ศบค. เผยยอดป่วยสะสมทะลุ 1 แสนราย

ทำเนียบฯ 16 พ.ค. – ศบค. เผยยอดผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 2,302 ตายเพิ่ม 22 ราย ยอดป่วยสะสมทะลุ 1 แสนราย สั่ง ก.แรงงาน-กรมควบคุมโรค ดูแลคนไทยกลับประเทศ รับเตียงระดับสีแดงตึงตัว เฝ้าระวังการติดเชื้อจากญาติผู้ป่วยในโรงพยาบาล

แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การติดเชื้อประจำวัน ว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,302 ราย ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมด 101,447 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 38,377 ราย หายเพิ่ม 2,136 ราย รักษาอยู่ 35,055 ราย แบ่งเป็นรักษาในโรงพยาบาล 21,462 ราย และโรงพยาบาลสนาม 13,593 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 1,228 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 408 ราย เสียชีวิตใหม่ 24 ราย รวมเสียชีวิต 589 คน ขณะที่จำนวนผู้ป่วยจากเรือนจำในวันนี้พบ 1,219 ราย แต่จะมีการนำไปรวมกับตัวเลขในวันพรุ่งนี้


โดยผู้เสียชีวิตแบ่งเป็นผู้ป่วยชาย 13 ราย และผู้ป่วยหญิง 11 ราย ค่ากลางอายุ 76 ปี ระหว่างอายุ 39- 91 ปี แบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร 8 ราย, ชลบุรี, ปทุมธานี และกาญจนบุรี จังหวัดละ 2 ราย, เชียงใหม่, ศรีสะเกษ, ราชบุรี, สมุทรปราการ, ขอนแก่น, นครสวรรค์, พิจิตร, ระยอง, นครนายก และพระนครศรีอยุธยา จังหวัดละ 1 ราย ซึ่งมี 3 รายที่พบเชื้อเสียชีวิตในวันเดียวกัน โดยพบว่าโรคที่มีความเสี่ยง คือ ปอดเรื้อรัง ที่เกิดจากการดูดบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า ทำให้มีความเสี่ยงเกิดปอดอักเสบอย่างรุนแรง รวมถึงผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่สูบบุหรี่มีความเสี่ยงเช่นกัน

แพทย์หญิงอภิสมัย กล่าวว่าทิศทางผู้ติดเชื้อรายวันตั้งแต่ 1 เมษายนถึง 16 พฤษภาคม ยอดสะสมอยู่ที่ 72,584 ราย รายงานของผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศเป็นสิ่งที่ทางกรมควบคุมโรครายงานและติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งวันนี้มีผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ 23 ราย มี 3 กลุ่มประเทศ ที่ประชุมศบค. ชุดเล็ก มีความเป็นห่วง คือ กลุ่มที่เดินทางจากเมียนมา โดยช่องทางธรรมชาติ ซึ่งมีรายงานพบผู้ติดเชื้อ 1 ราย ส่วนที่เดินทางจากกัมพูชามี 14 รายในจำนวนนี้ 13 รายเป็นคนไทยและอีก 1 รายเป็นชาวออสเตรีย และอีกส่วน คือประเทศมาเลเซีย มีการเดินทางข้ามที่ด่านข้ามแดนถาวรทางบก 3 ราย จึงมอบให้กระทรวงแรงงานหารือกับกรมควบคุมโรคให้กลุ่มคนที่จะเดินทางเข้าประเทศอยู่ในความดูแลป้องกันการแพร่เชื้อและให้ผู้ติดเชื้อ รับการรักษาที่ปลอดภัย


แพทย์หญิงอภิสมัย กล่าวว่า สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดวันนี้ 10 อันดับแรกได้แก่กรุงเทพมหานคร 1,218 ปทุมธานี 243 สมุทรปราการ 117 นนทบุรี 103 ประจวบคีรีขันธ์ 66 ชลบุรี 48 สมุทรสาคร 47 สงขลา 37 พระนครศรีอยุธยา 37 และสุราษฎร์ธานี 27 ส่วนยอดสะสมสูงสุดตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนถึง 16 พฤษภาคม กรุงเทพมหานคร 25,942 นนทบุรี 4,473 สมุทรปราการ 4,053 เชียงใหม่ 3,979 ชลบุรี 3,690 ปทุมธานี 2,204 สมุทรสาคร 1,814 ประจวบคีรีขันธ์ 1,510 สุราษฎร์ธานี 1,414 และสงขลา 970 โดยมีจังหวัดที่ไม่พบรายงานผู้ติดเชื้อมี 19 จังหวัดได้แก่ ลำพูน อ่างทอง นครพนม ตราด ตาก น่าน สุโขทัย สมุทรสงคราม กาฬสินธุ์ ชุมพร อุตรดิตถ์ ชัยนาจ หนองคาย อำนาจเจริญ แม่ฮ่องสอน หนองบัวลำภู บึงกาฬ อุทัยธานี และสตูล

แพทย์หญิงอภิสมัย กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก มีการรายงานว่ามีความกังวลในคลัสเตอร์พื้นที่ต่างๆ อย่างจังหวัดราชบุรี มีรายงานการติดเชื้อในโรงพยาบาล โดยพบผู้ป่วยที่ยืนยันรายแรกเป็นผู้หญิงอายุ 31 ปี เป็นญาติผู้ป่วยเข้าไปเฝ้าแม่ที่ป่วยในโรงพยาบาลในส่วนของวอร์ดอายุรกรรมหญิง ตั้งแต่วันที่ 23-28 เมษายน และรายงานผลบวกยืนยันว่าเป็นผู้ติดเชื้อในวันที่ 30 เมษายน ซึ่งทำให้เกิดการติดเชื้อไปยังผู้ป่วยรายอื่นที่อยู่ในหอผู้ป่วยเดียวกัน 9 ราย เจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้ป่วยรายอื่นๆ 6 ราย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ไปใช้ชีวิตกับครอบครัวทำให้แม่ของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งติดเชื้อ ทำให้เกิดการติดเชื้อรวม 17 ราย และมีรายงานเพิ่มเติมว่าผู้ป่วยที่มีการยืนยันติดเชื้อมีผู้เสียชีวิตถึง 4 ราย ทั้งนี้จากการวิเคราะห์สาเหตุกรมควบคุมโรคเสนอมาตรการปิดวอร์ดอายุรกรรมหญิง ถึงวันที่ 24 พฤษภาคม และมีการทบทวนเรื่องการคัดแยกผู้ป่วยโดยเฉพาะผู้มีประวัติโรคระบบทางเดินหายใจ ให้แยกจากผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บป่วยด้วยโรคอื่น และสิ่งที่สำคัญการที่ญาติเข้ามาเฝ้าผู้ป่วย พบพฤติกรรมการพูดคุย การจับกลุ่ม รวมทั้งรับประทานอาหารร่วมกันในวอร์ดที่ทำให้เกิดการแพร่เชื้อ ส่วนนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเข้าไปดูแลและครอบคลุมให้การระบาดนั้นอยู่ในพื้นที่จำกัด และทุกโรงพยาบาลจะต้องเข้มงวดในส่วนของญาติผู้ป่วยที่เข้ามาเฝ้าดูแลในโรงพยาบาล

แพทย์หญิงอภิสมัย กล่าวอีกว่า สถานการณ์วันนี้ระดับความต้องการเตียงในระดับสีเขียวเข้มและเขียวอ่อนยังอยู่ในเกณฑ์ที่พอรองรับได้ แต่ที่เป็นห่วงคือเตียงในระดับสีเหลืองและสีแดง ซึ่งในส่วนของเตียงสีแดงค่อนข้างจะตึงตัว ตามที่กรมการแพทย์รายงานความต้องการเตียงแอดมิท 805 ราย แอดมิทแล้ว 314 ราย จัดสรรแล้วรอดำเนินการ 439 ราย มีผู้ป่วยจำนวน 52 ราย ที่ยังติดต่อไม่ได้ เนื่องจากปฏิเสธเตียง คือได้พยายามติดต่อโรงพยาบาลด้วยตนเองจึงขอรอ หรือบางรายมีการตรวจด้วยกันหลายคนในครอบครัว จึงอยากรอผลตรวจของสมาชิกอื่นๆ ทำให้เจ้าหน้าที่มีความเป็นห่วง เพราะการที่ปฏิเสธไม่ได้เข้าสู่ระบบ อาจจะทำให้อาการแย่ลงได้ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบน ควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด […]

นายกฯ หารือภาคท่องเที่ยวอังกฤษ เปิดตลาดใหม่ ดึง นทท.เข้าไทย

ลอนดอน 22 พ.ค. – นายกฯ หารือภาคท่องเที่ยวอังกฤษ เปิดตลาดท่องเที่ยวใหม่ ดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย ตั้งเป้าปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ทำให้เป็น Tourism Hub ระดับโลก ชี้ 4 เดือนแรก นักท่องเที่ยวยุโรปเข้าไทยแล้วกว่า 3.5 ล้านคน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หารือร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บริษัทท่องเที่ยวของสหราชอาณาจักร ผู้บริหารสายบิน เป็นต้น เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวของไทย จากนั้น น.ส.แพทองธาร โพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดียว่า ปีนี้ไทยตั้งเป้าเป็นปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ทำให้ไทยเป็น Tourism Hub ระดับโลก ที่ผ่านมารัฐบาลทำแคมเปญหลายอย่าง โดยเฉพาะการมุ่งเป้าทำให้การใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อคนต่อทริป (Spending […]

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

“ยิ่งลักษณ์” โพสต์ตัดพ้อ ต้องชดใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อ

กรุงเทพฯ 22 พ.ค.-“ยิ่งลักษณ์” โพสต์หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งชดใช้ 10,028 ล้านคดีจำนำข้าว ตัดพ้อ ต้องชดใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อ รับภาระหนี้จากฝ่ายปฏิบัติ ลั่นหนี้หมื่นล้านชดใช้ทั้งชีวิตยังไงก็ไม่มีวันหมด ทำเพื่อชาวนากลับมีบทสรุปที่เจ็บปวด นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความภายหลัง ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตฐานะประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติต้องชดใช้ค่าเสียหายส่วนระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี 10,028 ล้านบาท ว่า “เรียน พี่น้องประชาชนที่เคารพ วันที่ 22 พฤษภาคมปีนี้ เป็นวันครบรอบ 11 ปี รัฐประหาร ซึ่งถือเป็นการยึดอำนาจอธิปไตยของประชาชนทั้งประเทศ และเป็นวันที่ศาลปกครองสูงสุด อ่านคำวินิจฉัยให้ดิฉันต้องชดใช้หนี้กว่า 10,000 ล้านบาท จากคดีระบายข้าว ทั้งที่ดิฉันไม่ได้เป็นจำเลยในคดีนี้ และศาลปกครองกลางได้เคยวินิจฉัยว่าดิฉันไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายในกรณีดังกล่าวมาแล้ว จากคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดในวันนี้ ทำให้ดิฉันต้องชดใช้หนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ความเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารที่ต้องมารับภาระหนี้ที่เกิดจากการระบายข้าวของฝ่ายปฏิบัติ โดยที่ตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการเหล่านั้นแต่อย่างใด และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็พิพากษาในคดีของดิฉันว่า ปล่อยปละละเลยในการบริหารโครงการรับจำนำข้าวเท่านั้น นโยบายรับจำนำข้าว เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย และเป็นนโยบายที่คณะรัฐมนตรีแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องปฏิบัติ มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศจากฐานราก […]