กรุงเทพฯ 23 เม.ย.-รองโฆษกรัฐบาลเผยนายกฯห่วงคนไทยที่อยู่ในมาเลย์เกินกำหนด กำชับทุกหน่วยเร่งอำนวยความสะดวกให้เดินทางกลับไทย ขออย่าลักลอบเข้าช่องทางธรรมชาติ สั่งคุมเข้มชายแดนสกัดโควิด
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมีความห่วงใยคนไทยที่พำนักในประเทศมาเลเซียเกินกำหนด ซึ่งเป็นความผิดทางกฎหมาย โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) มาเลเซียได้กำหนดให้วันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมาเป็นวันสุดท้ายที่ชาวต่างชาติจะได้รับการผ่อนปรน ไม่ถูกดำเนินคดี ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลืออำนวยความสะดวกแก่คนไทย โดยเน้นย้ำว่าทุกคนต้องได้กลับบ้าน ขอให้สบายใจ แต่อย่าลักลอบเข้าทางช่องทางธรรมชาติ เพราะอาจนำมาสู่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 ในวงกว้าง
“สำหรับด่านพรมแดนทางบก เปิดให้คนไทยเดินทางเข้าประเทศทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ โดยมีโควต้าจำนวนผู้ลงทะเบียนกลับ ขณะนี้ยังมีที่ว่างเพียงพอ ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมามีคนไทยกลับจากมาเลเซียทั้งที่ถูกและไม่ถูกกฏหมายจำนวนมาก ผู้เดินทางทุกคนได้รับการตรวจคัดกรองโควิด19 และกักกันตัวในสถานที่ที่รัฐจัดให้ หากรายใดมีอาการผิดปกติจะถูกส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลทันทีและตรวจหาเชื้อ ขณะนี้การจัดหาเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด19 ทั้งเตียงในโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม และ Hospitel ในจังหวัดชายแดนใต้มีประมาณ 2,000 เตียง” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
น.ส.รัชดา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้เพิ่มมาตรการการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น โดยเพิ่มกำลังพลลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย เสริมกำลังตามด่านตรวจจุดตรวจ เส้นทางหลัก เส้นทางรอง บูรณาการการปฎิบัติงานร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย ระหว่างเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง อาสาสมัครประจำถิ่นและผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น เครือข่ายอสม. เพื่อสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติ
น.ส.รัชดา กล่าวว่า กรณีคนไทยที่พำนักเกินกำหนดตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 และยังไม่เดินทางออกจากมาเลเซีย สถานทูตไทยในมาเลเซียได้ขอให้รีบลงทะเบียนเดินทางกลับที่เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ http://dcaregistration.mfa.go.th โดยเร็วที่สุด และนำใบรับรองการเดินทางจากสถานทูตฯ ไปติดต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) มาเลเซียโดยเร็ว เพื่อขอ special pass นำไปยื่นต่อเจ้าหน้าที่ด่านพรมแดนขอเดินทางออกจากมาเลเซีย ส่วนจะมีค่าปรับด้วยหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ที่จะพิจารณาจากเหตุผลที่ยังไม่เดินทางกลับ
“อีกกรณีหนึ่งคือคนไทยที่พำนักเกินกำหนด ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2563 (ก่อนช่วงสถานการณ์โควิด-19) หรือเข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งจะไม่ได้รับการยกเว้นโทษในฐานะคนตกค้างเนื่องด้วยสถานการณ์โควิด19 กฎหมายมาเลเซียกำหนดโทษปรับไม่เกิน 10,000 ริงกิต และ/หรือจำคุกไม่เกิน 5 ปี ดังนั้น คนไทยที่เข้าข่ายนี้ ทางสถานทูตฯแนะนำให้เข้าร่วมโครงการ Recalibration Program (Repatriation) โดยนัดหมายกับตม. มาเลเซีย เพื่อชำระค่าปรับ 500 ริงกิต และจะได้รับ special pass เพื่อใช้เดินทางกลับไทย และจะไม่ถูกจับกุมดำเนินคดี (ยกเว้นรัฐซาบาห์ รัฐซาราวัก และเขตปกครองพิเศษลาบวน ซึ่งจะประกาศรายละเอียดโครงการต่างหาก) ทั้งนี้ จะต้องเดินทางออกจากมาเลเซียภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2564 จึงควรนัดหมายกับตม. มาเลเซีย เพื่อไปชำระค่าปรับแต่เนิ่น ๆ เนื่องจากคิวการนัดหมายมีจำนวนจำกัดในแต่ละวัน” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย