วันนี้ ศาลชี้ชะตา “ร.อ.ธรรมนัส” หลุดเก้าอี้รัฐมนตรี-ส.ส.หรือไม่

กรุงเทพฯ 5 พ.ค.- วันนี้ เวลา 15.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญจะออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยสถานะความเป็น ส.ส.- รัฐมนตรีของ “ร.อ.ธรรมนัส” พ้นตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) และ มาตรา 170 หรือไม่


คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ รวมทั้งออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟัง เรื่องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งความเห็นของ ส.ส. 51 คน ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (10) และความเป็นรัฐมนตรีของ ร.อ.ธรรมนัส สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบ มาตรา 160(6) และมาตรา 98 (10) หรือไม่ จากกรณีเคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายอันถึงที่สุดว่าได้กระทำความผิดในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้าซึ่งยาเสพติด โดยนัดฟังคำวินิจฉัยในเวลา 15.00 น.

กรณีดังกล่าวทาง ร.อ.ธรรมนัส ถูกพรรคฝ่ายค้านกล่าวหาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ศาลออสเตรเลียได้มีคำพิพากษา เมื่อเดือนมีนาคม 2537 ว่ามีความผิดฐานนำเข้าและค้ายาเสพติดสั่งจำคุก 6 ปี แต่จำคุก 4 ปี ก่อนถูกเนรเทศกลับประเทศไทย จึงมีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่ง ส.ส. และรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) และเข้าชื่อยื่นเรื่องให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย


ซึ่งก็เป็นไปตามนัดในวันนี้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยึดตามแนวทางการปฏิบัติของการนัดอ่านคำวินิจฉัยในคดีที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ทางสำนักงานจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้า-ออก บริเวณด้านหน้าสำนักงาน ส่วนบริเวณฝั่งทางเข้าโถงอาคาร เอ. ของสำนักงานจะนำแผงเหล็กมากั้นบริเวณแนวเขตทางเข้า และกำหนดสัดส่วนให้สื่อมวลชนและผู้สนใจมาติดตาม ซึ่งเป็นไปมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ในเรื่องเว้นระยะห่างทางสังคมด้วย

โดยบุคคลที่จะเข้าฟังคำวินิจฉัย จะมีจุดรับแลกบัตรและตรวจค้นอาวุธ ซึ่งจะอยู่บริเวณบันไดทางขึ้นห้องพิจารณาคดี ผู้เข้าฟังคำวินิจฉัยจะต้องแลกบัตรและตรวจอาวุธ รวมทั้งฝากสิ่งของ กระเป๋า โทรศัพท์มือถือ เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ

สำหรับสื่อมวลชนทางเจ้าหน้าที่ได้จัดพื้นที่ พร้อมติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิดจากห้องพิจารณาคดีลงมายังบริเวณชั้นล่างให้ได้รับฟัง รวมทั้งถ่ายทอดคำวินิจฉัยผ่านช่องทางยูทูบของศาลรัฐธรรมนูญด้วย ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงขณะนี้สถานการณ์ไปด้วยความเรียบร้อย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา และการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาและการพัฒนาของสองประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา