อสมท 9 พ.ค.-“เชาว์” แฉ นายจ้าง ตะเพิด สาวติดโควิด-19 ออกจากงาน ทั้งที่หายป่วย มีใบรับรองแพทย์ ชี้ผิดกฎหมายแรงงาน พร้อมดำเนินคดีถึงที่สุด หากไม่หยุดการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม บี้ สธ.เร่งแจง ปชช. หายป่วยโควิด-19 คือคนปกติ ไม่ใช่ พาหะนำโรค ไม่ต้องกลัว
นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ Facebook Chao Meekhuad เรื่อง เตือนนายจ้างไล่ลูกจ้างติดโควิด-19 ออกจากงาน ผิดกฎหมายแรงงาน ระวังจะถูกฟ้อง มีเนื้อหาระบุว่า ผมได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนท่านหนึ่งที่ติดโควิด-19 ซึ่งเคยได้ช่วยประสานตั้งแต่เรื่องหาเตียง จนกระทั่งเธอได้เข้ารับการรักษา ปัจจุบันหายแล้ว มีใบรับรองแพทย์เรียบร้อย รอกักตัวอีก 14 วัน ตามมาตรการทางสาธารณสุข ค่อยไปทำงาน แต่เมื่อติดต่อไปยังนายจ้างกลับได้รับคำตอบที่น่าตกใจ คือ แทนที่จะยินดีต้อนรับกลับไปทำงาน กลายเป็นว่าให้เธอมารับใบลาออกแทน อ้างว่าพนักงานในบริษัทกลัวติดโควิด-19 เธอจึงสอบถามมาที่ผมว่า ต้องเซ็นใบลาออกเลยหรือไม่ เพราะได้ให้คุณพ่อไปรับใบลาออกมาแล้ว จึงแจ้งไปว่าอย่าเซ็นใบลาออกเด็ดขาด และควรเอาผิดกับนายจ้างที่เห็นแก่ตัวรายนี้ด้วย
ตามกฎหมายแรงงานกำหนดชัดเจนการเลิกจ้างต้องมีเหตุอันสมควร ไม่ใช่เลิกจ้างกันได้ตามอำเภอใจ ซึ่งมาตรา 119 กำหนดเหตุเลิกจ้างไว้ 6 กรณีคือ ลูกจ้าง ทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดอาญาโดยเจตนาต่อนายจ้าง ลูกจ้างจงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย ลูกจ้างประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง ลูกจ้างฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระเบียบ หรือคำสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม และนายจ้างได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว เว้นแต่กรณีที่ร้ายแรง นายจ้างไม่จำเป็นต้องตักเตือน หนังสือเตือนให้มีผลบังคับได้ไม่เกิน 1 ปี นับแต่วันที่ลูกจ้างได้กระทำผิด ลูกจ้างละทิ้งหน้าที่เป็นเวลาสามวันทำงานติดต่อกันไม่ว่าจะมีวันหยุดคั่นหรือไม่ก็ตามโดยไม่มีเหตุอันสมควร และลูกจ้างได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุด หากเป็นความผิดซึ่งลูกจ้างได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ ต้องเป็นกรณีที่เป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายด้วย
“ความป่วยไข้ไม่ใช่เรื่องผิดบาปร้ายแรงอะไรและไม่อยู่ในเงือนไขที่จะเลิกจ้าง ยิ่งเป็นการเจ็บป่วยที่มีใบรับรองแพทย์ชัดเจน นายจ้างยิ่งไม่มีเหตุผลที่จะเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม เรื่องนี้ยังมีมุมที่กระทรวงสาธารณสุขควรเร่งทำความเข้าใจด้วยว่า ผู้หายป่วยจากโควิด-19 เมื่อกักตัวครบ 14 วัน เขาก็เป็นคนปกติ ไม่ใช่พาหะแพร่เชื้อ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดแบบนายจ้างรายนี้ ลำพังแค่น้องคนนี้ติดโควิด-19 ก็น่าเห็นใจพอแรงอยู่แล้ว ยังมาเจอวิบากกรรมถูกไล่ออกจากงาน โดยบังคับให้เขียนใบลาออกอีก ถ้านายจ้างยังไม่เลิกพฤติกรรมแบบนี้ ผมพร้อมเป็นทนายความดำเนินคดีจนถึงที่สุด และกระทรวงแรงงานก็ไม่ควรปล่อยผู้ประกอบการที่เห็นแก่ตัวแบบนี้ลอยนวล”นายเชาว์ระบุทิ้งท้าย.-สำนักข่าวไทย