เฉลี่ยตัวเลขติดเชื้อแล้วถือว่ายังคุมได้

กรุงเทพฯ 23 เม.ย.-“อนุทิน” ระบุประชาชนให้ความร่วมมือมาตรการ ศบค.มากขึ้น ห้วง 2 สัปดาห์สถานการณ์ดีขึ้น แจงเฉลี่ยตัวเลขแม้ทะลุ 2,000 คน แต่ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์คุมได้ ยันบุคลากรสาธารณสุขยังสู้


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการรับมือกับสถานการณ์ยอดผู้ติดเชื้อโควิด -19 ซึ่งวันนี้(23 เม.ย.) ทะลุ 2 พันคนแล้วว่าขณะนี้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามในทุกๆ ที่ เมื่อวาน (22 เม.ย.) ไปดูที่หัวหินมา ซึ่งมีความพร้อม ส่วนตัวเลขผผู้ป่วยที่เพิ่มมากในช่วงนี้ยังอยู่ในเมืองใหญ่ ๆ เช่น กรุงเทพฯ เป็นการไล่เก็บข้อมูล ยืนยันว่าไม่ได้ปิดข้อมูล แต่กรุงเทพฯ เป็นเมืองใหญ่ สำนักการแพทย์อาจมีปัญหาส่งข้อมูลมาให้กระทรวงสาธารณสุข

ส่วนกรณีตั้งเป้าจะควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อให้ได้ภายในเดือนเมษายน แต่จำนวนยังสูงขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ต้องพยามทำให้ดีที่สุด ขณะนี้การเดินทางลดลง แต่ยังไม่เท่าปีที่แล้ว ผับ บาร์ สถานบันเทิง การรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก ๆ ขณะนี้ลดน้อยลงตามมาตรการ ศบค.


“ตัวเลขติดเชื้อขณะนี้ เข้าใจว่าไม่ใช่เพิ่งติดเมื่อวาน แต่อาจติดมาตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ ซึ่งหวังว่าบางส่วนที่ไม่แสดงอาการรุนแรงหรือบางส่วนที่มีอาการ แต่เมื่อได้รับยาภายในวงรอบ 2 สัปดาห์ก็น่าจะหาย และจากนี้หากไม่มีกลุ่มก้อนใหม่เพิ่มขึ้นมาก็น่าจะลดลงตามหลักระบาดวิทยา” นายอนุทิน กล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เรื่องวัคซีนยืนยันว่าของแอสตราเซเนกาจะส่งตามกำหนดที่เซ็นสัญญาไว้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ซึ่งเป็นที่ทราบว่าจะส่งในต้นเดือนมิถุนายนนี้ จะทำให้เร็วกว่านี้คงไม่ได้ เพราะต้องมีขั้นตอน มีความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค รวมถึงมีขั้นตอนตรวจเช็คว่าปนเปื้อนหรือไม่ ทั้งหมดเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้จะนำออกมาใช้ก่อนไม่ได้

ส่วนกรณีคุณยายป่วยโควิด-19 แต่ไม่มีเตียงรองรับ จนที่สุดต้องเสียชีวิตในบ้าน นายอนุทิน กล่าวว่า ได้ทราบแล้ว และให้กรมการแพทย์สอบถามไปยัง กทม. ว่าจะต้องปรับปรุงระบบการแยกแยะคนไข้ที่มีความฉุกเฉินอย่างไร เพราะต้องแยกประเภทให้ได้ ยืนยันว่าทุกฝ่ายทำงานเต็มที่


เมื่อถามย้ำถึงกรณีคนติดเชื้อและต้องพักรอที่บ้านจนทำให้ติดเชื้อทั้งบ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า คนที่เริ่มมีอาการต้องรู้ตัวเอง เช่น เมื่อไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์มามีความเสี่ยงเกิดขึ้นแล้ว ถ้าอยู่บ้านคนเดียวก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าบ้านหลายคนโดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุอยู่ ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นด้วยการไม่คลุกคลีหรือสัมผัส

“ได้บอกไปทางกรมการแพทย์และกรมควบคุมโรค ว่าหากต้องการให้ ศบค.หรือรัฐบาลสนับสนุนสิ่งใด ผมพร้อมเสนอให้ และสิ่งใดที่อยู่ในอำนาจก็อนุมัติในทันที เช่น ขอยามาก็ได้อนุมัติไป หรือเมื่อวานได้คุยกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ว่าขณะนี้มีคนรออยู่บ้านจำนวนมาก จึงมีข้อสรุปว่า สปสช.จะดำเนินการเรื่องชุดตรวจตัวเองที่บ้าน เช่นเครื่องวัดไข้ เครื่องวัดค่าออกซิเจนและสั่งการให้แต่ละโรงพยาบาลคอยเฝ้าสังเกตอาการคนไข้ที่ติดเชื้อและอยู่บ้านรอเตียง เบื้องต้นให้ได้รับอุปกรณ์เหล่านี้ไปก่อน” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามย้ำว่าขณะนี้สามารถใช้คำว่าควบคุมสถานการณ์ได้อยู่หรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า คำว่าควบคุมได้ คือไม่ให้แพร่ระบาดไปเกินระดับที่ตั้งเกณฑ์เอาไว้ ซึ่งในขณะนี้ถือว่านิ่งมาอาทิตย์กว่า ๆ ตัวเลขพันเจ็ดพันสี่ขึ้นมาสองพันอะไรแบบนี้ ซึ่งหากนำมาเฉลี่ยยังอยู่ใกล้เคียงกัน ยังอยู่ในจุดที่คาดหวังไว้ ซึ่งเชื่อว่าเป็นผลจากการใช้มาตรการเพราะหากไม่ควบคุมอาจทำให้มากกว่านี้ จึงหวังว่าจากนี้ไปสองสัปดาห์ทุกอย่างจะค่อย ๆ ลงมา

ส่วนคนที่ป่วยและหายแล้วยังมีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องถามแพทย์ ซึ่งมีคณะกรรมการบริหารการฉีดวัคซีนที่จะดูแลเรื่องความปลอดภัยในการฉีด ประเด็นเรื่องป่วยและหายแล้วจะต้องมาฉีดวัคซีนหรือไม่ ยังไม่เคยถามแพทย์

“ตอนนี้ผมเห็นว่าความร่วมมือของประชาชนเพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อมีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ทุกคนก็เสียใจ และพยายามจะแก้ไข เช่นวันนี้ที่กระทรวงสาธารณสุข ศูนย์ปฏิบัติการก็แทบระเบิด เวลาเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ขึ้น แม้ทุกคนจะบอกว่าทำดีที่สุด แต่ผมก็ต้องบอกไปว่ายังไม่พอ เพราะหากทำเต็มที่ ผลต้องออกมาดีกว่านี้ แต่จะไปกดดันเขาเพื่ออะไร จะให้ผมย้ายอธิบดีกรมการแพทย์หรือ มันไม่ได้ ผมเชื่อว่าตอนนี้บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนทำงานเต็มที่ เช่นเมื่อวานได้หัวหิน ได้เจอทั้งหมอและพยาบาล บุคลากรสาธารณสุขหลาย 10 คน ไม่มีใครสักคนที่เดินมาบอกว่าไม่ไหวแล้ว ทุกคนยังสู้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

เมื่อถามว่าขณะนี้กังวลอะไรมากที่สุด นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่กังวลคือความร่วมมือของประชาชน ถ้าให้ความร่วมมือเต็มที่ อยู่บ้านมากที่สุดเท่าที่จะทำได้หรือทำงานที่บ้าน หลีกเลี่ยงการพบปะ การรวมกลุ่มกลุ่มกันจำนวนมาก สิ่งนี้ช่วยได้มาก อยากย้ำว่าขอให้งดการรวมกลุ่มทุกประเภท

“กรณีไม่ไปสังสรรค์ แต่ว่าไปปฎิบัติธรรมนั่นก็คือการรวมกลุ่มกันอยู่ดี หรือกรณีเจ้าของโรงงานไปดูงานมอเตอร์โชว์มา ไม่รู้ไปติดมาจากไหน เอามาติดทั้งโรงงานแบบนี้ คือสิ่งที่ผมกังวลมากที่สุด เพราะบางทีคนไม่เข้าใจว่าไปแค่นี้ไม่น่าติดหรอก แต่ถ้าไปในที่กลุ่มคนเยอะ ๆ ความเสี่ยงมันก็เกิดขึ้น” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

เมื่อถามย้ำว่าตรวจสอบและจะเปิดเผยกรณีไฮโซเดินทางข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านแล้วนำเชื้อกลับมาแพร่กระจายหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องของตำรวจและเจ้าหน้าที่บ้านเมือง สาธารณสุขมีหน้าที่รักษา จะให้สาธารณสุขไปถือปืนยืนเฝ้าคนไม่ให้เข้าผับเข้าบาร์ไม่ได้

ส่วนกรณีก่อนหน้านี้คณะแพทย์มีข้อเสนอว่าควรบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง แต่รัฐบาลบอกให้พบกันครึ่งทาง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว ทุกคนมีเงื่อนไข มีความกังวลทางแพทย์ ต้องบอกว่าดีที่สุดคือการล็อกทุกอย่าง ไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ในมุมเศรษฐกิจถ้าทำแบบนี้เศรษฐกิจพัง จึงต้องหาจุดที่ลงตัวซึ่งกันและกัน

“เราพยายามประคับประคองทุกมิติของกลไกการบริหารประเทศให้เดินหน้าไปได้ ถ้าสาธารณสุขบอกว่าดีที่สุดคือการล็อกดาวน์ ทำได้หรือไม่ สาธารณสุขอยากจะล็อกดาวน์จะตาย แต่พอเสนอมา พอมีการชี้แจงของฝั่งเศรษฐกิจ เราก็ต้องฟัง ถ้าไม่ฟังแล้วบอกไม่สนแล้วครับ มันจะไม่เป็นรัฐบาล ผมพูดแล้วนะ ผมเตือนอย่างนี้แล้วนะ ถ้าไม่เป็นไปตามนี้ ผมไม่รับผิดชอบนะ ผมพูดได้ไหม แล้วใครจะรับผิดชอบ นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบ ถ้านายกรัฐมนตรีอยู่ไม่ได้ รัฐบาลทั้งรัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ วันนี้จึงไม่ใช่วันที่จะไปชี้ว่าใครผิดใครถูกมันเป็นวันที่ต้องร่วมมือกันอย่างเต็มที่และมีความอดทนอย่างสูง” นายอนุทิน กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน […]

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]