ทำเนียบรัฐบาล 26 เม.ย.-ผู้ช่วยโฆษก ศบค. ยืนยันไม่มีชาวอินเดียเหมาลำเข้าประเทศ ส่วนคนไทยมีสิทธิ์กลับบ้านได้ แต่กรมควบคุมโรคต้องพิจารณารอบคอบ มาจากประเทศเสี่ยงสูงต้องกักตัวเกิน 14 วันหรือไม่
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวถึงการพิจารณามาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่บางจังหวัดว่าจะต้องรอที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ วันที่ 28 เม.ย.นี้ ที่จะทบทวนมาตรการต่าง ๆ ซึ่งอาจจะมีความเข้มข้นมากขึ้น
ส่วนข่าวว่าชาวอินเดียเช่าเครื่องบินเหมาลำเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า ข้อเท็จจริงและคำชี้แจงจากกระทรวงการต่างประเทศได้ตรวจสอบไปยังสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลไทยในอินเดียพบว่าไม่ได้ออก COE (Certificate of Entry) หรือหนังสือรับรองการเดินทางเข้าราชอาณาจักรไทยสำหรับผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยให้กับชาวอินเดียเดินทางเข้าประเทศไทย และสำนักงานการบินพลเรือนยืนยันไม่ได้อนุญาตให้เครื่องเช่าเหมาลำจากอินเดียวเข้าไทย
“ขอให้สื่อมวลชนช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนนำเสนอข่าวเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง ขณะนี้มีชาวอินเดียเดินทางออกนอกประเทศจริง แต่จุดหมายไม่ได้มาประเทศไทย พร้อมกันนี้ขอส่งกำลังใจให้ประเทศอินเดีย ซึ่งถือเป็นประเทศพันธมิตรและเป็นบ้านพี่เมืองน้องมาอย่างยาวนาน ไม่อยากให้เกิดความเข้าใจผิดหรือเกิดความขัดแย้งขึ้นในสังคมเพราะเรื่องดังกล่าว” พญ.อภิสมัย กล่าว
ส่วนจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะระงับการเดินทางเข้าประเทศไทยของชาวต่างชาติในช่วงนี้ออกไปก่อน ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า เรื่องการชะลอการออก COE ที่ประชุม ศบค.ทบทวน และขอให้ติดตามความชัดเจนจากทางกระทรวงการต่างประเทศ แต่ในส่วนของคนไทยที่ต้องการกลับบ้าน ไม่อยากให้เปลี่ยนแปลง เพราะเป็นสิทธิ์ของคนไทย แต่เมื่อเดินทางกลับมาแล้ว ต้องได้รับการดูแลในสถานที่กักกันตัว เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อ ซึ่งบางครั้งจะพบเชื้อจากผู้ที่มาจากต่างประเทศภายหลังระยะเวลากักตัวไปแล้ว 10 วัน เป็นสิ่งที่กรมควบคุมโรคต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ว่าผู้ที่เดินทางมาจากบางประเทศที่มีความเสี่ยงสูงต้องกักตัวมากกว่า 14 วันหรือไม่.-สำนักข่าวไทย