พรรคเสรีรวมไทย 10 พ.ค.-“พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” เตรียมยื่น ป.ป.ช.เอาผิด “ร.อ.ธรรมนัส” ผิดจริยธรรมร้ายแรง พ่วงนายกฯ ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ และจะขอมติ กมธ.ป.ป.ช. ดำเนินคดีอาญา “ร.อ.ธรรมนัส” คดียาเสพติดต่อ ชี้ยังไม่ขาดอายุความ ขู่ พปชร.หากยังอุ้มเจอร้องยุบพรรคแน่
พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แถลงยืนยันพฤติกรรมร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าข่ายจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 234(1) ของรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่า ที่ผ่านมาร้อยเอกธรรมนัส ไม่เคยรับสารภาพว่าต้องคำพิพากษาศาลออสเตรเลียให้จำคุกเลยแม้แต่ครั้งเดียว ตั้งแต่การตอบกระทู้สดในสภาฯ / ให้สัมภาษณ์สื่อและรวมไปถึงการชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย แต่ในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญชี้ให้เห็นว่าร้อยเอกธรรมนัส ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลออสเตรเลียให้ลงโทษจำคุก 4 ปี ในข้อหานำเข้ายาเสพติดให้โทษหรือเฮโรอีน 3.2 กิโลกรัม ดังนั้นจึงถือว่าร้อยเอกธรรมนัสกล่าวเท็จต่อสื่อมวลชนและประชาชนทั้งในและนอกสภา จึงเห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ตนจึงจำเป็นต้องส่งเรื่องให้เลขาธิการ ป.ป.ช.ทำการไต่สวนและมีความเห็นให้ส่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิจารณาวินิจฉัย โดยจะรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญฉบับเต็มออกมาก่อนจึงจะดำเนินการทั้งหมดต่อไป
ขณะเดียวกันเห็นว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้บังคับบัญชาของร้อยเอกธรรมนัส มีหน้าที่ต้องตรวจสอบคุณสมบัติบุคคลก่อนที่จะแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ว่าจะต้องไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ไม่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 แต่กลับละเลย ไม่ตรวจสอบ จึงถือเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทำให้รัฐและประชาชนได้รับความเสียหายเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมีพฤติกรรมจงใจปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ หรือฝ่าฝืนจะทำร้ายแรง ตามมาตรา 134(1) จึงจำเป็นต้องส่งเรื่องให้เลขาธิการปปชทำการไต่สวนและส่งให้อัยการสูงสุดดำเนินคดีเช่นกัน
พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์กล่าวด้วยว่า เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่าร้อยเอกธรรมนัส เคยถูกศาลออสเตรเลียพิพากษาจำคุกจริง แม้ในทางการเมืองจะไม่สามารถนำมาบังคับใช้ให้ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.และรัฐมนตรีได้ แต่ยัง สามารถดำเนินคดีอาญาได้ ซึ่งตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด มีโทษถึงประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต และคดียังไม่ขาดอายุความ เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2536 อายุความอยู่ได้ถึงปี 2566 ดังนั้นในฐานะประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช.จึงจะนำประเด็นดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมกรรมาธิการเพื่อขอมติให้ดำเนินคดีกับร้อยเอกธรรมนัส ต่อไป ซึ่งหากดำเนินคดีแล้ว เจ้าหน้าที่ยังเตะถ่วง ยืนยันว่าจะมีเรื่องกับตนอย่างแน่นอน
พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวถึกรณีที่งพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ระบุว่าเป็นเรื่องของศาล ว่า เป็นการปัดความรับผิดชอบ ซึ่งหากพรรคยังส่งเสริมให้เจริญเติบโตมากขึ้น ตนก็จะตรวจสอบหัวหน้าพรรคทันทีและหากการกระทำการใดๆที่ไม่เหมาะสม และเป็นมติกรรมการบริหารพรรค อาจจะต้องร้องถึงขั้นยุบพรรค พร้อมย้ำจุดยืนเดิมเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบสนองจากทั้งสองพรรค เพราะยังคงหวังแต่ตำแหน่งและหน้าที่.- สำนักข่าวไทย