นายกฯ กำชับเกษตรจังหวัดดูแลเกษตรกรในฤดูเพาะปลูก

กรุงเทพฯ 30 พ.ค.- นายกฯ กำชับเกษตรจังหวัดปรับการประชาสัมพันธ์ข้อมูลน้ำกับเกษตรกรในฤดูเพาะปลูก ลดความเสียหาย โดยเฉพาะนาข้าว


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงเดือน พ.ค.เป็นต้นไป ถือว่าเข้าสู่ฤดูการเพาะปลูกข้าว และพืชพันธุ์ต่างๆของเกษตรกร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะปัญหาด้านน้ำ

โดยเฉพาะข้าวนาปีต้องอาศัยน้ำฝน แต่ปีนี้เกษตรกรต้องเผชิญกับฝนขาดช่วงในต้นฤดูกาล ทำให้บางพื้นที่ขาดแคลนน้ำในช่วงต้น โดยฝนเริ่มตกลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายเดือน พ.ค. แต่หลายพื้นที่ยังขาดแคลนน้ำอยู่ จึงให้กรมชลประทาน เร่งให้การช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันความเสียหายของนาข้าวที่ได้มีการเพาะปลูกไปแล้ว


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี กำชับให้สำนักงานเกษตรแต่ละจังหวัด ติดตามการพยากรณ์อากาศโดยกรมอุตุนิยมวิทยา และการรายงานสถานการณ์น้ำของสํานักทรัพยากรน้ําแห่งชาติ และกรมชลประทานอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำ หากพื้นที่ใดยังไม่เหมาะต่อมาการเพาะปลูก ให้มีการประชาสัมพันธ์แก่เกษตรกรได้รับทราบอย่างทั่วถึง พร้อมมีการแจ้งถึงแนวทางการดูแลการเพาะปลูกอย่างเหมาะสม โดยช่วงเวลาของการเพาะปลูก ซึ่งต้องคำนึงฤดูน้ำหลากที่จะมาถึงด้วย

“นายกฯ เห็นว่าที่ผ่านมา แม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการประชาสัมพันธ์สื่อสารกับเกษตรกร แต่ยังไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร ทำให้บางครั้งแม้มีการแจ้งเตือนไปแล้ว แต่ก็ไม่มีการปฏิบัติตามข้อแนะนำ ส่งผลให้การเพาะปลูกได้รับความเสียหาย จึงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานราชการ ในการปรับปรุงระบบประชาสัมพันธ์ ให้เข้าถึงเกษตรกรได้อย่างรวดเร็วและมากที่สุด โดยนอกจากช่องทางการสื่อสารหลักที่มีอยู่แล้ว ควรพิจารณานำรูปแบบการสื่อสารระบบออนไลน์มาปรับใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพราะถือเป็นรูปแบบการสื่อสารใหม่ ที่เข้าถึงประชาชนได้ง่ายและทั่วถึง” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ย้ำให้แต่ละพื้นที่ปรับปฏิทินการเพาะปลูกพืชให้สอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศอย่างเหมาะสม ให้กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำตามมาตรการที่วางไว้ พร้อมการจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศให้เพียงพอตลอดทั้งปีด้วย ควบคู่ไปกับการวางแผนป้องกันและบรรเทาอุทกภัย การวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงอุทกภัย พร้อมมีระบบการแจ้งเตือนประชาชนที่มีประสิทธิภาพ ป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับพื้นที่การเกษตรให้ได้มากที่สุด


รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ยังเน้นย้ำนโยบายการพัฒนาข้าวรวมถึงพืชเศรษฐกิจต่างๆ ให้มีการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ พร้อมให้ยึดหลักการการตลาดนำการเพาะปลูก ผลผลิตต้องไม่เกินความต้องการ โดยมีฐานข้อมูลวิเคราะห์ประเมินอุปสงค์อุปทานของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศควบคู่กันไป ซึ่งตัวเลขความต้องการสินค้าเกษตรจะเป็นข้อมูลสำคัญในวางแผนการการปลูก

ปัจจุบันหน่วยงานรัฐได้พัฒนาระบบฐานข้อมูลเพื่อเพิ่มองค์ความรู้ พัฒนาต่อยอดอาชีพ เช่น การใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการเพาะปลูกและการจำหน่าย เปลี่ยนจากเกษตรกรแบบดั้งเดิมให้เป็นสมาร์ท ฟาร์เมอร์ อยากให้มีการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรเข้ามาใช้ข้อมูลเหล่านี้ให้เพิ่มขึ้นด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้