fbpx

โควิดพุ่ง 2,070 ราย ตายเพิ่ม 4 ราย ยันไม่มีเคอร์ฟิวใน กทม.


ทำเนียบ 23 เม.ย. – ศบค. เผยผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่ง 2,070 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย ยืนยันไม่มีการประกาศเคอร์ฟิว กทม.พบผู้ป่วยสูงสุดวันเดียวเพิ่ม 740 ราย



นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,070 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 2,062 ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศ 8 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 50,183 ราย หายป่วยแล้ว 30,189 ราย รักษาอยู่ 19,873 ราย แบ่งเป็นในโรงพยาบาล 15,642 ราย และโรงพยาบาลสนาม 4,231 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 4 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 121 คน


สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต รายที่ 118 เป็นชายไทย อายุ 72 ปี อาศัยอยู่ที่ กทม. ไม่มีโรคประจำตัว มีการเดินทางไปจังหวัดภูเก็ต มีไข้ ไอ เจ็บคอ ถ่ายเหลว ซึ่งอาการไม่ดีขึ้นพบปอดอักเสบ และตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 จากนั้น เหนื่อยหอบและใส่ท่อช่วยหายใจ เสียชีวิต 20 เม.ย.


ผู้เสียชีวิตรายที่ 119 เป็นชายไทยอายุ 74 ปี อยู่ที่จังหวัดสงขลา มีโรคประจำตัวคือความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน เมื่อตรวจพบเชื้อและเข้ารับการรักษาพบปอดอักเสบมากขึ้น หัวใจหยุดเต้น ได้ทำการกู้ชีพและเสียชีวิตในเวลาต่อมา


ผู้เสียชีวิตรายที่ 120 เป็นหญิงไทยอายุ 29 ปี เป็นโรคอ้วน มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า มีอาการไอ มีเสมหะ หอบเหนื่อย และตรวจพบติดเชื้อ เข้ารับการรักษา ต่อมาภาวะหัวใจล้มเหลว ปอดอักเสบติดเชื้อรุนแรงและเสียชีวิตในวันที่ 22 เม.ย.

ผู้เสียชีวิตรายที่ 121 เป็นชายไทยอายุ 83 ปี อาศัยจังหวัดสมุทรปราการโรคประจำตัวคือเบาหวานความดันโลหิตสูงไตเรื้อรังและโรคหัวใจมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า วันที่ 8 เม.ย. เข้ารับการตรวจหาเชื้อ และมีอาการไอ มีเสมหะ วันที่ 9 เม.ย.ผลพบเชื้อ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล จากนั้นอาการไม่ดีขึ้น ปอดอักเสบรุนแรง ต้องใส่ท่อช่วยหายใจและเสียชีวิต 22 เม.ย.



นพ.ทวีศิลป์ ยังยืนยันว่า ยังไม่มีการประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่ กทม. ตามที่มีการแชร์ข้อมูลกันในโซเชียลฯ แม้วันนี้ตัวเลขจะพุ่งสูงสุดในครั้งแรกของระลอกนี้ ทั้งนี้ เมื่อแยกยอดผู้ติดเชื้อรายจังหวัด สูงที่สุดคือ กรุงเทพมหานคร มีผู้ติดเชื้อถึง 740 ราย รองลงมาคือ เชียงใหม่ 237 ราย ชลบุรี 125 ราย สมุทรปราการ 79 รายนครราชสีมา 69 ราย สมุทรสาคร 48 รายประจวบคีรีขันธ์ 44 ราย ปทุมธานี 41 ราย สุราษฎร์ธานี 38 ราย และระยอง 35 ราย ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ พบว่ามีชาวอินเดียเข้าประเทศไทยและอยู่ในสถานกักกัน จนตรวจพบว่าติดเชื้อถึง 5 ราย

สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ในเข็มที่ 1 สะสมจำนวน 834,082 ราย และเข็มที่ 2 สะสมจำนวน 130,743 ราย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด