24 เม.ย.-“จุรินทร์” ชี้การส่งออกไทยดีขึ้นต่อเนื่อง พ้นจุดต่ำสุดแล้ว ยอดเดือนมีนาคมทะยาน 8.47% มั่นใจการส่งออกยังขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศได้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางของกระทรวงพาณิชย์ในการช่วยเหลือผู้ส่งออกของไทย ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะนี้ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด และเข้มแข็งมาโดยตลอด ผ่านกลไกสำคัญ คือ คณะกรรมการร่วมภาครัฐ และเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ที่เป็นเวทีการหารือและการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา และการร่วมกันสร้างรายได้เข้าประเทศ ซึ่งกลไกนี้ได้ช่วยทำให้การส่งออกของไทยในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้พ้นจุดต่ำสุดมาแล้ว เพราะช่วงต่ำสุด อยู่ที่เดือนพฤษภาคม และเดือนมิถุนายน 2563 ที่ติดลบถึงร้อยละ 21 และติดลบร้อยละ 23 ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงที่โรคโควิด-19 กำลังระบาดอย่างหนัก หลายประเทศกำลังประสบปัญหาโรคดังกล่าว รวมถึงปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แต่หลังจากนั้น ตัวเลขติดลบเริ่มน้อยลง จนกระทั่งในเดือนธันวาคม ปี 2563 ตัวเลขการส่งออก เริ่มเป็นบวกต่อเนื่องมาถึงเดือนมกราคม ปี 2564
ส่วนการส่งออกในของเดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้น นายจุรินทร์ ย้ำว่า เป็นไปตามที่ได้คาดการณ์ไว้ ที่การส่งออกของไทยในเดือนมีนาคม 2564 สามารถทำตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งถึง 750,000 ล้านบาท หรือ ขยายตัว 8.47% ซึ่งหากไม่นับรวมน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ก็จะสูงถึง + 12% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดีมาก และเป็นสัญญาณว่า การส่งออกของไทยกระเตื้อง และทะยานขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และมีมาตรการต่าง ๆ ร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการจับคู่เจรจาทางการค้า ระหว่างผู้ส่งออกของไทยกับผู้นำเข้าในต่างประเทศ โดยมีทีมเซลส์แมนประเทศที่มีทูตพาณิชย์เป็นหัวเรือใหญ่ เป็นผู้ประสานงานร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และภาคเอกชนในประเทศไทย ดังนั้น ในยามที่ไทยยังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตนยังมองในแง่ดีว่า การส่งออก ยังเป็นกลไกหลักสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้ แม้การนำนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยจะต้องหยุดชะงัก แต่เรายังมีตัวทดแทน หรือชดเชยที่ช่วยนำรายได้เข้าประเทศ คือ การส่งออก .-สำนักข่าวไทย