หวั่นนำเงินกู้ไปใช้ไม่โปร่งใส


กรุงเทพฯ 19 พ.ค.- นักวิชาการ วอน รัฐบาลคำนึงปัญหาความเหลื่อมล้ำ- ความเสมอภาคของแรงงานนอกระบบฯ ก่อนกู้เงิน 7 แสนล้านบาทรับมือโควิด ชี้ ยังไม่เห็นแผนแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน อาจสร้างหนี้สาธารณะเพิ่ม หวั่นเงินกู้ถูกนำไปใช้แบบไม่โปร่งใส

รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เปิดเผยกับสำนักข่าวไทย ถึงกรณี ครม.อนุมัติ พ.ร.ก.กู้เงิน 7 แสนล้านบาท รับมือโควิด-19 ระลอกใหม่ ว่า สิ่งสำคัญคือต้องทบทวนย้อนหลังว่าตลอดระยะเวลา 1 ปีที่มีการกู้เงินมาและเงินกำลังจะหมดลงแล้วนั้น เราได้ใช้จ่ายเงินตรงนั้นไปอย่างมีประสิทธิภาพอย่างไร เพราะยังไม่เห็นภาพประสิทธิผลอะไรได้ชัดเจน ฉะนั้นวันนี้ ที่จะกู้เงินเพิ่มเติมอีกจะต้องพิจารณา 3 ประเด็นหลัก คือ 1.ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จะเห็นว่าความเหลื่อมล้ำในประเทศไทยมีช่องว่างมากขึ้นเป็นลำดับ ดังนั้นควรจะต้องพูดถึงมาตรการต่างๆ เพื่อที่จะทำให้ความเหลื่อมล้ำลดลง 2.แรงงานกว่าร้อยละ 55 เป็นแรงงานนอกระบบ และในแรงงานร้อยละ 55 นี้มีแรงงานที่อยู่ในภาคเกษตรกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 92 ดังนั้น เมื่อถึงจุดที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ จะเป็นกลุ่มคนที่ไม่ได้รับการเยียวยาจากระบบของประกันสังคม ดังนั้นจึงต้องทำให้เกิดความเสมอภาค และโอกาสที่จะเข้าถึงได้มากขึ้นกว่าเดิม 3.ระบบการคุ้มครองทางสังคม ที่ในประเทศไทยอยู่เพียงร้อยละ 3.7 ของจีดีพีเท่านั้น ในขณะที่บางประเทศที่พัฒนาแล้ว อย่างเกาหลีใต้อยู่ร้อยละ 10.1 ของจีดีพี ซึ่งระบบคุ้มครองทางสังคมตรงนี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้เรื่องของความมั่นคงของมนุษย์ หลักประกันต่างๆในชีวิตที่จะทำให้ประชาชนได้รับการดูแล


รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวอีกว่า การกู้เงิน 7 แสนล้านบาท แม้ว่าเงินส่วนใหญ่ 4 แสนล้านบาทจะนำไปใช้ในการเยียวยาให้ประชาชนระยะสั้น หรือ แม้กระทั่ง 2.7 แสนล้านบาท จะถูกนำไปใช้ในเรื่องการแก้ปัญหาการกระตุ้นเศรษฐกิจการจ้างงานและการลงทุนและอีก 3 หมื่นล้านบาทจะถูกนำไปใช้ในเรื่องระบบสาธารณสุขก็ตาม แต่โอกาสที่เราจะเห็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนจากการกู้เงินส่วนนี้ก็ยังมีไม่มากนัก ขณะที่จำนวนเงินเหล่านี้ก็จะมีส่วนในการที่จะทำให้เกิดหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันกรอบวินัยทางการเงินการคลังของประเทศไทยแม้ว่าจะยังไม่เกิน 60% แต่ในระยะยาวก็มีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้น หากกรอบวินัยการเงินการคลังเกินกว่า 60% ขึ้นไป ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของประเทศไทยก็จะเกิดปัญหา ซึ่งก็จะมีความสัมพันธ์กับพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายแผ่นดินปี 2565 อีกด้วย

“จะเห็นว่า งบประมาณแผ่นดินที่จะทำกันอยู่ก็ยังคงเป็นโครงสร้างของงบประมาณแบบเดิมๆ ซึ่งยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญมากนัก คือให้น้ำหนักในงบประมาณที่เป็นรายจ่ายประจำ ทั้งเงินเดือนและค่าตอบแทนต่างๆมากกว่างบลงทุน ดังนั้นการที่จะมีเงินในการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนก็ยังเป็นส่วนที่น้อยอยู่ และงบประมาณแผ่นดินตรงนี้ก็จะถูกนำเงินที่กู้มา 7 แสนล้านบาทเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเงินที่จะนำไปใช้จ่ายด้วย เราจึงเห็นปรากฏการณ์ของการขยายตัวของงบกลางที่เกิดขึ้นในระยะหลังมากขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งสะท้อนให้เห็นปัญหาของความเป็นรัฐราชการของประเทศไทย ที่ทำให้เรื่องของงบกลางขยายตัวมากขึ้น เพราะแต่ละหน่วยงานต้องการความยืดหยุ่น ความคล่องตัวในการใช้จ่ายเงินตรงนี้ แต่อย่างไรก็ดีในการที่มีงบกลางมากขึ้นก็จะทำให้เรื่องของความโปร่งใสตรวจสอบได้ แม้กระทั่งประสิทธิภาพประสิทธิผลในการใช้จ่ายงบประมาณก็ถูกลดทอนความสำคัญลงไป และแน่นอนที่สุดว่า เงินกู้ที่กู้มา ส่วนใหญ่ก็คงจะไปอยู่ที่งบกลาง ดังนั้น กระบวนการที่จะทำให้เกิดความโปร่งใสและตรวจสอบได้ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และการแก้ปัญหาในเชิงนโยบายที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในและสร้างระบบเศรษฐกิจที่เป็นการวางรากฐานอย่างยั่งยืนซึ่งเป็นคำตอบที่สำคัญมากกว่าเรื่องของการกู้เงินมา เพราะที่ผ่านมาการกู้เงิน 1 ล้านล้านบาทก็ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจหรือความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น”รศ.ดร.ยุทธพร กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน