เร่งรัฐหามาตารการเติมเงินในกระเป๋าคนจนเมือง

กรุงเทพฯ 5 พ.ค.-“เชาว์” จี้รัฐแจกถุงยังชีพคนจนเมืองด่วน หลัง โควิด 19 ลามชุมชน แนะออกมาตรการเติมเงินในกระเป๋าคนจนเมือง หยุดการเคลื่อนย้าย ก่อนโควิด ระบาดจนคุมไม่อยู่
นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ Facebook Chao Meekhuad เรื่องขอถุงยังชีพให้คนจนเมืองด่วน โดยมีเนื้อหาระบุว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยที่วิกฤติขึ้นทุกขณะ ตามรายงานอย่างเป็นทางการ วันนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นเกือบ 70,000 รายและเสียชีวิตแล้วเกือบ 300 ราย ขณะเดียวกันรัฐบาลออกมาตรการควบการแพร่ระบาดของเชื้อโรคอยู่หลายประการ ไม่ว่าจะเป็นกินร้อน แยกช้อน ล้างมือ การขอความร่วมมือให้ทุกคนงดการเดินทาง กักตัวอยู่บ้าน เว้นระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing
“มาตรการต่าง ๆ ฟังแล้วดูดี ถ้าทุกคนปฏิบัติได้ เชื่อว่าจะลดจำนวนผู้ป่วยได้อย่างแน่นอน แต่อย่าลืมว่ามาตรการเหล่านั้นสามารถใช้ได้ผลกับชนชั้นกลางหรือผู้มีอันจะกินเท่านั้น ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่หาเช้ากินค่ำโดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในชุมชนแออัดหรือที่เรียกกันว่าสลัม ซึ่งในกรุงเทพฯ มีมากกว่า 2,000 ชุมชน คิดเป็นประชากรกว่า 1 ล้านคน ผมยังนึกไม่ออกว่าเขาเหล่านั้นจะทำตามมาตรการนี้ได้อย่าไร เพราะปัญหาสำคัญที่พี่น้องชาวชุมชนต้องเผชิญในขณะนี้คือปัญหาปากท้องจะกินจะใช้แทบจะไม่มี และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ สภาพที่อยู่อาศัยที่แออัด ถ้ามีใครติดเชื้อสักคนเชื่อได้ว่าจะระบาดลุกลามอย่างรวดเร็ว เหมือนที่กำลังเกิดขึ้นที่คลองเตยในขณะนี้” นายเชาว์ กล่าว
นายเชาว์ ระบุว่า เป็นห่วงปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวชุมชนในสถานการณ์ ซึ่งจนถึงขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีมาตรการใด ๆ ที่จะเข้ามาช่วยเหลือดูแลโดยเฉพาะปัญหาปากท้อง ข้าวจะกินแต่ละมื้อแทบจะไม่มี จากการลงพื้นที่สัมผัสกับพี่น้องในชุมชนมีแต่เสียงโอดครวญขอความช่วยเหลือ ยังไม่รวมถึงยา เวชภัณฑ์ หน้ากากอนามัย รัฐบาลได้แต่ออกกฎหมายบังคับให้เขาสวมหน้ากากอนามัยแต่ไม่เคยถามว่าเขามีเงินในกระเป๋าที่จะซื้อหน้ากากอนามัยหรือไม่ เพราะลำพังจะหาข้าวกินแต่ละมื้อก็แทบจะอดตายอยู่แล้ว จึงขอเสนอให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสําคัญเข้าไปช่วยเหลือด้วยการจัดสรรงบประมาณจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคข้าวสารอาหารแห้ง รวมทั้งเวชภัณฑ์ หยูกยา หน้ากากอนามัย และเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนกลุ่มนี้โดยเร่งด่วนก่อนปัญหาจะบานปลายจนยากที่แก้ไข
“ที่สำคัญคือรัฐบาลต้องรีบคิดว่าจะหยุดการเคลื่อนย้ายของคนในชุมชนอย่างไร เพราะตราบใดที่ยังปากกัดตีนถีบ มีรายได้แบบวันต่อวัน หยุดงานวันเดียวอาจหมายถึงต้องอดทั้งบ้าน มาตรการเร่งด่วยที่ต้องทำทันทีคือ การเติมเงินในกระเป๋าให้คนกลุ่มนี้อยู่บ้านได้โดยไม่อดตาย ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็ต้องฉีกกฎออกจากบ้าน ไม่ใช่ว่าไม่กลัวโควิด แต่ปากท้องของครอบครัวสำคัญกว่า หากมีเงินเติมให้คนจนเมือง หยุดการเคลื่อนย้ายจากบ้าน การแพร่ระบาดก็จะควบคุมง่ายขึ้นตามไปด้วย” นายเชาว์ ระบุ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก