แนะตรวจสอบข้อมูล ก่อนไปฉีดวัคซีนต่างประเทศ

กรุงเทพฯ 9 พ.ค.-รัฐบาลห่วงใยประชาชน แนะควรตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้านก่อนเดินทางไปประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป และก่อนเดินทางเพื่อไปฉีดวัคซีนที่สหรัฐฯ

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยถึงกระแสข่าวที่บางประเทศกำหนดให้การฉีดวัคซีนมาเป็นหนึ่งในเงื่อนไขในการเดินทางเข้าประเทศนั้น รัฐบาลขอชี้แจงว่า ผู้ที่มีความประสงค์เดินทางไปต่างประเทศจำเป็นต้องตรวจสอบกฎระเบียบเกี่ยวกับการเข้าเมืองและมาตรการทางด้านสาธารณสุขของประเทศปลายทางให้ชัดเจนก่อนเสมอ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงเป็นความท้าทายในหลายประเทศ และมีระดับของความรุนแรงแตกต่างกันไป ทั้งนี้ ควรปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขของประเทศนั้นๆ อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการตรวจหาเชื้อตามระยะเวลาที่กำหนดก่อนเดินทาง การเตรียมเอกสารรับรองผลตรวจเชื้อ และเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน การกักตัว ณ ที่พักอาศัย การรักษาระยะห่าง และการสวมหน้ากากอนามัย เป็นต้น


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังเผยถึงกรณีการเดินทางเข้าประเทศในสหภาพยุโรป หรือ EU ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้มีการชี้แจงในเบื้องต้นไปบ้างแล้ว ว่า EU ได้ผ่อนคลายมาตรการเพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง อย่างไรก็ดี ประเทศสมาชิก EU แต่ละประเทศมีอำนาจในการประกาศกฎระเบียบเกี่ยวกับการเข้าเมืองและมาตรการด้านสาธารณสุขของตนเอง โดยประเทศสมาชิก EU ที่สามารถเดินทางจากประเทศไทยได้โดยไม่มีเงื่อนไข มี 13 ประเทศ ได้แก่ โปรตุเกส สเปน อิตาลี เยอรมนี โครเอเชีย โปแลนด์ เอสโตเนีย สวีเดน ฟินแลนด์ บัลแกเรีย กรีซ เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์ ส่วนประเทศที่มีเงื่อนไขหรือข้อจำกัดตามที่ประเทศปลายทางกำหนด 14 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส เช็ก ไอร์แลนด์ นอร์เวย์ เดนมาร์ก ลัตเวีย สโลวีเนีย สโลวาเกีย ฮังการี ลิทัวเนีย โรมาเนีย ออสเตรีย ลักเซมเบิร์ก และไซปรัส ผู้ที่จะเดินทางจึงจำเป็นต้องตรวจสอบมาตรการสาธารณสุขของประเทศปลายทาง และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่า ขณะนี้ EU ยังไม่ได้กำหนดให้การฉีดวัคซีนหรือไม่ หรือการฉีดวัคซีนประเภทใดเป็นเงื่อนไขการเดินทางเข้าเขต EU และยังอยู่ในระหว่างพิจารณาวิธีการรับรองการฉีดวัคซีนฯ (Vaccination Certificate – VC) ของประเทศนอก EU ซึ่งหากพิจารณาแล้วเสร็จ ประเทศสมาชิก EU แต่ละประเทศก็จะนำไปกำหนดมาตรการและเงื่อนไขในการเดินทางเข้าต่อไป อย่างไรก็ดี ขอให้ผู้ที่ประสงค์เดินทางไปต่างประเทศติดตามข้อกำหนดของแต่ละประเทศสมาชิก EU จากเว็บไซต์ของสหภาพยุโรป (https://reopen.europa.eu)


สำหรับกระแสข่าวเรื่องการเดินทางไปท่องเที่ยวและฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่สหรัฐอเมริกา โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ กล่าวถึงการรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศว่าได้มีการสั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยในสหรัฐฯ ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับชาวต่างชาติของมลรัฐต่าง ๆ ในสหรัฐฯ พบว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจะเรียกดูข้อมูลหลักฐานถิ่นที่อยู่ หลักฐานการทำงานหรือการศึกษาในรัฐ รวมถึงจะพิจารณาหลักฐานการเข้าเกณฑ์ที่ได้รับอนุญาต และอาจปฏิเสธการให้บริการหากไม่สามารถแสดงหลักฐานตามที่ร้องขอได้

ทั้งนี้ ในแต่ละมลรัฐมีนโยบายการฉีดและแจกจ่ายวัคซีนที่แตกต่างกัน ซึ่งโดยรวมจะมีการฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ที่มีถิ่นพำนัก ทำงาน หรือศึกษาในมลรัฐนั้นๆ อย่างไรก็ตาม ในบางมลรัฐได้จัดสรรวัคซีนให้กับผู้ไม่มีถิ่นพำนักและไม่ได้ทำงานหรือศึกษาในมลรัฐนั้น ๆ แต่ก็ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าอนุญาตให้นักท่องเที่ยว ยกเว้นมลรัฐอแลสกาที่มีนโยบายชัดเจนว่า ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาฉีดวัคซีนได้

นายอนุชา กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศยังเน้นย้ำว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ในสหรัฐฯ ได้รับอนุมัติการใช้งานแบบฉุกเฉินเท่านั้น หากรับวัคซีนแล้วมีอาการข้างเคียงหรือการแพ้รุนแรง บริษัทฯ ผู้ผลิตไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบใด ๆ และหากไม่มีประกันสุขภาพที่ครอบคลุม อาจต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่มีราคาสูงอีกด้วย นายอนุชา จึงขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวในสหรัฐฯ เพื่อฉีดวัคซีน โปรดศึกษาข้อมูลจากหน่วยงานทางการของสหรัฐฯ อาทิ เว็บไซต์ของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย รวมถึงนโยบายการจัดสรรวัคซีนของมลรัฐต่าง ๆ ข้อมูลการตรวจคนเข้าเมือง มาตรการด้านสาธารณสุข และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในแต่ละพื้นที่ ตลอดจนมาตรการที่ต้องปฏิบัติเมื่อเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ กับมีลมแรง โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้าในภาคเหนือและภาคอีสาน ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย