fbpx

จี้ยกระดับบริหารจัดการวัคซีนขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ

กรุงเทพฯ 27 เม.ย.-พรรคไทยสร้างไทยออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาล ยกระดับบริหารจัดการวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ เปิดโอกาสให้เอกชนมีส่วนร่วมนำเข้า


พรรคไทยสร้างไทยออกแถลงการณ์ ระบุว่า ตามที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ขึ้นในประเทศไทย ซึ่งนอกจากจะทำให้ประชาชนตื่นตระหนกจากโรคร้าย และเกิดความไม่มั่นคงในชีวิตความเป็นอยู่แล้ว โควิด-19 ยังส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยที่การบริหารจัดการประเทศในภาวะวิกฤติของรัฐบาลปัจจุบัน อาจยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนส่วนใหญ่ได้ ประกอบกับฐานะทางการคลังในช่วง 4-5 ที่ผ่านมา มีความเปราะบางมาก จึงไม่สามารถเยียวยาแก้ไขปัญหาของประเทศ และความเดือนร้อนของประชาชนให้ลุล่วงไปได้โดยเร็ว

“เพื่อลดความตื่นกลัวอันจะทำให้การแก้ไขปัญหาทวีความยากยิ่งขึ้น พรรคไทยสร้างไทยเห็นว่ารัฐบาลจะต้องเร่งสร้างให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น (trust) และความมั่นใจ(confidence) ว่ารัฐบาลมีความสามารถจะดูแลความปลอดภัยด้านสาธารณสุขให้กับพี่น้องประชาชน ขณะเดียวกันก็มีความสามารถจะแก้ไขและฟื้นฟูเศรษฐกิจที่เสียหายให้กลับคืนมาได้ ซึ่งกลไกที่จะสร้างความมั่นใจว่าจะเอาชนะโรคระบาดได้อย่างยั่งยืนคือการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประชาชน โดยเครื่องมือที่ง่าย ประหยัด ปลอดภัย ได้ผลเร็ว สามารถลดจำนวนการสูญเสียชีวิตของประชาชน โดยการเร่งฉีดวัคซีน ทั้งนี้ ประชาชนทั้งประเทศตั้งข้อสังเกตความล่าช้าอย่างยิ่งของรัฐบาล ในการบริหารจัดการกับปัญหาโควิด โดยเฉพาะการจัดหาวัคซีน” แถลงการณ์ ระบุ


พรรคไทยสร้างไทยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างยิ่งยวด จึงได้เสนอรัฐบาลไปหลายครั้งก่อนหน้านี้ เพื่อให้ยกระดับการบริหารจัดวัคซีนขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อระดมศักยภาพของทุกภาคส่วน รวมทั้งเอกชน มาจัดหาวัคซีนที่มีคุณภาพ วางแผนการฉีดวัคซีนอย่างเป็นรูปธรรม โดยตั้งเป้าหมายฉีดให้ประชาชน 50 ล้านคนหรือ 70% ของประชากรให้จบภายในสิ้นปีนี้ โดยต้องเร่งฉีดให้ได้เดือนละ 15 ล้านโดสตั้งแต่มิถุนายนเป็นต้นไป รัฐบาลต้องให้ข้อมูลชัดเจนต่อประชาชน เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจว่าจะสามารถเข้าถึงวัคซีนได้ทุกคนภายในระยะเวลาเท่าใด ต้องบอกแผนเศรษฐกิจการจะดูแลประชาชนทั้งด้านผู้บริโภคและผู้ประกอบการ รวมถึงลดการใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่เกิดผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลมีความเข้าใจ พร้อมจะร่วมทุกข์ร่วมสุข มีมาตรการและมีขีดความสามารถนำพาประเทศชาติและประชาชนฟันฝ่าอุปสรรคทางเศรษฐกิจครั้งนี้ไปได้

“พรรคไทยสร้างไทยตระหนักดีถึงฐานะทางการคลังของรัฐบาลที่มีความเปราะบาง ทำให้รัฐบาลไม่สามารถจะกู้เงินจำนวนมากมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาได้ แต่การสร้างความเชื่อมั่นด้วยการเสนอมาตรการที่ทำให้ประชาชนเชื่อถือดังกล่าว รวมถึงต้นทุนในการจัดหาวัคซีน เมื่อเปรียบเทียบกับงบประมาณส่วนอื่นที่รัฐบาลได้ใช้ไป ถือเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก เพราะหากประชาชนยังไม่มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของรัฐบาลแล้ว การลงทุนภาครัฐจะไม่เกิดผลตอบแทนทางเศรษฐกิจซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อฐานะทางการคลังของรัฐบาลและไม่เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม” แถลงการณ์ ระบุ

พรรคไทยสร้างไทยขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งปรับปรุงการทำงาน แก้ไขวิกฤติโควิดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทันต่อสถานการณ์ เพื่อประชาชน และประเทศไทยอันเป็นที่รักของทุกคน ขอร้องรัฐบาลเปิดทางให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาวิกฤตินี้ให้รวดเร็วขึ้น เช่น กระจายการจัดซื้อวัคซีน และชุดตรวจหาเชื้อโควิดให้กับภาคเอกชน เพราะเวลานี้เราต้องแสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพื่อให้ประชาชนรอดก่อน และขอเป็นกำลังใจให้ประชาชน บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทุกคน ที่เสียสละทำงานอย่างหนัก เพื่อร่วมกันนำพาประเทศออกจากวิกฤตครั้งนี้โดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง