ทำเนียบรัฐบาล 28 พ.ค. – ไทย-เกาหลีใต้ พร้อมกระชับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน เพิ่มพูนการลงทุนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายมุน แช-อิน ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี เป็นการหารือเพื่อรักษาพลวัตความสัมพันธ์ระหว่างกัน และเพื่อยืนยันการสนับสนุนเกาหลีใต้ในการเป็นเจ้าภาพการประชุมระดับผู้นำกรอบหุ้นส่วนเพื่อการเจริญเติบโตสีเขียวและเป้าหมายโลกปี 2030 ครั้งที่ 2
ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายกรัฐมนตรียินดีที่ได้มีโอกาสหารือกับประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ในวันนี้ เชื่อมั่นว่าจะเป็นการหารือเพื่อกระชับความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างไทย-เกาหลีใต้ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งขอขอบคุณ และเป็นเกียรติที่ไทยจะได้เข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำ P4G ครั้งที่ 2 ณ กรุงโซล ผ่านระบบวีดิทัศน์แบบถ่ายทอดสดร่วมกันกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ในวันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคมนี้ เชื่อมั่นว่าการประชุมฯ จะประสบความสำเร็จ
ขณะที่ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ขอบคุณการสนับสนุนของไทยต่อการเป็นเจ้าภาพการประชุม เป็นการสะท้อนว่า ไทยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และพร้อมมีบทบาทในเวทีนานาชาติ เกาหลีใต้ให้ความสำคัญในการดำเนินนโยบายมุ่งใต้ใหม่และนโยบายมุ่งใต้ใหม่พลัส และให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงนโยบายนี้ ขอบคุณบทบาทของนายกรัฐมนตรีที่นำพาประเทศไทยได้อย่างเข้มแข็ง ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะผ่านความท้าทายนี้ไปได้ด้วยดี ซึ่งด้วยศักยภาพและประสบการณ์ของไทยและเกาหลีใต้ สามารถร่วมมือกันเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาความท้าทายในประชาคมโลกได้
สำหรับประเด็นความร่วมมือทวิภาคี ด้านการค้าการลงทุน ทั้งสองฝ่ายยินดีที่เกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีการลงทุนโดยตรงในไทยเป็นอันดับ 1 ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564 ซึ่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เชื่อมั่นว่า ไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพด้านการลงทุน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการค้าการลงทุนของเกาหลีใต้และไทยมีความร่วมมือ และพยายามจัดการประชุมเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนเพิ่มเติม ทั้งนี้ เป็นผลจากการพบกันในการเดินทางเยือนไทยของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เมื่อปี 2562
ด้านเศรษฐกิจสีเขียว เกาหลีใต้ชื่นชมนโยบายของไทยที่ให้ความสำคัญกับการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางควบคู่กับการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งเน้นการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ในการยกระดับอุตสาหกรรม และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เป็นการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการสร้างสมดุลกับธรรมชาติ
ในเรื่องอุตสาหกรรมแห่งอนาคต นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่า เป็นสาขาความร่วมมือที่มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหลังโควิด-19 จึงได้เสนอเชิญชวนเกาหลีใต้ลงทุนในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และอุตสาหกรรมเพื่อการเจริญเติบโตสีเขียว ในเขตอีอีซี ซึ่งฝ่ายเกาหลีใต้ตอบรับการสนับสนุนการลงทุนในเขตอีอีซี
ด้านสาธารณสุข เป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่สำคัญในขณะนี้ ทั้งสองประเทศมีศักยภาพและมีประสบการณ์ จากการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ทั้งสองฝ่ายมุ่งหวังให้เร่งรัดจัดทำความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข
ในตอนท้าย ทั้งสองฝ่ายได้หยิบยกประเด็นความร่วมมือแบบพหุภาคี เกาหลีใต้ชื่นชมบทบาทการเป็นแกนกลางในภูมิภาคของไทย ไทยชื่นชมและพร้อมสนับสนุนบทบาทเชิงสร้างสรรค์ของเกาหลีใต้ที่มุ่งรักษาความสมดุลระหว่างประเทศ ตามแนวทางสันติวิธีเช่นเดียวกับไทย ทั้งนี้ ไทยมุ่งหวังว่า อาเซียนและเกาหลีใต้จะได้ร่วมกันสร้างความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม และทั้งสองฝ่ายได้หารือเชิงสร้างสรรค์ต่อสถานการณ์ในเมียนมาในโอกาสนี้ด้วย.- สำนักข่าวไทย