fbpx

กห. ย้ำเหล่าทัพ เข้มชายแดนป้องโควิด

กรุงเทพฯ 4 พ.ค.-กห. ย้ำเหล่าทัพ เฝ้าระวังเข้มชายแดน สกัดกั้นลักลอบข้ามแดนที่อาจมาพร้อมเชื้อโควิดสายพันธ์ุที่กำลังแพร่ระบาดในมาเลเซีย

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ย้ำกับทุกเหล่าทัพ ปฏิบัติตามนโยบายของ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในการกำกับการปฏิบัติงานของกองกำลังป้องกันชายแดนให้เป็นที่เชื่อมั่นในการสนับสนุนการควบคุมโรค COVID-19 ตามแนวชายแดนให้ได้เด็ดขาด โดยให้ติดตามสถานการณ์ชายแดนกัมพูชา เมียนมาและมาเลเซียอย่างใกล้ชิด รวมทั้งสกัดกั้นการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและเข้มมาตรการควบคุมโรคที่กำหนดอย่างต่อเนื่องจริงจัง โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนใต้ที่ต้องเฝ้าระวังสูง กับความเสี่ยงของ COVID-19 สายพันธ์ุที่กำลังแพร่ระบาดในมาเลเซีย ที่อาจเข้ามาพร้อมกับผู้ที่เดินทางกลับจากมาเลเซีย ซึ่งอาจสร้างปัญหาและจำเป็นต้องคัดกรองอย่างเข้มข้น โดย นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยังได้แสดงความห่วงใยเจ้าหน้าที่ทุกนาย ขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทและมีความปลอดภัยทั่วกัน


นอกจากนี้ พล.อ.ชัยชาญ ยังได้กำชับ ถึงการทำงานในพื้นที่แนวชายแดนไทย – เมียนมา ขอให้ติดตามและประเมินสถานการณ์ความรุนแรงจากสู้รบด้วยกำลังทหาร ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนไทยในพื้นที่ โดยขอให้ช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัยที่กำหนดไว้โดยเร็ว ขณะเดียวกันหากมีผู้หลบหนีภัยจากความไม่สงบชาวเมียนมาหรือชนกลุ่มน้อยชาวกระเหรี่ยงตามแนวชายแดนที่อพยพข้ามแดนเข้ามา จากผลกระทบความรุนแรงการสู้รบ ขอให้ดำเนินการช่วยเหลือขั้นต้นตามหลักมนุษยธรรมและคุมเข้มคัดกรองตามมาตรการควบคุมโรคที่กำหนด โดยประสานการทำงานกับฝ่ายปกครองในพื้นที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือดูแลความปลอดภัยจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

โฆษก กห. กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา กองกำลังป้องกันชายแดนทางบกในพื้นที่ ทภ.3 และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ให้การช่วยเหลืออพยพประชาชนที่อาจได้รับอันตรายจากการสู้รบในพื้นที่ชายแดน บ.แม่สามแลบ และ บ.ท่าตาฝั่ง จ.แม่ฮ่องสอน กว่า 600 คน ออกมายังพื้นที่ปลอดภัยที่กำหนดเป็นการชั่วคราวและได้เดินทางกลับภูมิลำเนาแล้วหลังสถานการณ์สงบ พร้อมกันนี้ ได้ให้การช่วยเหลือดูแลตามหลักมนุษยธรรมแก่ผู้หลบหนีภัยจากความไม่สงบชาวเมียนมา จำนวน 2,318 คน ที่อพยพข้ามแดนมายังฝั่งไทย บริเวณ ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง และพื้นที่ใกล้เคียงของ จ.แม่ฮ่องสอน โดยจัดเตรียมพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวรองรับ จำนวน 4 แห่ง ทั้งนี้ต้องขอความร่วมมือ ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง งดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากเป็นพื้นที่อยู่ในเขตอุทยานและอยู่ในมาตรการควบคุมโรคเข้มข้นตามที่จังหวัดกำหนด เพื่อความปลอดภัยของทุกคนในภาพรวม .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

เอกวาดอร์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพราะวิกฤตพลังงาน

อกวาดอร์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันศุกร์ โดยเป็นการประกาศเพราะวิกฤตพลังงานที่ทำให้ประเทศในอเมริกาใต้แห่งนี้ต้องใช้มาตรการปันส่วนพลังงาน

ฝ่ายต่อต้านรุกหนัก ถล่มทหารเมียนมาตั้งแต่เช้ามืด

ฝ่ายต่อต้าน รุกหนักถล่มทหารเมียนมา ฐานพัน.ร.275 ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด ตั้งแต่เช้ามืด ทำประชาชนเมียนมา หลบหนีการสู้รบเข้าฝั่งไทยแล้วกว่า 200 คน

“ทวี ไกรคุปต์” อดีตนักการเมืองดัง เสียชีวิตแล้ว

“ไพศาล พืชมงคล” โพสต์แสดงความอาลัยการจากไปของ “ทวี ไกรคุปต์” อดีตนักการเมืองดัง และบิดาของ “เอ๋-ปารีณา”

ทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด สูงสุด 41 องศาฯ

กรมอุตุฯ รายงานทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด สูงสุด 41 องศาฯ มีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้น และตกหนักบางแห่ง