กรุงเทพฯ 28 เม.ย.-“พลพีร์” ชี้ “วิโรจน์” เข้าใจยาก เก่งแต่ถามซ้ำซาก ย้ำ เหตุยังไม่ซื้อวัคซีนไฟเซอร์ ยังอยู่ในขั้นตอนและการเจรจาในวันที่เงื่อนไขของทางบริษัทเปลี่ยนไป
นายพลพีร์ สุวรรณฉวี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวถึงกรณีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ทวิตเตอร์ระบุว่า รัฐบาลไม่คิดจะซื้อวัคซีนโควิด 19 ของไฟเซอร์ โดยนำเรื่องการจัดเก็บ และระยะเวลาการส่งมอบมาเป็นเหตุ (แต่ทำไมประเทศอื่นเขาซื้อได้นะ?) ว่า นายวิโรจน์กำลังถามคำถามที่ทีมแพทย์ตอบไปหมดแล้ว ทำไมนายวิโรจน์จึงเข้าใจอะไรยากนัก และมักจะถามคำถามซ้ำๆ เดิม ๆ จากนี้ จะเป็นการตอบคำถามของนายวิโรจน์ เรื่องการซื้อวัคซีนโควิด 19 นั้น มีประเด็นในการพิจารณาหลายเรื่อง ทั้งเรื่องประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ราคา การขนส่ง การเก็บรักษา การส่งมอบ ถ้าทุกอย่างเหมาะสม การทำสัญญาจะเกิดขึ้น
นายพลพีร์ กล่าวว่า กรณีของไฟเซอร์นั้น ที่ยังซื้อไม่ได้เสียที เพราะทางผู้ผลิต ณ ตอนนั้นไม่สามารถส่งมอบได้ในระยะเวลาที่ทางไทยต้องการ ซึ่งหลายประเทศในโลกก็ประสบปัญหาไม่ได้รับวัคซีนตามกำหนด เช่นสิงค์โปร เริ่มฉีดวัคซีนตั้งแต่ปลายปี 2563 กับประชากรเพียง5 ล้านกว่าคน แต่ ณ วันนี้ฉีดได้เพียง 1.3ล้านคน เพราะประสบปัญหาล้าช้าของวัคซีน แต่ปัจจุบันไฟเซอร์ได้ขยายกำลังการผลิตแล้ว ทำให้ไทยหารืออีกครั้งและอย่าเข้าใจผิดว่า เราไม่ซื้อ เพียงเพราะเรื่องการเก็บรักษาเท่านั้น ปัจจุบันนี้ทางไฟเซอร์เพิ่งได้มีการพัฒนาวัคซีน ทำให้การเก็บและจัดส่งสะดวกมากขึ้น เรามีเจตนาจะจัดหาวัคซีนเข้ามาอยู่แล้ว แต่การจัดส่งต้องเหมาะสมด้วย
“ส่วนที่ลือกันไปว่าไฟเซอร์ พร้อมให้ไทยใช้วัคซีนก่อน แล้วจ่ายทีหลัง ยิ่งไม่เป็นความจริง เพราะไฟเซอร์ ไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้ เช่นเดียวกับที่บอกว่า ไทยปิดประตูใส่ผู้ผลิต ก็ยิ่งไม่เคยเกิดขึ้น เพราะไทยฟังข้อมูลและข้อเสนออย่างต่อเนื่อง ซึ่งไฟเซอร์อัพเดทข้อมูลกับไทยหลายครั้ง และข้อมูลกับข้อเสนอ ก็น่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ ทั้งประสิทธิภาพต่อเด็กและระยะเวลาการจัดส่งที่เข้าใกล้จุดที่ไทยต้องการแล้ว dระทรวงสาธารณสุข โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไม่เคยละความพยายามจัดหาวัคซีน covid19 มาบริการให้คนไทย แต่ด้วยเงื่อนไขเหตุปัจจัยหลายประการจึงทำให้การจัดหานั้นเกิดอุปสรรค แต่ไทยทำอย่างสุดความสามารถ และจะได้เห็นความคืบหน้าของแผนการต่าง ๆ สู่ความเป็นรูปธรรมในเร็ววันนี้แน่นอน” นายพลพีร์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย