เตือนคนไทยในอิสราเอล ได้ยินเสียงไซเรนรีบหลบภัยโดยเร็ว

กรุงเทพฯ 19 พ.ค.- สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟออกหนังสือแสดงความเสียใจกับครอบครัวแรงงานไทยที่เสียชีวิต และบาดเจ็บจากเหตุโจมตีพื้นที่ฉนวนกาซาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ พร้อมเตือนให้ติดตามข้อมูลใกล้ชิด


นี่เป็นหนังสือที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เขียนแถลงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวแรงงานไทยที่เสียชีวิตและบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล โดยระบุว่า ตามที่มีเหตุโจมตี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 18 พฤษภาคม เหตุการณ์นี้ทำให้แรงงานไทยในอิสราเอล ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่นิคมเกษตรกรรม ใกล้พื้นที่ฉนวนกาซาเสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บอีก 8 คน

ในการนี้ สถานเอกอัครราชทูต ขอย้ำให้พี่น้องชาวไทยในอิสราเอล ติดตามข้อมูลข่าวสาร ปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด เมื่อมีเสียงไชเรนเตือนภัย ขอให้ทุกท่านรีบเข้าหลบภัยในสถานที่หลบภัยโดยเร็ว และในกรณีฉุกเฉินและต้องการความช่วยเหลือ ให้ติดต่อสถานเอกอัครราชทูตที่เบอร์ 054-636-8150 หรือ inbox ข้อความมาที่เฟซบุ๊กสถานเอกอัครราชทูต “Royal Thai Embassy, Tel Aviv” หรือ “ทุกเรื่องเมืองยิว”


ด้านนายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เหตุโจมตีด้วยระเบิดของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา เกิดขึ้นขณะที่แรงงานกลุ่มดังกล่าวทำงานอยู่ในห้องบรรจุผลิตผลทางการเกษตร ซึ่งขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอรายชื่อผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ เพื่อติดตามดูแลคนไทยที่ได้รับบาดเจ็บอย่างใกล้ชิด

ส่วนนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยนายกรัฐมนตรี ห่วงใยแรงงานไทยเสียชีวิตและบาดเจ็บเหตุระเบิดในอิสราเอล โดยสั่งลงพื้นที่แจ้งให้ความช่วยเหลือด้านสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายให้ญาติพี่น้องและครอบครัวแรงงานทราบในทันที

โดยแรงงานไทยที่เสียชีวิต 2 คน ทราบชื่อคือ นายวีรวัฒน์ การันบริรักษ์ อายุ 44 ปี ชาวเพชรบูรณ์ และนายสิขรินทร์ สงำรัมย์ อายุ 24 ปี ชาวบุรีรัมย์


ส่วนความช่วยเหลือที่แรงงานจะได้รับจากสำนักงานประกันสังคมแห่งชาติของอิสราเอล กรณีบาดเจ็บหรือพิการจะได้ค่าทดแทน แบ่งเป็นบาดเจ็บหรือพิการ 0-10% ไม่ได้รับค่าทดแทน บาดเจ็บหรือพิการ 10-19% ได้รับเงินก้อนครั้งเดียว ไม่เกิน 150,000 เชคเกล หรือประมาณ 1,500,000 บาท บาดเจ็บหรือพิการ เกิน 20% ขึ้นไป จะได้รับค่าทดแทนเป็นรายเดือนทุกเดือนจนกว่าจะเสียชีวิต โดยคำนวณจากเปอร์เซ็นต์สูญเสีย หาก 100% จะได้รับเดือนละประมาณ 6,000 เชคเกล หรือประมาณ 60,000 บาท

ส่วนกรณีเสียชีวิต ภรรยาและบุตรผู้เสียชีวิตทุกคนจะได้รับเงินช่วยเหลือทุกเดือน จนกว่าภรรยาจะแต่งงานใหม่ หรือลูกมีอายุครบ 18 ปี โดยภรรยาจะได้รับประมาณ 60% ของ 6,000 เชคเกลทุกเดือน หรือประมาณ 36,000 บาท และบุตรจะได้รับประมาณ 10-20% ของ 6,000 เชคเกลทุกเดือนหรือประมาณ 6,000-12,000 บาท

กองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ จะได้รับสิทธิประโยชน์กรณีได้รับบาดเจ็บประสบอันตรายในต่างประเทศ จ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงไม่เกินคนละ 30,000 บาท กรณีสมาชิกเสียชีวิตในต่างประเทศจะได้เงินช่วยเหลือจำนวน 80,000 บาท แบ่งออกเป็นเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวน 40,000 บาท ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการจัดการศพเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 40,000 บาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”