ผู้ติดเชื้อพุ่งสูง กระทบเตียงผู้ป่วย


ทำเนียบ 23 เม.ย. -ศบค. ยอมรับผู้ติดเชื้อพุ่งสูง กระทบเตียงผู้ป่วย เร่งขยายเตียงเพิ่มเติม พร้อมเพิ่มทีมรับสายด่วน กำชับมาตรการ หลังพบติดโควิด-19 ในสถานดูแลผู้สูงอายุและสถานปฎิบัติธรรม



นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กวันนี้ (23เม.ย.) มีความกังวลเกี่ยวกับการติดเชื้อในสถานดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งพบผู้ช่วยพยาบาลติดเชื้อจากสามีที่เป็นเจ้าหน้าที่อยู่ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แล้วนำเชื้อไปแพร่กับผู้ป่วยที่เป็นผู้สูงอายุในสถานดูแลผู้สูงอายุ 2 คน ดังนั้น ได้หาหรือว่า ผู้ที่ต้องกำกับดูแลสถานพยาบาล จะต้องมีมาตรการสำหรับสถานรับดูแลผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น และให้เตรียมความพร้อมหากพบผู้สูงอายุติดเชื้อโควิด-19 อีกแห่ง คือ การติดเชื้อในสถานปฎิบัติธรรม ซึ่งมีการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมีแนวทางว่าจะต้องกำหนดมาตรการสำหรับทุกศาสนา และให้กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดูแลและเพิ่มมาตรการ โดยให้นำตัวอย่างจากที่มีการติดเชื้อในสถานปฎิบัติธรรมที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำไปสู่การป้องกันการติดเชื้อจากกิจกรรมทางศาสนาด้วย


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ EOC ของกระทรวงสาธารณสุข ได้หารือเกี่ยวกับปัญหาบริหารจัดการเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร ที่มีเตียงไอซียู 262 เตียง ขณะนี้เหลือ 69 เตียง และเตียงในห้องแยกความดันลบ 69 เตียง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องน่าเป็นห่วง โดยมีคาดการณ์การใช้เตียงรองรับผู้ป่วยกรณีมีอัตราการติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้น ประมาณ 1,500 คนต่อวัน จะทำให้ในส่วนของกรุงเทพมหานคร ต้องใช้เตียงถึง 10-13 เตียงต่อวัน เท่ากับจะมีเตียงเหลือเพียงพอสำหรับรองรับผู้ป่วย เพียงแค่ 6-8 วันเท่านั้น


ส่วนจังหวัดอื่นๆทั่วประเทศ คาดว่าจะต้องใช้ 52 เตียงต่อวัน ซึ่งจะมีเตียงใช้ได้ประมาณ 19 วัน นอกจากนี้จำนวนบุคลากรทางการแพทย์ และอุปกรณ์ต่างๆ ก็ต้องเพิ่มตามไปด้วย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข จะนำไปหาแนวทางแก้ไขปัญหา โดยจะต้องมีการเพิ่มเตียงให้มากขึ้น


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวยอมรับว่า การที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นทะลุกว่า 2,000 คนต่อวัน จะกระทบกับเตียงรองรับผู้ป่วยแน่นอน เพราะยังไม่รู้ปลายทางว่าจะเป็นอย่างไร จึงต้องระดมแนวทางแก้ปัญหาจากทุกหน่วยงาน ซึ่งได้ประเมินภาวะที่มีผู้ติดเชื้อรุนแรงมาก จะต้องเพิ่มเตียงรองรับผู้ป่วย รวมทั้งจะต้องปรับพื้นที่ในโรงพยาบาลในส่วนอื่นๆ เป็นห้องไอซียู และอาจจะต้องมีห้องไอซียูสนามด้วย แต่ก็มีความยุ่งยากและต้องหาสถานที่เพิ่มเติม แต่ยืนยันว่า ผู้ป่วยอาการหนักทุกคน ต้องได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล


ส่วนกรณีผู้ป่วยติดเชื้อบางราย ไม่สามารถเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้ จนเสียชีวิตก่อนจะได้รับการรักษานั้น นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ต้องขออภัยประชาชนที่ใช้บริการสายด่วนสำหรับประสานจัดหาเตียง โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เข้ามาบริหารจัดการระบบสายด่วน โดยจะมีการปรับระบบ เพิ่มทีมรับโทรศัพท์อีก 50 สาย แบ่งป็นทีมแรกในการรับข้อมูลสำคัญของผู้ติดเชื้อ จากนั้นจะโอนข้อมูลของผู้ป่วยต่อให้ 50 สายที่เพิ่มขึ้นมา เป็นทีมที่โทรกลับไปหาผู้ป่วยเพื่อประสานหาเตียง โดยจะแบ่งเป็น กลุ่มสีเขียว สีเหลือง และสีแดง สำหรับให้บริการประชาชนตามระดับอาการ


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่รอเตียงอยู่ 1,423 คน และเมื่อวานนี้ (22 เม.ย.) สามารถหาเตียงให้ผู้ป่วยได้แล้ว 474 คน โดยการปรับระบบใหม่นี้ กลุ่มผู้ป่วยสีเขียว ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ป่วยไม่มีอาการหรืออาการน้อย จากต้องหาสถานที่ให้เข้ารักษา โดยไม่ไปแพร่เชื้อสู่คนอื่น ส่วนกลุ่มผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดง ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่มีอาการมากและอาการหนัก ขอให้รอทางทีมสาธารณสุขจะเร่งหาเตียงให้เร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย