เร่งคุมโควิด กทม. เปิดศูนย์แรกรับและส่งต่อ


ทำเนียบ 30 เม.ย. -ศบค. เผยผู้ป่วยมีอาการหนักเพิ่มขึ้น เปิดศูนย์แรกรับและส่งต่อ พร้อมบริการผู้ป่วยให้มีที่รักษาทุกคน ยืนยันไม่ห้ามการเดินทางออกนอกพื้นที่ แต่ขอความร่วมมือ งดการเดินทางหากไม่จำเป็น


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวว่า วันนี้(30 เม.ย.) ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงอยู่ที่ 1,583 ราย แต่ก็ยังไม่น่าดีใจ และยังมีความน่ากังวลอยู่ โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. ที่แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง แต่ผู้ติดเชื้อที่มีอาการหนักและผู้ที่ใส่ท่อช่วยหายใจ รวมถึงผู้เสียชีวิตที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น ซึ่งคล้องกับการหาเตียงของคนไข้ ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเช่นกัน ทั้งหมดสืบเนื่องมาจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่มากกว่า 2,000 คนในช่วงที่ผ่านมา ถ้าสามารถปรับตัวเลข กทม. ให้ลดลงได้ เชื่อว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อทั้งประเทศจะลดลงด้วย



ทั้งนี้การติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับสถานบันเทิงในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 7,755 ราย แบ่งเป็น กทม. 6,828 ราย และผู้มีภูมิลำเนาอยู่ในต่างจังหวัด 831 ราย ซึ่งตรงนี้เมื่อสั่งปิดสถานบันเทิงทำให้ประชาชนเดินทางกลับบ้านในช่วงเดือนสงกรานต์ ทำให้เกิดการแพร่เชื้อในต่างจังหวัด


สำหรับการเฝ้าระวังเชิงรุก ในพื้นที่ กทม. 5-27 เม.ย. 2564 จากการตรวจประชาชน 28,022 ราย พบผู้ติดเชื้อ 1,273 ราย คิดเป็น 4.54% ล่าสุดชุมชนคลองเตย ที่มีการตั้งเป้าตรวจประชาชน 700 คน รายงานล่าสุดพบผู้ติดเชื้อไปแล้ว 67 ราย



นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการเปิดศูนย์แรกรับและส่งต่อผู้ป่วย ที่อาคารกีฬานิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ที่เปิดให้บริการวันนี้(30 เม.ย.)เป็นวันแรก ว่า เป็นความร่วมมือของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยมีเป้าหมาย คือเพื่อเป็นการประสานให้กับผู้ที่รอเข้ารับการรักษาและหาเตียงผู้ป่วย โดยผู้ที่มีอาการป่วย สามารถเข้าไปเพื่อตรวจสอบอาการซ้ำ ให้เกิดความชัดเจนว่าอยู่ในกลุ่มใด ถ้ามีอาการหนักก็จะทำการส่งต่อไปรักษายังโรงพยาบาล แต่ถ้ามีอาการเล็กน้อยก็จะทำการรักษาที่ศูนย์ก่อน โดยจะพยายามพัฒนาให้เป็นจุดที่มีการรักษาเบ็ดเสร็จ และมีอุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวก โดยสามารถติดต่อที่เบอร์ 02-079-1000 มีคอลเซ็นเตอร์ 40 คู่สาย และในอนาคตหากมีความจำเป็นและมีความต้องการมากขึ้น อาจจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวในพื้นที่ 4 มุมเมือง


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการเปิดลงทะเบียน แอปพลิเคชั่น หมอพร้อม ในวันพรุ่งนี้ 1 พ.ค. เป็นวันแรก ว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าแอปพลิเคชั่น หมอพร้อม ไม่ใช่ระบบการลงทะเบียนหลัก โดยการลงทะเบียนเข้ารับการฉีดวัคซีน ยังมีทั้งหมด 3 ระบบ คือการแจ้งความประสงค์ไปยังโรงพยาบาลที่ตนเองรับการรักษาอยู่ , แจ้งไปยัง อสม. ในพื้นที่ และ สุดท้ายสามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น หมอพร้อม โดยสามารถทยอยลงทะเบียน เพราะหากลงทะเบียนพร้อมกันในวันพรุ่งนี้(1 พ.ค.)จะทำให้ระบบเกิดความติดขัดได้


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึง การงดการเดินทางออกนอกพื้นที่ ในส่วนของพื้นสีแดงเข้ม 6 จังหวัด ว่า ไม่ได้เป็นการประกาศห้าม แต่ขอความร่วมมือ ให้เลื่อนการเดินทาง ที่ไม่มีเหตุจำเป็นออกไปก่อน พร้อมทั้งเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่ต้องตรวจตรา สามารถสอบถามประชาชนได้ แต่ไม่ถึงกับต้องให้แสดงเอกสารหลักฐานต่างๆ และต้องไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน



“ยืนยันว่า การออกมาตรการต่างๆ ศบค.รับฟังเสียงจากทุกฝ่ายและพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยประเมินจากชุดข้อมูลและผลกระทบจากการแพร่ระบาด ซึ่งหากมาตรการที่ออกมามีผลกระทบต่อธุรกิจต่างๆ ต้องขออภัยด้วย และอาจจะมีการเยียวยาต่อไป”นพ.ทวีศิลป์ กล่าว .–สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]