ทำเนียบ 14 พ.ค. –ศบค. เผยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,256 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 30 ราย อายุน้อยสุด 15 ปี พิการทางสมอง ติดเตียง ระบุ ระยะครองเตียงนานขึ้น มากถึงเดือนกว่า เตือนคนกรุงเทพฯ เฝ้าระวังตัวเองและสวมหน้ากากอนามัยต่อเนื่อง หลังหลายพื้นที่สุ่มตรวจพบติดเชื้อมากขึ้น ขณะที่เขตหลักสี่ พบแคมป์คนงานอัตราติดเชื้อมากสุด
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้ เพิ่มขึ้น 2,256 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 96,050 ราย หายป่วยแล้ว 62,316 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 33,186 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 1,203 ราย, ใส่เครื่องช่วยหายใจ 408 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 30 คน ผู้เสียชีวิตสะสมรวม 538 คน
ผู้ป่วยยืนยันสะสมรอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563-14 พฤษภาคม 2564 จำนวน 67,187 ราย โดยผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น 2,256 ราย เป็นผู้ที่ติดเชื้อในประเทศ 2,068 ราย จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 1,523 ราย, จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 545 ราย, จากเรือนจำ 183 ราย, ติดเชื้อจากต่างประเทศ 5 ราย เดินทางมาจากกัมพูชา 2 ราย, มาเลเซีย 2 ราย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย ซึ่งแนวโน้มการพบผู้ป่วยทั้งประเทศยังคงพบในอัตราที่สูงขึ้น ทั้งจากการค้าหาเชิงรุก ส่วนยอดพบผู้ป่วยในเรือนจำ ลดลงเหลือเพียงร้อยกว่าราย ใน กทม. ปริมณฑล ยังคงพบผู้ป่วยสูง
สำหรับรายละเอียดผู้ที่เสียชีวิต 30 คน เป็นชาย 16 คน หญิง 14 คน อายุระหว่าง 15 ถึง 85 ปี ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ และราชบุรี โรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ไตเรื้อรัง โรคหัวใจ โรคตับ โรคปอดเรื้อรัง โรคมะเร็ง ปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ยังคงมาจากคนในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน ไปในฐานที่คนแออัด และการเดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่เสี่ยง
ส่วน 10 อันดับ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ วันนี้ คือ 1. กรุงเทพมหานคร 1,087 ราย 2. ปทุมธานี 157 ราย 3. นนทบุรี 131 ราย 4. สมุทรปราการ 121 ราย 5. ชลุบรี 64 ราย 6. ประจวบคีรีขันธ์ 52 ราย 7. สมุทรสาคร 46 ราย 8. ระยอง 33 ราย 9. พระนครศรีอยุธยา 29 ราย 10. นครราชสีมา 25 ราย
ในส่วนของทั้งประเทศพื้นที่สีขาว 16 จังหวัด ตัวเลขเป็น 0 ไม่พบผู้ติดเชื้อ ได้แก่ ลำพูน, ลพบุรี , สุรินทร์ , ตราด , ตาก , น่าน, กาฬสินธุ์ , พะเยา , เลย , ชัยนาท, หนองคาย , แม่ฮ่องสอน , หนองบัวลำภู , บึงกาฬ ,อุทัยธานี และสตูล
สำหรับในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยอดรวม 1,563 ราย ต่างจังหวัด 505 ราย ซึ่ง กทม. ปริมณฑลมากถึง 3 เท่า มีจุดตรวจที่ชุมชนสีลม เชื่อมโยงกับกลุ่มคลัสเตอร์ในจ.จันทบุรี พบเชื้อสูง 10.53% เขตวัฒนา พบในแคมป์คนงาน 2 แห่ง พบ 274 ราย 14.25% เขตคลองเตย ในชุมชนแออัดคลองเตย 3.83% เขตหลักสี่ พบในแคมป์คนงาน พบสะสม 141 ราย 21.99% เขตราชเทวี พบในกลุ่มคนทำงาน บริษัทไฟแนนซ์แห่งหนึ่ง 17.30% พบกลุ่มใหม่ที่ประตูน้ำ ในที่ทำงานเช่นกัน 3.96% เขตพระนคร พบบริเวณปากคลองตลาด 5.58% เขตดุสิต บริเวณสี่แยกมหานาค ตลาดผลไม้ สะพานขาว และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย คลองถม เสือป่า วงเวียน 22 ทั้ง 2 เขต พบ 3.52% เขตสวนหลวง พบในชุมชนโมราวรรณ 8.85% ส่วนเขตจตุจักรเป็นในเรือนจำ ซึ่งทางกรมควคุมโรคเป็นผู้ดูแล
ส่วนพื้นที่เขตที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ คือ เขตปทุมวัน ชุมชนบ่อนไก่ ติดในชุมชน พบติดเชื้อ 131 ราย เขตสาทร บริษัทขายตรงตึกเอมไพร์ ติดเชื้อในที่ทำงาน ติดเชื้อสะสม 144 ราย เขตป้อมปราบฯ ชุมชนวัดโสมนัส ติดเชื้อจากชุมชน ทานอาหารร่วมกัน ติดเชื้อสะสม 68 ราย เขตสัมพันธวงศ์ ผู้ป่วยมาทำงานที่สำเพ็ง ติดเชื้อสะสม 81 ราย และเขตจตุจักร บริษัทรถทัวร์ มีการสัมผัสในที่ทำงาน ติดเชื้อสะสม 28 ราย
โฆษก ศบค. ยังเน้นย้ำให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ทั้งสวมหน้ากากอนามัย อย่างเคร่งครัด เนื่องจากภาพรวมเฉลี่ย ในหลายพื้นที่ยังมีอัตราการตรวจพบผู้ติดเชื้อในระดับสูง .-สำนักข่าวไทย