รัฐสภา 27 พ.ค.- การประชุมสภาวันนี้ มีวาระการพิจารณา พ.ร.ก.เกี่ยวกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และ พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ยังไม่มีการพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ มีวาระพิจารณา พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และ พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แต่ยังไม่พิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 500,000 ล้านบาท เพราะสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ยังส่งพระราชกำหนดดังกล่าวไม่ถึงสภาผู้แทนราษฎรแต่ หาก พ.ร.ก.กู้เงิน ส่งมาถึง ก็บรรจุทันที แต่ต้องพิจารณาหลังจากพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณแล้วเสร็จก่อนในสัปดาห์หน้า
โดยก่อนเริ่มประชุมสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้แจ้งต่อสมาชิก ถึงมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ต้องทำตามที่สาธารณสุขแนะนำ พร้อมขอให้เข้าใจว่าเป็นไปเพื่อการป้องกันการติดเชื้อให้มีประสิทธิภาพ แม้อาจไม่สะดวกบางเรื่อง พร้อมกำชับว่า ระหว่างการอภิปราย อย่าอยู่ใกล้คนอภิปราย ให้อยู่ห่างที่สุดเท่าที่จะทำได้
พร้อมขอบคุณความหวังดีที่สมาชิกอยากให้เลื่อนประชุม แต่เท่าที่คุยส่วนตัวกับสมาชิก ส่วนใหญ่อยากให้ประชุม เพราะบางเรื่องมีเงื่อนเวลาตามที่กฎหมายกำหนด จึงจำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ขณะที่ในช่วงประชุม 2 สัปดาห์นี้จะขอไม่ให้มีการหารือของสมาชิก
จากนั้นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้อ่านพระราชโองการเปิดสมัยประชุม และให้นายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ส.ส.นครศรีธรรมราช ปฏิญาณตนก่อนทำหน้าที่ ก่อนที่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงหลักการของ พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่า ใช้บังคับมานานกว่า 95 ปี ไม่สอดคล้องกับเศรษฐกิจในปัจจุบัน มีการเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราสูง ไม่เป็นธรรมกับลูกหนี้ อีกทั้งโควิด-19 ทำให้ลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดเวลา ถือเป็นกรณีฉุกเฉิน ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ที่รัฐบาลต้องตราพระราชกำหนด เพื่อให้ปรับเปลี่ยนการคิดอัตราดอกเบี้ยให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ โดยให้ปรับลดเหลืออัตราร้อยละ 3 ต่อปี สามารถคิดอัตราดอกเบี้ยลดหรือเพิ่มได้ และสามารถทบทวนได้ทุก 3 ปี
ขณะที่ ส.ส.ต่างอภิปรายสนับสนุน เพราะเห็นว่าจะเกิดประโยชน์แก่ลูกหนี้ทำให้ได้รับความเป็นธรรมจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินควรกรณีผิดนัดชำระหนี้ที่คำนวนเงินเฉพาะเดือนที่ผิดชำระหนี้ โดยไม่คิดจากเงินต้นทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย