กทม. 6 พ.ค. -“พลพีร์” วอนทุกฝ่ายหยุดบิดเบือนข้อมูลวัคซีนโควิด-19 ชี้ยิ่งฉีดวัคซีนมาก ยิ่งสูญเสียน้อย ขอทุกคนร่วมมือฝ่าวิกฤต
นายพลพีร์ สุวรรณฉวี รองเลขาธิการรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง(ประจำตัวนายอนุทิน ชาญวีรกูล) กล่าวถึงกรณีที่มีข้อมูลจากหลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงประสิทธิภาพ และความปลอดภัยของวัคซีนโควิด-19 ที่รัฐบาลพยายามจัดหามาให้ได้เพื่อพาประเทศออกจากวิกฤตโควิดโดยเร็ว ว่าในช่วงที่ผ่านมามีการบิดเบือนข่าวสารที่ลดทอนความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อวัคซีนโควิด-19 หลายเรื่อง เช่นกรณีที่หมอจากพรรคการเมืองหนึ่งออกมาให้ข้อมูลว่าวัคซีนของแอสตร้าเซเนก้า และซิโนแวค ไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อโควิด สายพันธุ์บราซิล และแอฟริกาใต้ ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
นายพลพีร์ กล่าวว่า เมื่อประชาชนที่ได้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง จะตั้งคำถามว่า เมื่อวัคซีนไม่ป้องกันการติดเชื้อ ก็ไม่จำเป็นต้องได้รับวัคซีน ทั้งที่ความจริงนั้น วัคซีน สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ แต่จะมีประสิทธิภาพลดลงเมื่อต้องนำมาใช้กับเชื้อโควิดสายพันธุ์บราซิลและแอฟริกาใต้ และไม่ว่าจะเป็นวัคซีนยี่ห้อใด เมื่อเจอกับเชื้อ 2 ตัวนี้ประสิทธิภาพย่อมลดน้อยถอยลงบ้าง แต่สิ่งที่ต้องสื่อสารให้รับทราบคือการรับวัคซีนก็เพื่อป้องกันป่วยหนักในทุกกรณี การรับวัคซีนช่วยป้องกันการเสียชีวิต ตรงนี้ คือสิ่งที่ต้องช่วยกันพูด เพราะยิ่งฉีดมาก ก็ยิ่งสูญเสียน้อย
นายพลพีร์ กล่าวว่า ตนเข้าใจดีถึงหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะต้องตรวจสอบรัฐบาล แต่ในสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้ ควรที่จะต้องเลือกความสำเร็จของประเทศมาเป็นตัวตั้งก่อน เพื่อให้แผนการด้านสาธารณสุข เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและระมัดระวังการให้ข่าวที่อาจจะได้คะแนนเสียงทางการเมือง แต่มีผลต่อส่วนรวม เพราะทุกคนทราบดีว่าการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่คือเป้าหมายที่ต้องทำให้สำเร็จ การฉีดวัคซีนให้ได้มากตามแผน คือกุญแจสู่ความสำเร็จ การให้ข่าวทำลายความน่าเชื่อถือของวัคซีน จึงไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของการคำนึงถึงส่วนรวมเป็นหลัก เพราะหากคนกลัว กังวล เนื่องจากเสพข้อมูลที่มีความเห็นทางการเมืองเจือปน กระทั่งปฏิเสธการรับวัคซีน ย่อมกระทบกับแผนควบคุมโรคแน่นอน
นายพลพีร์ กล่าวว่า ส่วนประเด็นเรื่องข่าวปลอมและการบิดเบือนข่าวสาร เช่น ข้อมูลผิดๆ ที่ระบุว่าวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ ได้รับการอนุญาตให้ใช้ในไทยแล้ว ทั้งที่ไทยยังไม่เคยรับรองให้ใช้กับประชาชนคนไทยเลย และเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ทางหมอและเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเสียเวลาชี้แจง แทนที่จะใช้เวลาไปทำหน้าที่ที่สำคัญ
“ที่สุดแล้ว ผมขอให้ประชาชนคนไทย มั่นใจในวัคซีนที่รัฐบาลไทย และกระทรวงสาธารณสุข นำมาบริการ ว่ามีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ พร้อมกับติดตามข่าวสารจากทางภาครัฐ ล่าสุด ต้องขอขอบคุณคนไทยทุกท่านที่รับบริการวัคซีน ด้วยการลงทะเบียนจอง และรับข้อมูลข่าวสารในไลน์หมอพร้อม ซึ่งมีการโหลดไปใช้งานกว่า 4 ล้านคน มีประชาชนจองรับบริการไปแล้วกว่า 1 ล้านคน ขอย้ำว่าทุกท่านที่รับวัคซีน ท่านคือส่วนสำคัญที่จะทำให้ไทยก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้” นายพลพีร์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย