ผู้ตรวจการแผ่นดิน 27 พ.ค.-ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตั้งทีมติดตามแก้ปัญหาวัคซีนโควิด-19 ห่วงความพร้อมในการฉีดวัคซีนตามเป้าของรัฐบาล แนะควรเปิดโอกาสให้โรงพยาบาลเอกชน
พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงการจัดการวัคซีนของรัฐบาล ว่าที่ผ่านมาได้มีการปรับเปลี่ยนการตัดสินใจมาอยู่ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. แต่ล่าสุดยังมีความสับสน ทั้งเรื่องการได้มาซึ่งวัคซีน การจัดส่งวัคซีนไปยังสถานพยาบาล เรื่องนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาติดตามการแก้ปัญหาเรื่องวัคซีน โดยมีความเป็นห่วงคือแผนการฉีดวัคซีนเป็นอย่างไร วัคซีนจะได้มาเมื่อไหร่ และที่สำคัญคือเป้าหมายที่รัฐบาลประกาศว่าจะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนประมาณ 50 ล้านคน ให้แล้วเสร็จภายในปี 2564 ซึ่งขณะนี้เหลือประมาณ 7 เดือนเศษ
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นห่วงว่าต้องฉีดให้ได้วันละเกือบ 250,000 โดสต่อวัน บุคลากรทางการแพทย์พร้อมหรือไม่ เข็มฉีดวัคซีน สถานที่ และต้องบริหารจัดการให้ดี เพื่อไม่ให้คนไปแออัด ส่วนที่มีการปรับเปลี่ยนวิธีการลงทะเบียนฉีดวัคซีนจากหมอพร้อมนั้น ต้องหาวิธีการสื่อสารกับประชาชน หากชี้แจงไม่ชัดเจนอาจจะทำให้เกิดความหวั่นไหว และขาดความเชื่อมั่น แต่ที่สำคัญคือวัคซีนจะได้ตามกำหนดเวลาหรือไม่ จึงอยากฝากถึงรัฐบาลว่าน่าจะให้คำตอบที่ทำให้สังคมมีความเชื่อมั่นว่าจะได้วัคซีนในกำหนดเวลาที่เหมาะสม” พล.อ.วิทวัส กล่าว
พล.อ.วิทวัส กล่าวอีกว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่า น่าจะให้โรงพยาบาลเอกชนที่มีความพร้อม มีความรู้ มีบุคลากร เข้ามาช่วยฉีดวัคซีน อย่างกรณีของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ คิดว่าเป็นจุดเปลี่ยนการเข้าถึงวัคซีนที่ได้ดำเนินการ โดยมีสิทธิที่จะเข้าไปซื้อวัคซีนที่แตกต่างจากรัฐบาลได้ และสามารถช่วยฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ดังนั้นอยากให้รัฐบาลลองพิจารณาโรงพยาบาลเอกชนที่มีอยู่ทุกจังหวัด จะสามารถช่วยฉีดวัคซีนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลต้องการได้.-สำนักข่าวไทย