กองบัญชาการกองทัพบก 26 เม.ย.-ทบ.สั่งเตรียมกำลังพลสายแพทย์ช่วยงานสาธารณสุข เปิด รพ.สนาม ทบ.แล้ว 7 แห่ง ส่งรถพยาบาล ทีมแพทย์เหล่าทัพช่วยงาน
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ของไทยในปัจจุบันที่ต้องเข้ารับการดูแลรักษาในโรงพยาบาล โดย ศบค. และกระทรวงสาธารณสุข จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อดูแลผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ หรืออาการไม่รุนแรง เข้ามารับการรักษาพยาบาล สำหรับกองทัพบกได้เตรียมการสนับสนุนเกี่ยวกับโรงพยาบาลสนามมาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้อาคารสถานที่ในหน่วยทหาร และสิ่งอุปกรณ์ที่มีอยู่ จัดตั้งโรงพยาบาลสนามในขั้นต้นแล้ว จำนวน 19 แห่ง รองรับผู้ติดเชื้อได้ 3,050 เตียง
รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบกเปิดดำเนินการ รพ.สนามของ ทบ.แล้ว 7 แห่ง โดยมอบให้กระทรวงสาธารณสุขเข้าบริหารจัดการแล้ว 3 แห่ง ได้แก่ 1. โรงพยาบาลสนามกองทัพบก (กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1) เปิดให้บริการเมื่อ 19 เมษายน 2564 รองรับผู้ป่วยได้ จำนวน 300 เตียง ปัจจุบันมียอดผู้ป่วยพักแล้ว จำนวน 246 ราย (25 เมษายน 2564) ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้มอบให้โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ จัดบุคลากรทางการแพทย์เข้ามาบริหารจัดการ โดยกองทัพบกได้ช่วยอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยสถานที่ที่เป็นการทำงานในลักษณะกองอำนวยการร่วม
“แห่งที่ 2 คือ รพ.สนามกองทัพบก (ศูนย์การทหารราบ) จ.ประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินงานโดยโรงพยาบาลค่ายธนะรัชต์ รองรับผู้ป่วยได้จำนวน 100 เตียง เปิดให้บริการเมื่อ 16 เมษายน 2564 ปัจจุบันมียอดผู้ป่วยเข้าใช้บริการ จำนวน 31 ราย (25 เมษายน 2564) แห่งที่ 3 คือ คือ รพ.สนามกองทัพบก (กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 5) จ.สงขลา รองรับผู้ติดเชื้อได้ 100 ราย ปัจจุบันมีผู้เข้าพักแล้ว 36 ราย ส่วน รพ.กองทัพบก (กรมพลาธิการทหารบก) เปิดให้บริการแล้วในวันที่ 21 เมษายน 2564 รองรับผู้ป่วยได้ 200 เตียง หลังกระทรวงสาธารณสุขเข้าตรวจสอบพื้นที่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขยายเพื่อรองรับผู้ป่วยเพิ่มเติม แต่ยังไม่มีผู้ป่วยเข้าพัก (25 เม.ย.) อยู่ระหว่างการปรับปรุง” พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าว
รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบกยังจัดเตรียม รพ.สนามกองทัพบก (กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 จ.กระบี่) สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 280 ราย รพ.สนามกองทัพบก (กองพลทหารราบที่ 15 จ.สงขลา) รองรับผู้ป่วยได้ 100 ราย และ รพ.สนามกองทัพบก (กองพันเสนารักษ์ที่ 1 จ.ลพบุรี) รองรับผู้ป่วยได้ 150 ราย ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีผู้ป่วยเข้าพัก ล่าสุดได้เตรียมจัดตั้ง รพ.สนามกองทัพบก (มณฑลทหารบกที่11) ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเข้าตรวจสอบความคืบหน้า และยังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงให้เหมาะสมตามคำแนะนำของโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โดยจะจัดบุคลากรทางการแพทย์เข้าบริหารจัดการและแบ่งสัดส่วนให้ชัดเจน เพื่อความปลอดภัย
“ส่วน รพ.สนามกองทัพบก (เกียกกาย) ซึ่งกองทัพบกบริหารจัดการเอง ดำเนินการโดย ศบค.19 ทบ. และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า รองรับผู้ติดเชื้อได้ 137 ราย โดยใช้เป็นสถานที่รองรับกำลังพลและครอบครัว เป็นการลดภาระของโรงพยาบาลสาธารณสุข และรองรับผู้ป่วย COVID-19 อาการทุเลาแล้วจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ซึ่งขณะนี้มีผู้เข้าพักแล้ว 101 ราย (25 เมษายน 2564) ล่าสุดกระทรวงกลาโหมได้จัดชุดแพทย์ผสมเหล่าทัพไปสนับสนุนการบริการด้านการแพทย์ให้กับ รพ.สนาม ในความรับผิดชอบของ กทม. กองทัพบกได้มอบหมายให้กรมแพทย์ทหารบก จัดชุดแพทย์ 2 ชุด จำนวน 10 นาย เข้าสนับสนุนการปฏิบัติงานของ รพ.สนาม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ร่วมกับโรงพยาบาลลาดกระบัง ตั้งแต่ 22 เมษายน เป็นต้นไป โดยหมุนเวียนกับชุดแพทย์ของเหล่าทัพอื่น” โฆษกกองทัพบก กล่าว
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า กองทัพบกได้สนับสนุนรถพยาบาลเพื่อช่วยเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในกระบวนการรับ-ส่งผู้ป่วยจากที่พัก เพื่อเข้ารับการรักษา ณ รพ.สนามในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้เพิ่มศักยภาพในกระบวนการรับ-ส่งผู้ป่วย โดยได้รับการสนับสนุนการจัดยานพาหนะจากทุกเหล่าทัพ โดยขณะนี้กองทัพบกสนับสนุนยานพาหนะ 10 คัน จากกองทัพภาคที่ 1 หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก และกรมการขนส่งทหารบก ซึ่งจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนทำงานเป็นวงรอบกับเหล่าทัพอื่นๆ ด้วย
“จากสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่านมา ทำให้บุคลากรทางการแพทย์แถวหน้าต้องทำงานอย่างหนัก อีกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มสูงขึ้น พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก มีความห่วงใยในสถานการณ์ดังกล่าว สั่งการให้ ศบค.19 ทบ. และกรมแพทย์ทหารบก จัดเตรียมกำลังพลที่เคยปฏิบัติงานสายแพทย์สำรองไว้ เพื่อเป็นกำลังสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า โดยเฉพาะในช่วงที่จะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนจำนวนมากในอนาคต ซึ่งขณะนี้กองทัพบกจัดทำบัญชีรายชื่อและแผนการปฏิบัติงานรองรับสถานการณ์ไว้แล้ว พร้อมสนับสนุนเมื่อได้รับการร้องขอ โดยมองว่างานด้านการรักษาพยาบาล ถือเป็นหัวใจสำคัญของการดูแลประชาชน ให้ความสำคัญกับการรักษาพยาบาลและดูแลประชาชน เพื่อให้การดูแลประชาชนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และลดภาระบุคลากรทางการแพทย์แถวหน้าที่ทำงานหนักในสถานการณ์ที่ผ่านมา” โฆษกกองทัพบก กล่าว
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า สำหรับการป้องกันการติดเชื้อในหน่วยทหาร เพื่อดำรงสภาพความพร้อมของกองทัพบกในการสนับสนุนภารกิจดูแลประชาชนในสถการณ์ COVID-19 ขณะนี้ กองทัพบกกระชับและดำรงความเข้มงวดใน “มาตรการพิทักษ์พล” และปรับการปฏิบัติในบางภารกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ อาทิ ยกระดับกองรักษาการณ์คัดกรองการผ่านเข้า-ออกหน่วยทหาร การจัดสรรกำลังพลให้ปฏิบัติงานในลักษณะ WFH หลีกเลี่ยงหรืองดการสังสรรค์แบบหมู่คณะ การประชุมและจัดการเรียนการสอนออนไลน์ งดการฝึก
“การรักษากำลังพลที่ติดเชื้อและกักตัวผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เป็นต้น ส่วนการดูแลประชาชน เพื่อลดผลกระทบและบรรเทาความเดือดร้อน ยังคงเดินหน้านโยบาย อาทิ Army Delivery ช่วยเหลือเกษตรกร อุดหนุนผลผลิตทางการเกษตร แจกจ่ายหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ พร้อมลงพื้นที่สร้างความรับรู้ให้กับประชาชนเกี่ยวกับการปฏิบัติตน การสังเกตและเฝ้าระวังอาการผิดปกติ รวมถึงหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด COVID-19 ซึ่งจากแนวโน้มของการแพร่ระบาดที่สูงขึ้นนี้ กองทัพบกได้ติดตามและเตรียมความพร้อมในศักยภาพ ทั้งบุคลากร สิ่งอุปกรณ์ และความร่วมมือ พร้อมให้การสนับสนุนทุกภาคส่วนขับเคลื่อนให้มาตรการป้องกันและการรักษาพยาบาลของภาครัฐ สามารถรองรับและดูแลประชาชนได้อย่างดีที่สุด” พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย