ฟ้องศาลยกเลิกมติ ครม.ออก พ.ร.ก.กู้เงิน

ศาลปกครอง  วันนี้  ( 24 พ.ค.)    “ธีระชัย”  อดีต รมว.คลัง ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด  ขอให้ยกเลิกมติ ครม.ที่ออก พ.ร.ก.กู้เงิน 7 ล้านบาท และ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท เนื่องจากฝ่าฝืนหลักวินัยการเงินการคลัง และขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ


นายธีระชัย  ภูวนาถนรานุบาล  อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด   ให้เพิกถอนมติคณะรัฐมนตรีที่ให้กระทรวงการคลังออก พ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มอีก 7 แสนล้านบาท  และย้อนหลังไปถึง พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท  เนื่องจากเห็นว่าการกู้เงิน 7 แสนล้านบาทจะขัดต่อระเบียบวินัยการเงินการคลัง   ซ้ำรอยกับ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว  ที่มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาให้อำนาจเบ็ดเสร็จ  เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายเงินดังกล่าว ทำให้การใช้จ่ายเงินของรัฐมีความหละหลวม  ไม่มีกระบวนการตรวจสอบให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย และยังฝ่าฝืนวินัยการเงินการคลัง  จึงยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยเรื่องนี้ 

นายธีระชัย  ยืนยันว่า ไม่ขัดข้องที่รัฐบาลจะกู้เงิน  เพราะตระหนักว่าประชาชนมีความเดือดร้อน และประชาชนจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อการแก้ปัญหาโควิด-19  แต่เห็นว่าการใช้จ่ายเงินของรัฐ  จำเป็นต้องมีการควบคุมตรวจสอบตามหลักวินัยการเงินการคลัง  มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้  ซึ่งหากรัฐบาลยืนยันจะกู้เงิน  ก็แนะนำให้แก้ไขร่าง พ.ร.ก. โดยขอให้ใช้หลักการเดียวกับ พ.ร.ก. สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่กู้เงินเพื่อโครงการไทยเข้มแข็ง  และ พ.ร.ก.สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่กู้เงินเพื่อบริหารจัดการน้ำท่วมใหญ่   ซึ่งทั้งสองกรณี กำหนดให้การใช้จ่ายเงินเป็นไปตามหลักวินัยการเงินการคลัง


ทั้งนี้เมื่อกฎหมายดังกล่าวเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ  แต่รัฐบาลยืนยันที่จะเดินหน้า บังคับใช้กฎหมายต่อไปก็อาจจะถูกยื่นฟ้องดำเนินคดีตามช่องทางต่างๆ ทั้งผ่านผู้ตรวจการแผ่นดิน  ศาลปกครอง หรือศาลรัฐธรรมนูญ

นายธีระชัย  ยังกล่าวอีกว่าขณะนี้รัฐสภากำลังจะปิดสมัยประชุม และเชื่อว่าในภาพรวมทุกพรรคการเมือง เข้าใจถึงเหตุผลและความจำเป็นในการแก้ปัญหาโควิด-19 ซึ่งมีความซับซ้อนและรายละเอียดต่างๆ มากมาย   ดังนั้นหากรัฐบาลนำกฎหมายเสนอเข้าสู่สภาตามปกติในรูปพระราชบัญญัติก็จะทำให้มีการอภิปรายกันด้วยเหตุด้วยผล  และอาจไม่เกิดความสุ่มเสียง  เพราะในขณะนี้ปัญหาโควิด-19 ได้เกิดมาระยะหนึ่งแล้ว หากจะอ้างความเร่งด่วนก็หมายถึงว่าไม่สมเหตุสมผลและไม่ใช่ความเร่งด่วนอย่างแท้จริง .-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ