ติดเชื้อลดลง แต่ยังต้องดูแลเข้ม

ทำเนียบรัฐบาล 19 เม.ย.- ศบค.เผยตัวเลขติดเชื้อวันนี้ 1,390 ราย แม้จะลดลง แต่ยังวางใจไม่ได้ ย้ำทุกคนต้องดูแลตัวเองตามมาตรการ ศธ.เคร่งครัด ชี้ถ้าไม่ร่วมมือกัน กำลังเจ้าหน้าที่อาจไม่พอ


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด 19 วันนี้(19 เม.ย.) เพิ่มขึ้น 1,390 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 43,742 ราย หายป่วยแล้ว 28,787 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 14,851 รายเสียชีวิตเพิ่ม 3 คน ผู้เสียชีวิตสะสมรวม 104 คน ผู้ป่วยยืนยันสะสมรอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 – 19 เมษายน 2564 จำนวน 14,879 ราย โดยผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น 1,390 ราย เป็นผู้ที่ติดเชื้อในประเทศ 1,384 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 1,058 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 326 ราย เป็นผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ 6 ราย กลับจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย อินเดีย 1 ราย บาห์เรน 2 ราย มาเลเซีย 2 ราย

ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับผู้เสียชีวิต 3 ราย รายแรกเป็นชาย อายุ 56 ปี อาชีพ พนักงานเสิร์ฟในสถานบันเทิง กรุงเทพฯ มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง เส้นเลือดในสมองตีบ กลับบ้านที่จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 7 เมษายน วันที่ 13 เมษายน มีอาการไอ นอนพักอยู่ที่บ้าน วันที่ 17 เมษายน มีอาการเหนื่อยมากขึ้น หายใจติดขัด ติดต่อรถพยาบาลมารับ อาการแย่ลง เจ้าหน้าที่ทำการฟื้นคืนชีพไม่ดีขึ้น ผลการตรวจพบเชื้อโควิด19 และเสียชีวิตในวันที่ 18 เมษายน เวลา 00.31 น.


พญ.อภิสมัย กล่าวว่า รายที่ 2 ผู้ป่วยเพศหญิงอายุ 84 ปี มีโรคประจำตัว คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจตีบ ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย พักอยู่ที่กรุงเทพฯ มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า คือ หลานชายที่ทำงานในสถานบันเทิง รัชดา วันที่ 8 เมษายน มีอาการไข้ ไอ เหนื่อยหอบ ผลเอกซเรย์เป็นปอดอักเสบรุนแรง แพทย์พิจารณาใส่ท่อช่วยหายใจ วันที่ 10 เมษายน ผลยืนยันพบเชื้อโควิค19, วันที่ 16 เมษายน ความดันโลหิตตก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า ส่วนรายสุดท้าย เป็นเพศหญิง อายุ 61 ปี อาชีพค้าขาย เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไทรอยด์ ขณะป่วยอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยวันที่ 6 เมษายน ร่วมรับประทานอาหารกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้าที่ ติดจากสถานบันเทิงหัวหิน วันที่ 8 เมษายน ตรวจหาเชื้อ covid19 เนื่องจากได้รับแจ้งว่าเพื่อนพบเชื้อ วันที่ 10 เมษายน ผลยืนยันพบเชื้อโควิด-19 วันที่ 11 เมษายน เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล วันที่ 18 เมษายน มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ภาพรวมตั้งแต่วันที่ 4-10 เมษายน ก่อนเทศกาลสงกรานต์ ทั่วประเทศเริ่มมีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น 1-10 ราย ใน 62 จังหวัด แต่จากนั้นช่วงวันที่ 11-17 เมษายน พบว่าหลายจังหวัดเริ่มมีรายงานผู้ติดเชื้อเกิน 10 ราย และมีหลายจังหวัดมีรายงานผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนเกิน 50 ราย หลายพื้นที่เป็นการติดเชื้อที่เชื่อมโยงมาจากจังหวัดอื่น อาทิ จากไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อจากจังหวัดสระแก้ว เป็นชายอายุ 41 ปี เจ้าของธุรกิจ ทำงานในสถานบันเทิง วันที่ 27 มีนาคม ไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านทองหล่อกับเพื่อน 3 คน และยังเดินทางไปพบปะผู้คนอีกหลายแห่ง รวมทั้งยังแพร่เชื้อให้กับคนในครอบครัว ตรวจพบเชื้อวันที่ 4 เมษายน และพบว่ามีผู้สัมผัสใกล้ชิด ยืนยันติดเชื้อแล้ว 26 ราย


“การปรับระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรคของแต่ละพื้นที่เพื่อลดการเคลื่อนย้าย ลดการเดินทาง ที่กำหนดระยะเวลาตั้งแต่ 23.00 น.- 04:00 น. จะช่วยลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อได้ ขณะที่กระทรวงคมนาคมพยายามจัดระบบขนส่งสาธารณะทั่วประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการงดการเดินทาง งดการเคลื่อนย้าย และขอความร่วมมือสถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ เอกชนให้พนักงาน work from home เต็มรูปแบบ ซึ่งหากทำได้ เชื่อว่า 2 สัปดาห์นับจากนี้จะลดอัตราการติดเชื้อลงได้” ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ส่วนกิจการและกิจกรรมที่ยังมีความจำเป็นยังสามารถทำได้ แต่ขอความร่วมมือให้ทุกจังหวัดดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุข หากกิจกรรมใดสามารถชะลอได้ ขอให้เลื่อนออกไปก่อน โดยเฉพาะกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก แม้วันนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลดลง แต่ยังไม่สามารถไว้วางใจได้ มาตรการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ ยังมีความจำเป็น รวมทั้งลดความขัดแย้งเรื่องการกล่าวโทษผู้ติดเชื้อ

ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วโลก 141.9 ล้านราย เสียชีวิตแล้วทั่วโลก 3 ล้านคน สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 32.4 ล้านราย อินเดีย 15 ล้านราย ซึ่งเพียงวันเดียวผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 275,306 ราย บราซิล 13.9 ล้านราย ฝรั่งเศส 5.2 ล้านราย รัสเซีย 4.7 ล้านราย ขณะที่ประเทศไทยอยู่ลำดับที่ 109

ส่วนที่มีข่าวว่าผู้ป่วยหลายคนยังไม่ได้รับการรักษา เนื่องจากเตียงไม่เพียงพอ พญ.อภิสมัย กล่าวว่า จากข้อมูลวันที่ 1-8 เมษายน มีบุคลากรทางการแพทย์ 146 ราย ส่วนใหญ่เป็นแพทย์และพยาบาล 33 รายติดเชื้อจากการทำงาน เพราะมีการปกปิดไทม์ไลน์ นอกจากนั้นติดเชื้อจากคนใกล้ชิดในครอบครัว ซึ่งหากยังมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละ 1,000 คน เป็นเวลา 10 วัน อาจไม่มีเตียงเพียงพอสำหรับคนไข้ รวมทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษาและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งต้องเตรียมการล่วงหน้า

“ถ้าสถานประกอบการและประชาชน ไม่ให้ความร่วมมือ บุคลากรด่านหน้าที่กำลังทำหน้าที่อยู่คงไม่สามารถรับมือไหว จึงอยากขอความร่วมมือให้ทุกคนร่วมมือกัน และดูแลสุขภาพ สวมหน้ากาก ล้างมือ อย่างเคร่งครัด” ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าว.-สำนักข่าวไท

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

ทบ.ยันไม่พบทหารกัมพูชาปิดทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต

กทม. 15 มิ.ย.-กองทัพบก ยืนยันไม่พบทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธครบมือ ปิดทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต ขอฟังข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น จากกรณีเพจแจ้งข่าวศรีสะเกษ เผยแพร่ข่าวทหารกัมพูชา พร้อมอาวุธครบมือ ปิดถนนทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต บริเวณช่องบก ห้ามไม่ให้ทหารไทยขึ้นไปซ่อมแซมถนน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา เป็นครั้งที่ 2 เมื่อเวลา 12.45 น. ล่าสุด พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในพื้นที่ พบว่าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าว โดยขอให้ฟังข้อมูลข่าวสารจากทางราชการเป็นหลัก หรือสามารถสอบถามกองทัพบกได้เป็นกรณีไป พร้อมระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวมีการทำถนนไว้ส่งกำลังบำรุง แต่อยู่ในเขตเราทั้งหมด ซึ่งทางกัมพูชาเข้าใจ.-313.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน”​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรฯ

อุดรธานี ​15 มิ.ย.​- “อนุทิน”​ โหมโรง​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรธานี​ เปิดตัว​ “อดิศักดิ์​” ไทยสร้างไทย บอก​ “นู๋หนู​-​ดู๋ดี๋”​ ซี้กัน​ อวยเป็น สส.คุณภาพ​ ภูมิใจไทย​ ภูมิใจแทน​ รอบหน้าขอชาวอุดรฯ​ เลือกเป็น สส.ภท.​ โอดแทนชาวบ้าน​ ซัด​ห่วย 3 ปี งบโยธาแค่​ 700 ล้าน​ บอกถ้าเลือกภูมิใจไทยซัดไปแล้ว​ 3,000 ล้าน​ เหน็บ​ถนน 4 เลน ใครทำให้กุดอย่าไปเลือก นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ และผู้บริหารระดับสูง​ ลงพื้นที่เทศบาลตำบลจำปี​ อำเภอศรีธาตุ​ จังหวัดอุดรธานี​ เพื่อพบปะประชาชน ที่โรงเรียนศรีธาตุพิทยาคม​ โดยมี​นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี​ พรรคไทยสร้างไทย​ ให้การต้อนรับ โดยนายอนุทิน​ ได้รับฟังการรายงานความคืบหน้าการ​แก้ไขปัญหา​ในพื้นที่ ก่อนจะขึ้นเวทีพร้อมกับ […]

จับตาประชุม JBC วันที่ 2 หลังกัมพูชายื่นศาลโลก

กัมพูชา 15 มิ.ย.-ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 2 เริ่มขึ้นแล้ว ที่กรุงพนมเปญ หลังวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยมีการประชุมวงเล็กก่อน จากนั้นอาจมีการแถลงร่วมกัน ต้องจับตาว่าวันนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่ รวมถึงท่าทีของแต่ละฝ่าย หลังกัมพูชายื่นศาลโลก.-สำนักข่าวไทย