เตรียมนำคนไทยในอินเดียกลับประเทศ

ก.ต่างประเทศ 7 พ.ค.-กต. ห่วงคนไทยในอินเดีย เผชิญโควิด-19 จัด 3 เที่ยวบินรับกลับเดือน พ.ค.

นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า นายดอน ปรมัตวินัย รองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้โทรศัพท์หารือกับนายสุพรหมณยัม ชัยศังกระ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐอินเดีย ถึงความร่วมมือในการรับมือ โควิด-19 โดยอินเดียขอบคุณความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมจากไทย และพร้อมผลักดันความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกันต่อไป และสองประเทศต่างขอบคุณที่ดูแลคนที่ตกค้างในแต่ละประเทศ รวมถึงอำนวยความสะดวกอพยพคนกลับประเทศ ทั้งนี้อินเดียพร้อมสนับสนุนการส่งออกยาและเวชภัณฑ์ ตามที่ไทยร้องขอ และเห็นพ้องร่วมมือทางการแพทย์ในกรอบทวิพาคี พหุภาคีและอาเซียน โดยจะตั้งผู้ประสานงานของแต่ละฝ่าย และหารือความร่วมมือส่งเสริมมิติทางด้านเศรษฐกิจและอื่นๆ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงไปภายหลัง โควิด-19


นายธานี ยังกล่าวถึง สถานการณ์ โควิด-19 ในอินเดียที่รุนแรง ซึ่งรัฐบาลไทยและกระทรวงการต่างประเทศ มีความห่วงใยในการให้ความช่วยเหลือคนไทยในอินเดีย ที่อยู่ในสภาวะขาดแคลนโรงพยาบาลเตียงผู้ป่วยและอุปกรณ์ทางการแพทย์รวมถึงยาต้านไวรัส ปัจจุบันมีคนไทยในอินเดียประมาณ1,000คน ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต 3 แห่งได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแนะนำให้คนไทยในอินเดียเดินทางกลับไทยหากไม่มีความจำเป็นที่จะพำนักอยู่ โดยมีเที่ยวบินเตรียมไว้สำหรับคนไทยกลับจากอินเดีย3เที่ยวบินในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยสองเที่ยวบินที่ลงทะเบียนครบจะเดินทางวันพรุ่งนี้(8 พ.ค.)จำนวน 156 คนจากเมืองเจนไน และวันที่ 15 พฤษภาคมจะเดินทางจากกรุงนิวเดลีมาไทยอีก 120 คน และยังจะมีวันที่22 พ.ค. จากนิวเดลีที่เปิดให้ลงทะเบียนถึง11 พ.ค. นอกจากนี้ยังมีเที่ยวบินพิเศษที่จะออกจากกรุงนิวเดลีพรุ่งนี้ (8 พ.ค.)โดยมีข้าราชการและประชาชนลงทะเบียนแล้ว38 คน ซึ่งยังคงเปิดรับลงทะเบียนเพิ่มเติมเพื่อเดินทางกลับและมีช่องทางติดต่อสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี หรือจะติดต่อทางสถานทูตที่ เมืองเจนได เมืองมุมไบ และกัลกัตตา

นายธานี ยังเปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังได้หารือกับนายชอง อึย ยง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐเกาหลี เกี่ยวกับประเด็นทางด้านสาธารณสุขและวัคซีนป้องกันโควิด-19 รวมถึงสถานการณ์ในเมียนมาซึ่งเกาหลีใต้สนับสนุนความพยายามของอาเซียนในการมีปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์และหาทางออกของสถานการณ์อย่างสันติ รวมถึงได้ตอบรับคำเชิญของเกาหลีใต้ ที่เชิญนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำหุ้นส่วนการเจริญเติบโตสีเขียวและเป้าหมายโลกปี 2030 หรือ P4Gครั้งที่ 2 ผ่านระบบทางไกล ในวันที่ 31 พ.ค. นี้ โดยจะเป็นการหารือการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจการสนับสนุนเป้าหมายที่ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมและเป้าหมายของโลกในปี 2030.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย