ฟรีทุกรพ.ทั้งรัฐ-เอกชน

กรุงเทพฯ 11 พ.ค.-“ทิพานัน” ไลฟ์คุยรองเลขาฯสปสช.ยันรัฐบาลดูแลประชาชนตั้งแต่ก่อนติดเชื้อโควิดจนรักษาหายฟรีทุกรพ.ทั้งรัฐ-เอกชน ไม่สองมาตรฐาน พร้อมชดเชยหากพบอาการข้างเคียง 4 แสนบาท เผยรัฐบาลอัดเม็ดเงินหนุนสปสช.เต็มที่


น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวในไลฟ์พูดคุยกับทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กชื่อ Onn-Tipanan Sirichana เกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล หากติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า ได้สอบถามถึงบทบาทของ สปสช.ในการดูแลสิทธิการรักษาพยาบาลของประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งทพ.อรรถพรระบุว่าตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด บอร์ดสปสช.ได้บรรจุเรื่องของการรักษาโควดิให้เป็นสิทธิประโยชน์ หมายความว่าผู้เจ็บป่วยจากไวรัสโควิด-19 สามารถรักษาได้โดยไม่เสียเงิน ซึ่งกำหนดให้กลุ่มเสี่ยงเข้ารับการตรวจคัดกรองได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

“หลังจากตรวจแล้วแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือติดเชื้อกับไม่ติดเชื้อ หากไม่ติดเชื้อให้กักตัวครบ 14 วัน ตรวจซ้ำ ถ้าไม่มีเชื้อก็ปลอดภัย แต่ถ้ามีเชื้อต้องเข้ารับการรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลในสังกัดของรัฐหรือโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งสปสช.รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล ค่าห้องไอซียู ห้องความดันลบ ค่ายา ค่าจิปาถะ สปสช. จ่ายแทนประชาชนทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การเข้ารับการตรวจคัดกรองโควิดฟรี มีกติกาว่าหากสงสัยว่าตนเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงแล้วเล่าประวัติกับแพทย์หรือพยาบาลให้วินิจฉัยว่าเข้าข่ายให้ตรวจได้จึงเข้าเงื่อนไขตรวจฟรี แต่ในกรณีที่บางคนเข้าไปตรวจแบบไดรฟ์ทรู หรือขับรถเข้าไปตรวจไม่ได้พบแพทย์ก็ไม่เข้าเกณฑ์ตรวจฟรี ดังนั้น จึงต้องเป็นดุลพินิจของแพทย์ ซึ่งการออกตรวจคัดกรองเชิงรุกก็ไม่เสียค่าใช้จ่ายเช่นกัน” น.ส.ทิพานัน ระบุ


น.ส.ทิพานัน ระบุว่า กรณีครอบครัวอยู่ในบ้านเดียวกันหลายคนและมีคนหนึ่งติดโควิดอีก 6 คนที่เหลือจำเป็นต้องตรวจหรือไม่ รองเลขาฯสปสช.กล่าวว่ากรณีดังกล่าวเข้าเกณฑ์เนื่องจากสมาชิกในครอบครัวติดโควิด และใช้ชีวิตร่วมกัน มีโอกาสใช้ของและรับประทานอาหารร่วมกัน เมื่อคุณหมอวินิจฉัยแล้ว ประชาชนไม่ต้องจ่ายแต่รัฐบาลจ่ายค่าตรวจ แทนที่จะเรียกเก็บจากประชาชนมาเรียกเก็บจาก ซึ่งรัฐบาลบอกสปสช.ให้ทำให้เต็มที่ ถ้างบประมาณหมด จะเติมเงินให้ ดังนั้นโรงพยาบาลมั่นใจได้ว่า ถ้าเข้าเกณฑ์แล้วตรวจ รัฐบาลโดยสปสช.จะจ่ายให้

“เมื่อประชาชนตรวจแล้วพบเป็นโควิดสามารถรักษาฟรี ทั้งโรงพยาบาลของรัฐและโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งทพ.อรรถพร ยืนยันว่ากติกาคือโรงพยาบาลไหนตรวจพบว่าติดเชื้อโควิดแล้วต้องรับรักษาเป็นคนไข้ในของโรงพยาบาลนั้น หากจะส่งต่อให้โรงพยาบาลอื่นจะต้องเป็นโรงพยาบาลในเครือข่าย แต่มีบางกรณียกตัวอย่างผู้ป่วยไปตรวจที่โรงพยาบาล ก.แล้วบอกให้รอเตียงระหว่างรอเตียง ไปติดต่อกับโรงพยาบาลเอกชนอื่น ขอไปรักษาตัวอย่างนี้ก้ำกึ่ง อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นโรงพยาบาลเอกชนสปสช.รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลรวมทุกรายการที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ได้รวมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างอื่น เช่น ห้องพิเศษ เพิ่มเติม และบริการอื่นที่ไม่ใช่ความจำเป็นพื้นฐาน ต้องจ่ายเงินเอง ยืนยันว่าไม่มีสองมาตรฐาน เพราะไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน ก็มุ่งหวังรักษาให้หายเร็วที่สุด ต้องถึงมือแพทย์ให้เร็วและดูแลให้เร็วคือสิ่งที่ดีที่สุด” น.ส.ทิพานัน ระบุ

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ได้สอบถามถึงข้อห่วงใยของพี่น้องประชาชนว่าหากไปรักษาโรงพยาบาลเอกชน ว่าค่ารักษา แพงมาก ที่จะเรียกเก็บจากสปสช.แพงเกินไปหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ รองเลขาฯ สปสช.อธิบายว่า โรงพยาบาลเอกชนแยกออกเป็น 2 กลุ่มที่อยู่ในระบบ สปสช. ส่วนนอกสปสช.มีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพดูแลอยู่และประกาศว่าโรคระบาดโควิด เป็นโรคระบาดร้ายแรงรงต้องดูแลเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะไปโรงพยาบาลไหนต้องดูแล ซึ่งจะเรียกเก็บตามรายการและราคาตามบัญชีกลางที่ตกลงกันไว้


“ส่วนที่ไม่ได้อยู่ในรายการ ไม่สามารถเรียกเก็บจากคนไข้ ให้เสนอไปที่อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเพื่อเสนอครม.ให้อนุมัติต่อไป แต่ ณ วันนี้ ที่เห็นข่าวออกมาเป็นใบแจ้งราคาสูงนั้น เป็นระบบของเอกชนในการแจ้งค่ารักษา แต่สุดท้ายแล้ว ไม่สามารถเรียกเก็บจากคนไข้ตามนั้นได้ ประชาชนไม่ต้องเสียเงิน ส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมด รัฐบาลจะจ่ายให้ ซึ่งปัจจุบันสปสช.จ่ายค่าคัดกรองไปแล้วเป็นพันล้านทั่วประเทศ ย้ำว่ารักษาฟรีและโรงพยาบาลอย่าไปเรียกเก็บจากพี่น้องประชาชน ขอให้เรียกเก็บจากสปสช.” น.ส.ทิพานัน ระบุ

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ได้สอบถามถึงการสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน กรณีมีผู้ได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวีคซีนป้องกันโควิด ซึ่งรองเลขาฯสปสช. ระบุว่ารัฐาลอยากให้ฉีดได้เร็วที่สุด อยากให้มาใช้ชีวิตปกติ วัคซีนคือคำตอบ บอร์ดสปสช.มีมติเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ตามมาตรา 41 คนไทยทุกคนไม่ว่าใช้สิทธิการรักษาอะไร ถ้าไปฉีดวัคซีนแล้วมีอาการไม่พึงประสงค์ เจ็บป่วยหรือบาดเจ็บต่อเนื่อง มีเงินชดเชยให้ตามจริงไม่เกิน 1 แสนบาท ถ้าถึงขั้นสูญเสียอวัยวะ ชดเชยไม่เกิน2.4 แสนบาท และถึงขั้นเสียชีวิต ชดเชยไม่เกิน 4 แสนบาท

“กระบวนการคือฉีดวัคซีนโรงพยาบาลไหน ถ้าเกิดอาการไม่พึงประสงค์ให้ แจ้งโรงพยาบาลนั้น อยู่ต่างจังหวัดสามารถแจ้งสาธารณสุขจังหวัด หรือสปสช.เขตได้ ทั้ง 3 หน่วยจะส่งเรื่องให้อนุกรรมการระดับเขตพิจารณาใน 1 สัปดาห์ หากพบว่าอยู่ในเกณฑ์ช่วยเหลือ จะได้รับเงินไม่เกิน 5 วันทำการ ซึ่งสปสช.พยายามทำทุกอย่างให้เร็ว กำหนดกติกาใหชัดเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ซึ่งหากมีข้อสงสัยอื่นสามารถสอบถามได้ที่สายด่วน 1330” น.ส.ทิพานัน ระบุ

.ส.ทิพานัน ระบุว่า รัฐบาลดูแลพี่น้องประชาชนตั้งแต้ต้นทางถึงปลายทาง ตั้งแต่ตรวจฟรี รักษาฟรีและฉีดวัคซีนฟรีด้วย ซึ่งต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสปสช.ที่ให้ความมั่นใจกับประชาชน จึงเชิญชวนพี่น้องประชาชนฉีดวัคซีน อย่าหลงเชื่อและแชร์ข่าวปลอม ซึ่งล่าสุดพบว่ามีกรณีที่หญิงสาวนำภาพผู้ป่วยรายอื่นแอบอ้างเป็นภาพของตนเองว่าได้ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนจนเป็นผื่นนั้น กำลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีฐานผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่งที่สร้างความหวาดกลัวและตื่นตระหนกให้กับประชาชน ดังนั้น ประขาชนต้องรู้เท่าทันข้อมูลข่าวสาร ขอวิงวอนให้ช่วยกันแชร์ข่าวจริงเพื่อที่วิกฤติจะได้คลี่คลายโดยเร็วและกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย