสนุนการแก้ปัญหาโควิด-19 และปี 65 กองทัพได้รับการจัดสรรงบลดลง ยืนยันใช้งบประมาณที่ได้รับให้เกิดประโยชน์สูงสุด


พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ชี้แจงประเด็นการจัดสรรงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ว่า ขอบคุณที่ให้ความสนใจในงบกลาโหมปี 65 ในทุกหน่วยงาน ซึ่ง รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพใช้ศักยภาพ ทรัพยากรที่มีอยู่ กำลังคน เครื่องมือ หน่วยแพทย์ โรงพยาบาล ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบูรณาการร่วมกันช่วยเหลือป้องกันการแพร่ระบาดโควิดอย่างต่อเนื่อง เช่น จัดตั้งสถานที่กักกันโรคแห่งรัฐ กลไกลสำคัญอย่างหนึ่งที่จะป้องกัน การจัดกองกำลังป้องกันแนวชายแดน การจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม จัดยานพาหนะสนับสนุนรับ-ส่งผู้ป่วยที่ยืนยันแล้ว ฯลฯ

ทั้งนี้ในปี 63 กระทรวงกลาโหมได้รับการจัดงบ 2.3 แสนล้าน พอมีสถานการโควิด-19 ได้มีการส่งคืนงบประมาณเพื่อใช้เยียวยาให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจำนวน 1.8 หมื่นล้านบาท และในปี 64 กระทรวงกลาโหมได้รับการจัดสรรงบประมาณ 2.1 แสนล้านบาท ส่วนปี 65 ได้รับการเสนองบประมาณ จำนวน 203,281,969,300 บาท ลดลงร้อยละ 5.24 โดยมีการลดลงในทุกรายการ ซึ่งกระทรวงฯ จะใช้จ่ายสำหรับการพัฒนาร้อยละ 17 ก่อสร้างปรับปรุงอาคารสถานที่ ร้อยละ 9 และใช้จ่ายบุคลากร ปฏิบัติภารกิจของหน่วย ร้อยละ 74


พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า กองทัพจะต้องมีการประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา เพราะประเทศไทยมีพื้นที่ติดเขตทะเลหลายด้าน ทั้งอ่าวไทย  ทะเลอันดามัน ซึ่งมีผลประโยชน์ทางทะเล โดยปัญหาพื้นที่ทับซ้อนที่สร้างความขัดแย้งยังคงมีอยู่  ดังนั้นต้องมีงบประมาณสำหรับเตรียมการปกป้องผลประโยชน์ของชาติไว้บางส่วน ส่วนงบจัดหายุทโธปกรณ์ก็มีเพียง 1 ใน 3 เท่านั้น และทุกกองทัพก็คำนึงถึงภาวะประเทศ โดยพยายามพึ่งตนเอง และพัฒนาปรับปรุงเทคโนโลยีอุตสาหกรรมให้มีประสิทธิภาพใช้งานได้ เช่น สามารถผลิตยางรถยนต์ทางทหารได้เอง กระสุนปืนเล็กสามารถผลิตใช้เองได้ 50 ล้านนัดต่อปี ซ่อมแซมยุทโธปกรณ์ที่ชำรุดให้ใช้งานได้ หรือเอาส่วนที่หมดสภาพไปแลกเปลี่ยน ส่วนยุทโธปกรณ์ใหม่ๆ เราจะจัดหามาเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อให้สามารถรองรับภาระกิจได้ตามที่ได้รับมอบหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

“ขอยืนยันว่ากระทรวงกลาโหมให้ความสำคัญในเรื่องการดูแลประชาชนทุกเรื่อง โดยเฉพาะสถานการณ์ปัจจุบันโดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ประสานกับหน่วยงานสาธารณะสุข เพื่อทำให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น โดยยืนยันว่าเราจะใช้งบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่สุด” พลเอกชัยชาญกล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง