ติดเชื้อลดลง แต่ยังต้องดูแลเข้ม

ทำเนียบรัฐบาล 19 เม.ย.- ศบค.เผยตัวเลขติดเชื้อวันนี้ 1,390 ราย แม้จะลดลง แต่ยังวางใจไม่ได้ ย้ำทุกคนต้องดูแลตัวเองตามมาตรการ ศธ.เคร่งครัด ชี้ถ้าไม่ร่วมมือกัน กำลังเจ้าหน้าที่อาจไม่พอ


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด 19 วันนี้(19 เม.ย.) เพิ่มขึ้น 1,390 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 43,742 ราย หายป่วยแล้ว 28,787 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 14,851 รายเสียชีวิตเพิ่ม 3 คน ผู้เสียชีวิตสะสมรวม 104 คน ผู้ป่วยยืนยันสะสมรอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 – 19 เมษายน 2564 จำนวน 14,879 ราย โดยผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น 1,390 ราย เป็นผู้ที่ติดเชื้อในประเทศ 1,384 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 1,058 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 326 ราย เป็นผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ 6 ราย กลับจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย อินเดีย 1 ราย บาห์เรน 2 ราย มาเลเซีย 2 ราย

ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับผู้เสียชีวิต 3 ราย รายแรกเป็นชาย อายุ 56 ปี อาชีพ พนักงานเสิร์ฟในสถานบันเทิง กรุงเทพฯ มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง เส้นเลือดในสมองตีบ กลับบ้านที่จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 7 เมษายน วันที่ 13 เมษายน มีอาการไอ นอนพักอยู่ที่บ้าน วันที่ 17 เมษายน มีอาการเหนื่อยมากขึ้น หายใจติดขัด ติดต่อรถพยาบาลมารับ อาการแย่ลง เจ้าหน้าที่ทำการฟื้นคืนชีพไม่ดีขึ้น ผลการตรวจพบเชื้อโควิด19 และเสียชีวิตในวันที่ 18 เมษายน เวลา 00.31 น.


พญ.อภิสมัย กล่าวว่า รายที่ 2 ผู้ป่วยเพศหญิงอายุ 84 ปี มีโรคประจำตัว คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจตีบ ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย พักอยู่ที่กรุงเทพฯ มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า คือ หลานชายที่ทำงานในสถานบันเทิง รัชดา วันที่ 8 เมษายน มีอาการไข้ ไอ เหนื่อยหอบ ผลเอกซเรย์เป็นปอดอักเสบรุนแรง แพทย์พิจารณาใส่ท่อช่วยหายใจ วันที่ 10 เมษายน ผลยืนยันพบเชื้อโควิค19, วันที่ 16 เมษายน ความดันโลหิตตก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า ส่วนรายสุดท้าย เป็นเพศหญิง อายุ 61 ปี อาชีพค้าขาย เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไทรอยด์ ขณะป่วยอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยวันที่ 6 เมษายน ร่วมรับประทานอาหารกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้าที่ ติดจากสถานบันเทิงหัวหิน วันที่ 8 เมษายน ตรวจหาเชื้อ covid19 เนื่องจากได้รับแจ้งว่าเพื่อนพบเชื้อ วันที่ 10 เมษายน ผลยืนยันพบเชื้อโควิด-19 วันที่ 11 เมษายน เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล วันที่ 18 เมษายน มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ภาพรวมตั้งแต่วันที่ 4-10 เมษายน ก่อนเทศกาลสงกรานต์ ทั่วประเทศเริ่มมีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น 1-10 ราย ใน 62 จังหวัด แต่จากนั้นช่วงวันที่ 11-17 เมษายน พบว่าหลายจังหวัดเริ่มมีรายงานผู้ติดเชื้อเกิน 10 ราย และมีหลายจังหวัดมีรายงานผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนเกิน 50 ราย หลายพื้นที่เป็นการติดเชื้อที่เชื่อมโยงมาจากจังหวัดอื่น อาทิ จากไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อจากจังหวัดสระแก้ว เป็นชายอายุ 41 ปี เจ้าของธุรกิจ ทำงานในสถานบันเทิง วันที่ 27 มีนาคม ไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านทองหล่อกับเพื่อน 3 คน และยังเดินทางไปพบปะผู้คนอีกหลายแห่ง รวมทั้งยังแพร่เชื้อให้กับคนในครอบครัว ตรวจพบเชื้อวันที่ 4 เมษายน และพบว่ามีผู้สัมผัสใกล้ชิด ยืนยันติดเชื้อแล้ว 26 ราย


“การปรับระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรคของแต่ละพื้นที่เพื่อลดการเคลื่อนย้าย ลดการเดินทาง ที่กำหนดระยะเวลาตั้งแต่ 23.00 น.- 04:00 น. จะช่วยลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อได้ ขณะที่กระทรวงคมนาคมพยายามจัดระบบขนส่งสาธารณะทั่วประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการงดการเดินทาง งดการเคลื่อนย้าย และขอความร่วมมือสถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ เอกชนให้พนักงาน work from home เต็มรูปแบบ ซึ่งหากทำได้ เชื่อว่า 2 สัปดาห์นับจากนี้จะลดอัตราการติดเชื้อลงได้” ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ส่วนกิจการและกิจกรรมที่ยังมีความจำเป็นยังสามารถทำได้ แต่ขอความร่วมมือให้ทุกจังหวัดดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุข หากกิจกรรมใดสามารถชะลอได้ ขอให้เลื่อนออกไปก่อน โดยเฉพาะกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก แม้วันนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลดลง แต่ยังไม่สามารถไว้วางใจได้ มาตรการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ ยังมีความจำเป็น รวมทั้งลดความขัดแย้งเรื่องการกล่าวโทษผู้ติดเชื้อ

ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วโลก 141.9 ล้านราย เสียชีวิตแล้วทั่วโลก 3 ล้านคน สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 32.4 ล้านราย อินเดีย 15 ล้านราย ซึ่งเพียงวันเดียวผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 275,306 ราย บราซิล 13.9 ล้านราย ฝรั่งเศส 5.2 ล้านราย รัสเซีย 4.7 ล้านราย ขณะที่ประเทศไทยอยู่ลำดับที่ 109

ส่วนที่มีข่าวว่าผู้ป่วยหลายคนยังไม่ได้รับการรักษา เนื่องจากเตียงไม่เพียงพอ พญ.อภิสมัย กล่าวว่า จากข้อมูลวันที่ 1-8 เมษายน มีบุคลากรทางการแพทย์ 146 ราย ส่วนใหญ่เป็นแพทย์และพยาบาล 33 รายติดเชื้อจากการทำงาน เพราะมีการปกปิดไทม์ไลน์ นอกจากนั้นติดเชื้อจากคนใกล้ชิดในครอบครัว ซึ่งหากยังมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละ 1,000 คน เป็นเวลา 10 วัน อาจไม่มีเตียงเพียงพอสำหรับคนไข้ รวมทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษาและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งต้องเตรียมการล่วงหน้า

“ถ้าสถานประกอบการและประชาชน ไม่ให้ความร่วมมือ บุคลากรด่านหน้าที่กำลังทำหน้าที่อยู่คงไม่สามารถรับมือไหว จึงอยากขอความร่วมมือให้ทุกคนร่วมมือกัน และดูแลสุขภาพ สวมหน้ากาก ล้างมือ อย่างเคร่งครัด” ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าว.-สำนักข่าวไท

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]

ศาล รธน. สั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​

ศาลรัฐธรรมนูญ 1 ก.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​ หลังรับคำร้อง 36 สว. ยื่นถอดถอน ปมคลิปเสียงคุย “ฮุน เซน” ผิดจริยธรรม​ เปิดชื่อ 2 ตุลาการเสียงข้างน้อย “นครินทร์-อุดม” ไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แค่ห้ามใช้อำนาจหน้าที่ด้านความมั่นคง-การต่างประเทศ-การคลัง ศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมปรึกษาคดีที่นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ยื่นคำร้องของ 36 สว. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ รวมทั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย จากกรณีคลิปเสียงสนทนาเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชากับสมเด็จ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 […]

รวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ยึดของกลาง 1.9 ล้าน

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ผบช.น. แถลงรวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ตามยึดของกลางคืนแล้ว 1.9 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 5 คน ขออนุมัติศาลออกหมายจับบ่ายนี้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวเปิดเผยความคืบหน้าการจับกุมผู้ต้องหาปล้นเงินสดจำนวน 3.4 ล้านบาท ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าวเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว และ น.ส.นานา โดยสามารถตามจับกุมได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ยังสามารถตรวจยึดของกลางเป็นเงินสดจำนวน 1.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนแบ่งจากการกระทำความผิด เสื้อผ้าที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุ บัญชีธนาคารและบัตร ATM รวมทั้งสิ่งของที่ได้มาจากการทำความผิดก่อนหน้านี้ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การยอมรับสารภาพจากการจำนวนต่อหลักฐาน โดยอ้างว่า นายเฌอพัชญ์ จะทำหน้าที่เป็น Agent หรือตัวแทนหลอกซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ผ่านกลุ่ม Facebook […]

“สรวงศ์” ยันเร่งแก้ระบบล่ม หลังแห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”

ทำเนียบ 1 ก.ค.- “สรวงศ์” ยันเร่งแก้ปัญหาแอปฯ ล่ม หลังปชช.แห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เผยอาจมีการเพิ่มสิทธิมากขึ้น นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึง การเปิดลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ในวันนี้ เป็นวันแรก (1 ก.ค.) หลังเปิดให้ลงทะเบียนเวลา 08.00 น. ปรากฏว่าแอปฯ ล่ม ว่า ในเรื่องของแอปฯ ล่มกำลังแก้ไขอยู่ โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งยอมรับว่าเมื่อเปิดให้มีการลงทะเบียน มีประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก นายสรวงศ์ ยืนยันว่าเรื่องของระบบการลงทะเบียนได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว แต่บางครั้งเป็นปัญหาทางเทคนิค แต่ก็จะพยายามแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด นายสรวงศ์ มองว่า การที่ประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก เป็นเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนอยากจะเที่ยวอยู่ ซึ่งก็จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่า หากมีประชาชนลงทะเบียนจนครบตามสิทธิแล้ว นายกรัฐมนตรีเคยบอกแล้วว่า จะเพิ่มสิทธิตรงนี้ให้.-315 -สำนักข่าวไทย