รัฐบาลย้ำผู้ป่วยโควิด-19 รักษาฟรี

กรุงเทพฯ 8 พ.ค.-รัฐบาลให้ความมั่นใจ ดูแลคนไทยทุกคน ย้ำผู้ป่วยโควิด-19 รักษาฟรี พร้อมช่วยเหลือผู้ฉีดวัคซีนแล้วมีอาการไม่พึงประสงค์ ยืนยันวัคซีนที่รัฐจัดหามีศักยภาพ สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประเทศ

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลดูแลคนไทยทุกคนทุกสิทธิ โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้ให้แนวทางชัดเจนแก่ทุกส่วนราชการ โดยให้ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ทุกกรณี ทั้งให้ตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงตามที่กรมควบคุมโรคกำหนด คัดกรองก่อนผ่าตัด การตรวจเชิงรุกตามดุลพินิจของแพทย์ ซึ่งหากผลตรวจไม่พบเชื้อสามารถตรวจซ้ำได้ฟรีหลังกักตัวครบ 14 วัน แต่หากผลตรวจมีการพบเชื้อ จะได้รับการดูแลเข้ารับการรักษาฟรีในโรงพยาบาลของรัฐ โรงพยาบาลเอกชน Hospitel หรือโรงพยาบาลสนาม โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เนื่องจากรัฐบาลจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลแทนประชาชน


นอกจากนี้ รัฐบาลมีนโยบายเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบที่อาจเกิดการฉีดวัคซีนตามมาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 โดยคุ้มครองตั้งแต่วัคซีนเข็มแรกที่ฉีดให้คนไทยเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2564 ให้ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 หากมีอาการไม่พึงประสงค์ ซึ่งแม้พบในสัดส่วนที่น้อย รัฐบาลพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือทุกกรณี ตามหลักเกณฑ์เงินจ่ายเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีประชาชนไทยทุกคนที่ได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยแบ่งเป็น 3 กรณี ดังนี้

  1. ตาย/ทุพพลภาพถาวร ไม่เกิน 4 แสนบาท
  2. เสียอวัยวะ/พิการ ไม่เกิน 2.4 แสนบาท
  3. บาดเจ็บ/เจ็บป่วยต่อเนื่อง ไม่เกิน 1 แสน
    โดย สปสช. จะแต่งตั้งกลไกเพื่อให้สามารถจ่ายได้ภายใน 5 วัน หลังจากที่คณะกรรมการได้รับเรื่องแล้ว

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังกล่าวให้ความมั่นใจว่า วัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับอนุมัติให้ใช้ในประเทศไทย ได้ผ่านพิจารณาอย่างรอบคอบของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสาขาต่างๆ มีการพิจารณาอย่างรอบคอบ ซึ่งวัคซีนโควิด-19 ทุกชนิดที่รัฐบาลจัดหาให้ประชาชน มีศักยภาพสามารถลดการเจ็บป่วยที่รุนแรง ลดการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล และลดการเสียชีวิตด้วย ช่วยทำให้ประเทศไทยเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ (herd immunity) ซึ่งจะช่วยหยุดการระบาดของโควิด-19 เพื่อให้คนไทยกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ และเศรษฐกิจไทยกลับมาเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพอีกครั้ง .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก