รัฐบาลยกระดับสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย-กลุ่มเปราะบางต่อเนื่อง

กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – รัฐบาลยกระดับสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบางต่อเนื่อง โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง


นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันโดยการนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สานต่อแนวทางการพัฒนาระบบสวัสดิการเพื่อผู้มีรายได้น้อยและประชาชนกลุ่มเปราะบาง ตามนโยบาย “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” โดยเฉพาะการช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้มีรายได้น้อย 14.6 ล้านคน เช่น การซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ก๊าซหุงต้ม ค่าโดยสารรถสาธารณะ โดยในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว เมื่อปี 2562 รัฐบาลได้จ่ายเงินเพิ่มให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ เป็นเวลา 2 เดือน เพื่อพยุงการบริโภคของประชาชน 500 บาท/คน/เดือน ช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ถือบัตร 500 บาท/คน/เดือน ช่วยเหลือการเลี้ยงดูบุตรของผู้ถือบัตร 300 บาท/คน/เดือน

นอกจากนี้ ยังออกมาตรการช่วยเหลือต่อเนื่องเป็นเวลา 12 เดือน คือ มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าให้กับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 230 บาท/ครัวเรือน/เดือน มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปาให้กับผู้ที่ใช้น้ำไม่เกิน 100 บาท/ครัวเรือน/เดือน และมาตรการชดเชยเงินจากภาษีมูลค่าเพิ่ม เมื่อผู้ถือบัตรจ่ายค่าสินค้าหรือบริการผ่านบัตรสวัสดิการฯ โดยโอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งพักชำระหนี้แก่ผู้ถือบัตรเป็นเวลา 2 ปี และยกระดับร้านค้าธงฟ้าพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น มีผู้ประกอบการเข้าร่วมกว่า 121,000 ราย เกิดการใช้จ่ายผ่านบัตรมากกว่า 90,000 ล้านบาท


ส่วนในปี 2563 ช่วงที่โรคโควิด-19 ระบาด รัฐบาลได้จ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 3,000 บาท/คน และเพิ่มวงเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ระยะที่ 1 อีก 500 บาท/คน/เดือน เป็นเวลา 3 เดือน จากนั้นในปี 2564 ผู้ถือบัตรยังได้รับเงินช่วยเหลือ 7,000 บาท/คน ตามโครงการเราชนะ และได้รับวงเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ระยะที่ 2 อีก 500 บาท/คน/เดือน เป็นเวลา 3 เดือน

สำหรับประชาชนกลุ่มเปราะบาง รัฐบาลจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได ตั้งแต่ 600-1,000 บาท/คน/เดือน ปรับเบี้ยความพิการ ระยะที่ 1 จาก 800 บาท/เดือน เป็น 1,000 บาท/เดือน และระยะที่ 2 กำหนดอัตราเบี้ยขั้นต่ำ 1,000 บาท/เดือน และสูงสุด 2,270 บาท/เดือน (กรณีที่มีความยากลำบากทางการเงินให้สมทบเพิ่ม 1,200 บาท/เดือน และกรณีที่มีความพิการระดับรุนแรง สมทบเพิ่ม 1,870 บาท/เดือน) และยังจ่ายเงินอุดหนุนตามโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด 600 บาท/คน/เดือน จนอายุครบ 6 ปี โดยในปี 2563 ได้เพิ่มกรอบวงเงินงบประมาณจากปีก่อนหน้าถึง 7,390.87 ล้านบาท นอกจากนี้ ประชาชนกลุ่มเปราะบาง ทั้งเด็ก ผู้พิการ และผู้สูงอายุ ยังได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลในช่วงที่โรคโควิด-19 ระบาด อีกคนละ 3,000 บาท อีกด้วย. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”