นายกฯ-“อนุทิน” เปิดใจไม่มีปัญหา

กรุงเทพฯ 30 เม.ย.-นายกฯ-“อนุทิน” เปิดใจไม่มีปัญหากำหนดอำนาจให้นายกฯ ตามกฎหมาย 31 ฉบับ ยืนยันทำงานร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ ย้ำไม่ได้รวบอำนาจแต่ทำให้การทำงานคล่องตัวและรวดเร็ว


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 เม.ย. เห็นชอบการกำหนดอำนาจรัฐมนตรีตามกฎหมาย ใน 31 พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี รัฐบาลยืนยันว่า ไม่ใช่การควบรวมอำนาจของนายกรัฐมนตรีและไม่ใช่การลดบทบาทของรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ก่อนการออกมติ ครม.ดังกล่าว ได้มีการหารืออย่างรอบด้านและมีความรัดกุม ว่าเพื่อให้การออกคำสั่งเกี่ยวกับการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 เป็นไปด้วยความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูงสุด จะต้องมีการมอบอำนาจ 31 พ.ร.บ.ให้นายกรัฐมนตรี ซึ่งรัฐมนตรีทุกคนต่างเห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว ว่าจะช่วยให้การแก้ไขปัญหามีความคล่องตัวมากขึ้น ถือเป็นการลดช่องว่างในการแก้ไขปัญหาได้เป็นอย่างดี

“ในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ยืนยันต่อที่ประชุมว่า ไม่ได้ต้องการรวบอำนาจ แต่เพื่อความรวดเร็วในการทำงาน และนายกรัฐมนตรี ก็มีอำนาจเพียงการสั่งการตามหน้าที่และความรับผิดชอบ ส่วนการดำเนินงาน ยังเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ยังเปิดใจในที่ประชุมว่า ไม่เคยรู้สึกว่านายกฯ รวบอำนาจแต่อย่างใด การทำงานร่วมกันเป็นเวลาเกือบ 2 ปี เป็นไปด้วยดี มีการพูดคุยหารือกันโดยตลอด และยังจะทำงานร่วมกันต่อไป เพื่อแก้ไขสถานการณ์นี้ให้ได้โดยเร็ว” น.ส.ไตรศุลี กล่าว


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การทำงานของรัฐบาลโดยภาพรวมมีความเป็นเอกภาพ การสั่งการตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรีลงมายังกระทรวงต่างๆเป็นไปด้วยดี นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ได้ประสานงานกันตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น จากข้อสั่งการตามระบบบริหารราชการ โทรศัพท์ และ แอปพลิเคชันไลน์ เป็นต้น โดยเวลานี้รัฐบาลได้ระดมทุกสรรพกำลังเพื่อแก้ไขสถานการณ์วิกฤต ให้ประเทศไทยผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้ได้โดยเร็ว และขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า การดำเนินงานของรัฐบาลมุ่งสร้างประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน โดยมั่นใจว่าแนวทางการแก้ไขสถานการณ์ของรัฐบาล จะช่วยให้สถานการณ์นี้คลี่คลายได้โดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมรอบนอก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วิกฤติ

ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น แต่ในพื้นที่ไข่แดงหรือพื้นที่เศรษฐกิจ น้ำยังไม่สามารถจะเจาะเข้าไปได้ โดยนายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่มั่นใจถ้าฝนตกลงมาไม่มากไปกว่านี้จะสามารถดูแลพื้นที่ในเทศบาลนครหาดใหญ่

ปัตตานีจมบาดาล-ถนนถูกตัดขาด

สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ยังวิกฤติในหลายจังหวัด เพราะฝนยังไม่หยุดตก ทำให้การระบายน้ำแทบไม่สามารถทำได้เลย โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ชาวบ้านเดือดร้อนหนักหลายแสนคน

เร่งรื้อถอนคานถล่ม ถ.พระราม 2 จราจรติดขัดหนัก

เหตุแผ่นยกคานปูนและเครนก่อสร้างถล่มบนถนนพระราม 2 จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงรื้อถอนโครงสร้างที่พังถล่มไม่แล้วเสร็จ ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด ขณะที่การจราจร ถ.พระราม 2 ทั้งขาเข้า-ขาออก ติดขัดหนัก แนะเลี่ยงเส้นทาง

นายกฯ สั่งระดมช่วยน้ำท่วมใต้-เร่งเยียวยา

นายกฯ สั่งระดมช่วยเหลือน้ำท่วมใต้-เร่งมาตรการเยียวยา เผย ครม.เห็นชอบ 39 โครงการฟื้นฟูพื้นที่อุทกภัย เชียงใหม่-เชียงราย 641 ล้านบาท