หนุนรัฐบาลกู้เงินเพิ่มแก้โควิด

กรุงเทพฯ 19 พ.ค.-นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ ระบุ รัฐบาลจำเป็นต้องกู้เงินเพิ่ม 700,000 ล้านบาทรับมือโควิดระลอกใหม่ ชี้เพดานหนี้สาธารณะยังไม่เกินเป้า ย้ำ ฉีดวัคซีนทั่วถึงเป็นปัจจัยสำคัญฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ


นายสมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง เปิดเผยกับ “สำนักข่าวไทย” กรณีกระแสข่าวที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติ ร่างพ.ร.ก.กู้เงินเพิ่ม 7 แสนล้านบาทรับมือโควิดระลอกใหม่ ว่า จำเป็นต้องกู้เงินจำนวนนี้ เพราะสถานการณ์โควิดคงไม่จบภายในปีนี้ อย่างเร็วที่สุดคือปีหน้า เพราะหลายประเทศก็มีโควิดระลอกใหม่เช่นเดียวกับประเทศไทย

นายสมชาย กล่าวว่า จากนี้ไปจนถึงไตรมาสที่ 4 เรื่องการฉีดวัคซีนอย่างมากที่สุดที่รัฐบาลจะทำได้ คือ 30-40% ซึ่งกว่าจะครบ100% คงปีหน้า เพราะฉะนั้นภายใต้ข้อจำกัดนี้จะเห็นได้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังอยู่ในลักษณะที่ไม่ค่อยดีนัก จะดีก็มีแค่เรื่องส่งออก แต่ประชาชนเดือดร้อน และคนตกงานมากขึ้น อย่างก่อนหน้านี้ที่รัฐบาลกู้เงินไปก็ไม่เพียงพอแน่นอน ดังนั้น ถึงอย่างไรก็ตามจึงมีความจำเป็นต้องรกู้เงินจำนวนนี้แน่นอน


“เมื่อถามว่ากู้เงินไปแล้วจะเลยเถิดไปถึงขั้นไหน หากรัฐบาลกู้ไป 700,000 ล้านบาท ตัวเลขหนี้สาธารณะก็จะมี 58-59% ซึ่งถ้าเป็นไปตามนี้ ก็ยังอยู่ในกรอบของความมั่นคงที่อยู่ประมาณ 60% หลายประเทศที่กู้ไม่ได้เค้าได้มีการผ่อนปรนเสถียรภาพจากเพดาน 60% ขึ้นไปแล้ว ทั้งสหรัฐอเมริกาและยุโรปก็ 100% ไปแล้ว ยิ่งญี่ปุ่นไม่ต้องพูดถึงเลยเถิดไปถึง 300% ผมจึงไม่แปลกใจและรัฐบาลมีความจำเป็นที่จะกู้เพิ่ม” นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวว่า หากถามว่ากู้มาแล้วเพียงพอไหม มองว่ายังไม่เพียงพอใดนัก เพราะจะเห็นว่าหลายประเทศฉีดวัคซีนยังไม่ครบ 100% และเมื่อเปิดให้ท่องเที่ยวแล้วมีคนต่างประเทศเข้ามา ก็จะกลายเป็นระลอกใหม่ ดังนั้น การกู้เงินจำนวนนี้เพียงพอสำหรับปีนี้ แต่ไม่มั่นใจว่าจะครอบคลุมถึงปีต่อไปหรือไม่ เพราะยังมีเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเยียวยาต่าง ๆ ด้วย

“มาตรการต่าง ๆ เป็นการเยียวยาเฉพาะหน้า แต่สำหรับเงินกู้ต้องมีเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเศรษฐกิจจะมารองรับเรื่องของหนี้สาธารณะได้ ง่ายง่ายคือจะทำอย่างไรเพื่อหาเงินมาจ่ายหนี้ที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น ต้องบริหารเงินในส่วนของการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการกระตุ้นเรื่องของการส่งออกและการลงทุนของภาคเอกชน” นายสมชาย กล่าว


นายสมชาย กล่าวว่า การฉีดวัคซีนให้ประชากรในประเทศมีส่วนสำคัญในการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ทุกประเทศที่ฟื้นตัวไม่ได้ฟื้นตัวด้วยเศรษฐกิจ แต่เป็นการฟื้นตัวด้วยวัคซีน หัวใจสำคัญคือต้องทุ่มเงินกับเรื่องของวัคซีน สิ่งแรกคือให้มีวัคซีนจำนวนที่เกินความพอเพียง สิ่งที่สองตัววัคซีนต้องมีความหลากหลาย เพราะมีบางตัวอย่างเช่น ไฟเซอร์ ป้องกันเรื่องของสายพันธุ์ใหม่ได้

“สิ่งที่สามนอกจากวัคซีนจะต้องเพียงพอแล้ว บางอย่างอาจจะต้องใช้โดสที่สามในปีหน้า ผมคิดว่าวัคซีนที่เราเตรียมไว้อยู่ยังไม่เพียงพอ อาจจะต้องเพิ่มอีก 200,000,000 โดส ที่สำคัญมากคือต้องฉีดให้รวดเร็วและทั่วถึง หากยิ่งช้าการแพร่ระบาด มันก็ยังเร็วขึ้นแล้ว เศรษฐกิจก็จะชะลอตัว” นายสมชาย กล่าว

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีความกังวลของประชาชนที่ไม่เชื่อมั่นการฉีดวัคซีนทั้งที่ส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นายสมชาย กล่าวว่า ประเทศไทยยังมีปัญหาน้อย บางประเทศที่ติดเรื่องศาสนา แต่ประเทศเรายังมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร คนบางคนที่ไม่ฉีด อาจเพราะรับรู้ข่าวสารว่ายี่ห้อนี้ดีหรือยี่ห้อนี้ไม่ดี ดังนั้น รัฐบาลต้องสื่อสารให้ชัดเจนว่าฉีดวัคซีนแล้วจะปลอดภัยอย่างไร ขณะที่ประชาชนบางส่วนไม่รู้ว่าจะฉีดวัคซีนที่ไหน นี่คือสิ่งที่รัฐบาลจะต้องบอกและอำนวยความสะดวกประชาชน

“โดยเฉพาะเรื่องเทคโนโลยีการจอง เพราะต้องยอมรับว่าหลายคนไม่สามารถทำได้ ทำไม่เป็น ที่สำคัญที่สุดเมื่อฉีดวัคซีนได้อย่างกว้างขวางแล้ว ทุกคนต้องอย่าการ์ดตก แม้จะฉีดวัคซีนแล้วก็ต้องสวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่าง คุมเข้มร้านค้าผู้ประกอบการอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดซ้ำรอย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 […]

5 คนร้ายปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดังย่านลาดพร้าว

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – อุกอาจ! นัดซื้อคริปโต กลายเป็นแผนปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท กลางลานจอดรถห้างดังย่านลาดพร้าว ก่อนหลบหนีลอยนวล ตำรวจเร่งสกัดจับคนร้าย เกิดเหตุอุกอาจ ปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท กลางลานจอดรถชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. โดยกลุ่มคนร้ายเป็นชาย 5 คน มีทั้งอาวุธปืนและมีด หลังก่อเหตุ กลุ่มคนร้ายใช้รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีเทา ทะเบียน ขก 1116 นครสวรรค์ หลบหนีออกจากห้าง ล่าสุดทราบว่า คนร้ายหลบหนีไปตามเส้นทางถนนสายเอเชีย สอบถามผู้เสียหาย ให้การว่า นัดกับกลุ่มคนร้ายมาซื้อทรัพย์สินเป็นเงินคริปโทเคอร์เรนซี 3.4 ล้านบาท โดยผู้เสียหายนำเงินสดมาเพื่อจ่ายแลกกับเงินคริปโต แต่ถูกฝ่ายคนร้ายชิงเงินสดทั้งหมดและขับรถหนีไป ทั้งนี้ ตำรวจสืบสวน สน.พหลโยธิน อยู่ระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี. – สำนักข่าวไทย

จับ 6 ล้อขนยาบ้า 10 ล้านเม็ด ซุกลำโพง

30 มิ.ย. – ขบวนค้ายาเสพติดยังพยายามขนยาบ้าเข้ามาทางชายแดนภาคเหนือของไทย ช่วง 9 เดือนมานี้ เจ้าหน้าที่สกัดได้กว่า 130 ล้านเม็ด แต่ที่หลุดรอดไปได้อีกมหาศาล ซึ่งพบว่ามีการขนยาบ้าลอตใหญ่เข้าสู่พื้นที่ชั้นในมากขึ้น โดยเปลี่ยนจุดพักยาบ้าเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ขนยาบ้าที่ซุกซ่อนมากับสินค้ามากขึ้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่สกัดรถ 6 ล้อ ขนยาบ้า 10 ล้านเม็ด ได้ที่จังหวัดแพร่ โดยซุกซ่อนในตู้ลำโพง คนขับอ้างว่า รับงานจากบริษัทให้ไปส่งสินค้าที่ลพบุรี โดยไม่รู้ว่ามีการซุกซ่อนยาบ้าไว้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้โรงงานผลิตทิชชู คนงานสูญหาย 9 คน

สระบุรี 30 มิ.ย. – เหตุไฟไหม้โรงงานผลิตทิชชู จ.สระบุรี มีผู้บาดเจ็บ 7 คน และยังสูญหายอีก 9 คน เป็นพนักงานประจำสำนักงานอยู่บนชั้น 2 และชั้น 3 ล่าสุดมีรายงานพบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย เกิดเหตุเพลิงไหม้รุนแรงที่โรงงานผลิตทิชชู ตั้งอยู่ภายในนิคมเหมราช อ.หนองแค จ.สระบุรี รถดับเพลิงรถน้ำจาก อ.หนองแค และใกล้เคียงกว่า 50 คัน รวมถึงอาสาสมัครจากหลายมูลนิธิ รุดไปที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้ภายในโรงงานพร้อมกับได้รับแจ้งว่ามีพนักงานอยู่ภายในสำนักงานชั้น 2 และชั้น 3 รวม 10 คน ยังไม่สามารถออกมาได้ จึงเร่งฉีดน้ำสกัดดับเพลิงแต่ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากจุดที่เกิดเพลิงไหม้มีกองกระดาษซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี กระทั่งเวลาล่วงเลยไปกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด ขณะที่รถจากโรงพยาบาลหลายแห่ง พร้อมทีมแพทย์และพยาบาลมายังจุดเกิดเหตุเพื่อรอรับผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล พร้อมกับตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ รับแจ้งตรวจสอบรายชื่อผู้สูญหาย เบื้องต้นทราบว่ามีผู้สูญหายยังไม่มารายงานตัวจำนวน 11 คน แต่ต่อมาช่วยเหลือออกมาได้ 2 คน จึงยังมีผู้สูญหายในเหตุการณ์นี้อีก […]