ศบค.เผยผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,713 ราย

ทำเนียบ วันนี้  (24 พ.ค. )   ศบค. เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19  รายใหม่ 2,713 ราย “กทม.- เพชรบุรี”พบผู้ติดเชื้อสูง  จับตาคลัสเตอร์ในจังหวัดสมุทรปราการ  ขณะที่เรือนจำแนวโน้มดี ผู้ป่วยลดลง


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์  ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19  (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้  ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,713 ราย  แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 2,507 ราย  จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 206 ราย  พบผู้ป่วยยืนยันสะสม 132,213 ราย  รักษาหายป่วยเพิ่ม 1,565 ราย  สะสม 86,100 ราย กำลังรักษาอยู่ 45,307 ราย  แบ่งเป็นรักษาในโรงพยาบาล 18,753 ราย  และโรงพยาบาลสนาม 26,554 ราย  เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 1,169 ราย  ใส่เครื่องช่วยหายใจ 406 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 30 ราย  รวมเสียชีวิต 806 คน

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 2,713 ราย  เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,147 ราย  จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 1,311 ราย  จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 206 ราย  และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้า State Quarantine 49 ราย


สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 30 ราย  อยู่ใน กทม. 11 ราย  นครราชสีมา ราชบุรี  จังหวัดละ 3 ราย สมุทรสาคร  สมุทรปราการ จังหวัดละ 2 ราย  ปทุมธานี สกลนคร ตาก อยุธยา เชียงราย สุรินทร์ ชัยภูมิ นนทบุรี ชัยนาท จังหวัดละ 1 ราย  โรคประจำตัว  ความดันโลหิตสูง เบาหวาน  ยังเป็นปัจจัยหลักเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค  ปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19  จากการสัมผัสผู้ติดเชื้อที่เป็นคนในครอบครัว  อายุค่ากลาง 67 ปี  อายุน้อยสุด 28 ปี  อายุมากสุด 105 ปี  รักษานานที่สุด 35 วัน และมี 7 คนเสียชีวิตในสัปดาห์แรก  และบางคนไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อ  พอพบว่าติดเชื้อทำให้อาการแย่ลง

แนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19  รายใหม่  ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. – 24 พ.ค. 2564  จากระบบเฝ้าระวังยังมีแนวโน้มคงตัว   จากการคัดกรองเชิงรุกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ส่วนในเรือนจำและที่ต้องขังมีแนวโน้มลดลง

ผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศวันนี้  ผู้ติดเชื้อมาจากอินเดีย 6 ราย  เป็นคนไทยทั้งหมด  เป็นการเดินทางกลับบ้าน   คนไทยในกัมพูชาขอเดินทางกลับไทยเยอะขึ้น ทำให้พบเยอะขึ้น วันนี้เพิ่ม 41 ราย  แต่ยังมีพบการลักลอบเข้ามา  โดยพบจำนวน 2 ราย  ส่วนที่เหลือเข้ามาถูกต้อง  การลักลอบเข้าประเทศยังคงมีอยู่ ในระดับไม่ต่ำกว่า 100 ราย  วานนี้ พบ 105 ราย  โดยเฉพาะฝั่งเมียนมามากที่สุด 57 ราย  และจะมีความเข้มงวดมากขึ้นในการลักลอบเข้าประเทศ  รวมถึงการสืบสวนตั้งแต่ต้นทาง ถึงปลายทาง  เช่น  โรงงาน, ผู้อำนวยความสะดวก ให้กลุ่มผู้ลักลอบเข้ามาจะมีการดำเนินการทางกฎหมายเด็ดขาด


สถานการณ์ในประเทศ   ในพื้นที่ กทม. จังหวัดเพชรบุรี  ยังคงพบผู้ป่วยเพิ่มสูง   จังหวัดสมุทรปราการ  มีการพบคลัสเตอร์ในคอนโดฯ แห่งหนึ่ง  ซึ่งพบผู้ป่วยแล้ว  81 ราย กำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวนและสรุปข้อมูลเพิ่ม  แนวโน้มในหลายจังหวัดดีขึ้น  และในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล  จำนวนผู้ป่วยอาการหนักและที่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจยังคงตัว  ส่วนจังหวัดอื่นจำนวนผู้ป่วยอาการหนักยังคงตัว  ส่วนที่ต้องใส่เครื่องช่วยยหายใจมีจำนวนลดลง

ส่วน 10 อันดับ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ   วันนี้  คือ 1. กรุงเทพมหานคร  951 ราย  2. เพชรบุรี 669 ราย   3. สมุทรปราการ 180 ราย   4. ชลบุรี 106 ราย   5. นนทบุรี 92 ราย  6. สมุทรสาคร 43 ราย   7. ปทุมธานี 38 ราย   8. สงขลา 36 ราย   9. ระนอง 30 ราย  10. นครปฐม 28 ราย

ทั้งนี้พบ 27 จังหวัด ที่ไม่พบผู้ป่วยเพิ่มในวันนี้  คือ ขอนแก่น, พัทลุง, พิษณุโลก, ลำพูน, กระบี่, ลำปาง, อ่างทอง, สุรินทร์, เพชรบูรณ์, กำแพงเพชร, นครพนม, น่าน, ชุมพร, กาฬสินธุ์, พะเยา, เลย, แพร่, อุตรดิตถ์, ชัยนาท, หนองคาย, พังงา, อำนาจเจริญ, แม่ฮ่องสอน, มุกดาหาร, อุทัยธานี, บึงกาฬ, สตูล  และหากเอาสีเขียวกับสีขาวรวมกัน จำนวนผู้ติดเชื้อต่ำกว่า 10 ราย  พบถึง 55 จังหวัด   ส่วนสีแดงพบผู้ติดเชื้อเกิน 100 ราย คือ กรุงเทพมหานคร เพชรชบุรี สมุทรปราการ ชลบุรี

สำหรับปัจจัยเสี่ยง 3 อันดับแรก  คือ 1.ผู้สัมผัส 33%  2.ในเรือนจำและที่ต้องขัง 25%  3.ชุมชน พื้นที่เสี่ยง แออัด 13%   ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ปัจจัยเสี่ยงส่วนใหญ่ตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย. – 23 พ.ค. 2564  มาจากการสัมผัสผู้ป่วย  สัมผัสใกล้ชิดกันในครอบครัว ที่ทำงาน  การติดเชื้อในชุมชน  พื้นที่เสี่ยง แออัด ติดเชื้อในเรือนจำและที่ต้องขัง

ส่วนผู้ติดเชื้อโควิด-19  ระลอกเดือนเมษายน เริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย. 2564 เป็นต้นมา พบผู้ติดเชื้อแล้ว 103,350 ราย  เป็นผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบในระบบเฝ้าระวังและบริการ 65,199 ราย ตรวจพบจากการค้นหาคัดกรองเชิงรุก 18,033 ราย  เรือนจำ/ที่ต้องขัง 15,819 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ 485 ราย  หายป่วยสะสม 58,674 ราย  เสียชีวิตสะสม 712 ราย

ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก  ยอดผู้ติดเชื้อรวม 167,518,744 ราย  อาการรุนแรง 96,937 ราย  รักษาหายแล้ว 148,531,144 ราย  เสียชีวิต 3,478,243 ราย อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด  1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 33,896,660 ราย   2. อินเดีย จำนวน 26,751,681 ราย  3. บราซิล จำนวน 16,083,573 ราย    4.ฝรั่งเศส จำนวน 5,603,666 ราย     5. ตุรกี จำนวน 5,186,487 ราย     โดยประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 87 จำนวน 132,213 ราย .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก จะทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์

พรรคภูมิใจไทย 10 ก.ย.-“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก ขอนำประสบการณ์ที่มีทั้งหมด ทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอบคุณเสียงชื่นชม-ความคาดหวัง เป็นกำลังใจทำงาน รับทำไม่ได้ทุกเรื่อง แต่จะเลือกทำสิ่งที่เกิดผลอย่างดีที่สุด นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดใจถึงความมุ่งมั่นที่เข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า ตนมีความตั้งใจเหมือนนายกฯ พูดไปแล้วว่า ระยะเวลาสั้นๆ นี้ เป็นระยะเวลาที่มีความท้าทาย และมีความสำคัญมาก ประเทศเราต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะระยะเวลาสั้นแค่ไหน “ดิฉันในฐานะที่มีโอกาสได้ทำงานมาหลากหลาย รวมถึงงานระหว่างประเทศด้วย ตั้งใจจะนำเอาประสบการณ์ ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมด มาทุ่มเทให้ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีธงเดียวกับนายกฯ คือ ทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติและพี่น้องประชาชนให้ได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ” นางศุภจี กล่าว เมื่อถามว่า สังคมชื่นชมและคาดหวังผลงานต่อจากนี้ นางศุภจี กล่าวว่า ขอบคุณที่ได้รับการชื่นชม และได้รับการคาดหวัง ถือเป็นกำลังใจที่ดีอย่างยิ่ง และจะยิ่งเป็นกำลังใจที่ทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง ดังนั้นก็จะประสานมือกับทีมงานทุกคนภายใต้นโยบายของนายกฯ และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ทำเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทยให้กลับมาให้ได้ ภายในระยะเวลาอันสั้น เมื่อถามว่า ถือเป็นการบ้านที่หนักหรือไม่ เพราะเข้ามาในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศเป็นแบบนี้ นางศุภจี กล่าวว่า […]

ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์

กัมพูชา 10 ก.ย.- ไทย-กัมพูชา เดินหน้าคืนสันติภาพชายแดน ผลประชุม GBC สมัยพิเศษ ที่เกาะกง สรุป 5 ประเด็นสำคัญ ตั้งแต่ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ไปจนถึงจัดการพื้นที่พิพาท รมช.กลาโหม ย้ำสองประเทศต้องอยู่ร่วมกันด้วยสันติวิธี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ วันที่ 10 กันยายน 2568 ณ จังหวัดเกาะกง ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการตามผลการประชุม GBC ที่มาเลเซียที่ผ่านมา เพื่อนำสันติภาพและความสงบสุขกลับมาสู่พื้นที่ชายแดนได้อย่างถาวร พร้อมย้ำถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในภาพรวม หลังการหยุดยิงดำเนินมากว่า 1 เดือน ว่ามีความสงบมากขึ้น แม้ยังมีข้อกังวลบางประการที่ต้องแก้ไข เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับมาเต็มร้อย โดยผลการประชุมสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้ 1. การถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูง ออกจากพื้นที่ชายแดนกลับสู่ที่ตั้งปกติ โดยฝ่ายเลขานุการ GBC และ RBC จะหารือกันภายใน 3 […]

พนังกั้นน้ำขาด ทะลักท่วมนาข้าว-ถนนถูกตัดขาด

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – ผลพวงอุทกภัยจากพายุหนองฟ้า ทำพนังกั้นลำน้ำยัง บ้านทรายมูล ต.ขวาว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ทรุดตัวและขาด ส่งผลมวลน้ำทะลักท่วมนาข้าวเกือบพันไร่ เส้นทางสัญจรถูกตัดขาด ภาพนาทีน้ำจากตอนบนในพื้นที่ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ไหลทะลักท่วมพื้นที่ ทำให้พนังกั้นลำน้ำยัง บ้านทรายมูล ต.ขวาว อ.เสลภูมิ ถูกน้ำกัดเซาะจนทรุดและขาดกว้างประมาณ 5 เมตร ยาว 6 เมตร และเอ่อเข้าท่วมนาข้าวของชาวบ้าน 3 ตำบล คือ ต.ขวาว, ต.นางาม และ ต.นางาม ชาวบ้านและผู้นำชุมชนต้องระดมเครื่องจักรกล ถุงบิ๊กแบ็ก เข้าอุดพนังที่ขาด เพราะวิตกว่ามวลน้ำจำนวนมากจะทำให้นาข้าวที่กำลังหว่านปุ๋ยรับรวง จำนวนเกือบ 1,000 ไร่ เสียหาย จนไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด ได้สั่งการให้ ปภ. ประสานนำเครื่องจักรกลหนักเข้าเสริมกั้นน้ำ นำถุงบิ๊กแบ็ก 280 ถุง เข้า จัดวาง […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย