fbpx

นายกฯ หารือคณะที่ปรึกษาหาแนวทางดูแลผู้ติดเชื้อ

ทำเนียบรัฐบาล 26 เม.ย.- นายกรัฐมนตรี หารือคณะที่ปรึกษา หาแนวทางการดูแลผู้ติดเชื้อ และจัดการการแพร่ระบาดโควิด-19 ย้ำเดินหน้าเร่งด่วนอย่างมีประสิทธิภาพ


นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้หารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องพร้อมด้วยคณะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โดยที่ประชุมมีความเห็นว่า การระบาดระลอกใหม่ของโลกในครั้งนี้เกิดขึ้นในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศในแถบยุโรปและเอเชีย ทั้งนี้ ประเทศไทยได้มีการบริหารจัดการที่ผ่านมาเป็นอย่างดี จนนำไปสู่การผ่อนคลายกฏเกณฑ์ต่างๆ รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันเกือบเป็นปกติ โดยที่ผ่านมาอาจจะมีการระบาดเกิดขึ้นเป็นกลุ่มจังหวัด ก็ไม่มีการล็อกดาวน์เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

นอกจากนี้ การระบาดระลอกเมษา 64 มาเร็ว และกระจายตัวเร็วจนสร้างความวิตกกังวลแก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก แม้ว่าไทยจะมีความพร้อมในการรับมือการระบาดครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้มีการหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยคณะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีในวันนี้ และเห็นควรที่จะดำเนินการดังนี้


ด้านการจัดการ : ให้มีการยกระดับ ศบค. โดยให้เป็นศูนย์กลางในการแก้ไขปัญหาแบบเบ็ดเสร็จเหมือนเดิม หลังจากที่ได้มีการผ่อนคลายและให้อำนาจกระทรวงที่เกี่ยวข้องได้ดูแลไปก่อนหน้านี้ ดังนั้น การแก้ไขปัญหาและการสร้างความมั่นใจแก่ประชาชน จะสามารถดำเนินการได้เบ็ดเสร็จและรวดเร็วยิ่งขึ้น

ด้านการคัดกรอง : ได้มอบหมายให้ ศบค. ดำเนินการจัดให้มีศูนย์คัดกรองของรัฐในทุกจังหวัด โดยจังหวัดขนาดใหญ่ เช่น กทม. จำเป็นต้องมีหลายจุดเพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็ว และหากพบผู้ติดเชื้อต้องมีการจัดส่งไปยังสถานที่รักษาที่เหมาะสม โดยกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ต้องดูแลให้มีความเพียงพอ

ด้านการรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อ : จัดให้โรงพยาบาลสนามที่พร้อมรับดูแลผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ เฝ้าระมัดระวังอาการ ส่วนผู้ที่มีอาการเริ่มต้น และที่มีอาการหนัก ต้องจัดให้มีสถานพยาบาล รองรับ ทั้งโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน หรือสถานพักเอกชน โดย ศบค. จะกำกับและติดตามกระทรวงที่เกี่ยวข้องให้จัดสถานพยาบาลให้มีเพียงพอกับผู้ที่ติดเชื้อ


ด้านการฉีควัคซีน : ศบค. จะเข้ามาดูแลการจัดสรรที่ควบคู่กันไปกับ บุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มเสี่ยง ภาคธุรกิจ และประชาชน โดยความสามารถในการฉีดวัคซีน จะร่วมมือกับทุกภาคส่วน จัดสถานที่ที่เหมาะสม ลดการแออัดของโรงพยาบาล ที่ต้องมุ่งเน้นในการดูแลผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อ ทั้งนี้เป้าหมายต้องฉีดวัคซีนทั้งประเทศให้ได้อย่างน้อย 300,000 โดสต่อวัน และภายใน 4 เดือน คนไทยประมาณร้อยละ 60 ของกลุ่มเป้าหมาย หรือคิดเป็นประชาชนจำนวน 30 ล้านคน ที่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรก และให้ครบ 50 ล้านคน อย่างน้อยเข็มแรกภายในอย่างช้าไม่เกินสิ้นปี 2564 นี้

สถานะการจัดหาวัคซีนของไทยภายในอีก 4 เดือนข้างหน้านี้ (พ.ค.- ส.ค. 64) จะมีสัญญาที่ยืนยันจัดส่งแล้ว 28 ล้านโดส โดยทั้งปีรวมกัน 63 ล้านโดส และอยู่ในระหว่างการเจรจาอีก 40 ล้านโดส จากหลายผู้ผลิต ซึ่งน่าจะได้รับทราบผลเร็วๆ นี้ ในส่วนระบบการลงทะเบียนเพื่อฉีดวัคซีน ได้เตรียมระบบ “หมอพร้อม” เพื่อรองรับการลงทะเบียนของประชาชนที่จะเริ่มในวันที่ 1 พ.ค. 64 นี้ ซึ่งหากระบบดังกล่าวขัดข้องหรือไม่สามารถดำเนินการได้ ก็จะมีระบบที่ได้เตรียมสำรองไว้แล้วโดยธนาคารกรุงไทยร่วมกับกระทรวงการคลัง

นายอนุชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลได้เตรียมการเรื่องนี้เป็นอย่างดี คนไทยกว่า 50 ล้านคน จะได้รับการฉีดวัคซีนภายในปี 2564 อย่างแน่นอน และงบประมาณก็มีเพียงพอที่จะจัดหาวัคซีนได้อีกมาก ส่วนรายละเอียดอื่นๆ นั้น ได้มอบหมายให้ ศบค. เร่งดำเนินการในแต่ละด้าน และรายงานกลับมาถึงนายกรัฐมนตรีภายในสัปดาห์หน้า โดยแสดงตัวเลขความเพียงพอในทุกมิติ เช่น จำนวนผู้เข้ามาคัดกรอง จำนวนเตียงที่ว่าง จำนวนยาที่ใช้รักษา จำนวนอุปกรณ์ทางการแพทย์ จำนวนการฉีดวัคซีน เป็นต้น และให้ ศบค. รายงานให้ประชาชนทราบทุกวัน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น และในวันพุธที่ 28 เม.ย. ที่จะถึงนี้ ก็จะนำเรื่องต่างๆ ที่ได้สรุปในวันนี้นำเข้าหารือกับภาคเอกชน ที่แสดงตนมาช่วยรัฐบาลในเรื่องนี้ ว่ามีเรื่องใดที่ซ้ำซ้อน และเรื่องใดที่เสริมกันได้ โดยจะแบ่งหน้าที่กันไป เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอความร่วมมือร่วมใจของคนไทยทุกคน เพื่อก้าวผ่านอุปสรรคครั้งนี้ไปด้วยกันอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง