พรรคเพื่อไทย 19 เม.ย.-เพื่อไทยเสวนาวิกฤตและทางออกโควิดระลอก 3 เสนอนายกฯ เร่งเยียวยาเดือนละ 5 พัน 3 เดือน ชี้เศรษฐกิจไทยไม่ฟื้น ถ้าไม่เปลี่ยนผู้นำ แนะต้องมีแผนกระจายวัคซีนที่ชัดเจน และฉีดให้กับประชาชน 40 ล้านคนภายในปีนี้
พรรคเพื่อไทยจัดเสวนาวิกฤติและทางออกโควิดระลอก 3 โดยมีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส. น่าน และประธานอนุกรรมการนโยบายด้านสาธารณสุข นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคฯ และผอ. ศูนย์นโยบายฯพรรค และนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการพรรคและประธานอนุกรรมการนโยบายด้านท่องเที่ยวร่วมการเสวนา
นายพิชัย กล่าวว่า รัฐบาลยอมรับแล้วว่าเศรษฐกิจของไทยปีนี้จะขยายตัวไม่ถึง 4% และมีโอกาสที่ขยายตัวได้ต่ำ ตามที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้เตือนไว้ เมื่อมีการระบาดของโควิดครั้งนี้ เศรษฐกิจไทยจึงหมดหวังและคาดจะขยายตัวได้ไม่ถึง 2% และหากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ เศรษฐกิจไทยอาจจะติดลบได้อีก ซึ่งจะทำให้ประชาชนเดือดร้อนอย่างหนัก โดยมีการประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจถึง 4.5 แสนล้านบาท
“สาเหตุของการระบาดทั้ง 3 ครั้งมาจากคนที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล ตั้งแต่ครั้งแรกที่สนามมวย ครั้งที่ 2 จากบ่อนการพนัน และการขนแรงงานเถื่อนที่โยงใยกับคนในรัฐบาล และล่าสุดเกิดจากสถานบันเทิงอโคจรที่คาดว่ามี ครม.เข้าไปเที่ยวกันหลายท่าน จนถูกขนานนามว่าเป็นไทยคู่ฟ้าคลับ เรื่องเหล่านี้จึงทำให้ประชาชนไม่มั่นใจว่าในอนาคตจะแพร่ระบาดอีกหรือไม่ เพราะนายกรัฐมนตรีไม่จริงจังในการลงโทษคนกระทำผิด ที่เชื่อว่าจะเป็นพวกเดียวกันกับรัฐบาล จึงชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลบริหารงานล้มเหลวมาตลอด ไม่ถูกตำหนิก็ไม่ยอมแก้ไข ไม่เคยคิดล่วงหน้า ขาดวิสัยทัศน์อย่างรุนแรง รัฐบาลใช้เงินมากมายในการเยียวยา แต่กลับไม่ใช้เงินในการจัดหาวัคซีนตั้งแต่แรก ทำให้การระบาดเป็นวงกว้าง จนเตียงในโรงพยาบาลต่างๆเต็มหมด และต้องขยายโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้น” นายพิชัย กล่าว
นายพิชัย กล่าวว่า ขอเสนอแนวทางออกของประเทศไทย 6 แนวทาง คือ นายกรัฐมนตรีต้องเร่งเยียวยาประชาชนโดยด่วน โดยให้เยียวยาประชาชนเดือนละ 5,000 บาท จำนวน 3 เดือน และจ่ายเป็นเงินสด และ หลังจากเยียวยาแล้ว นายกฯ ควรจะต้องออกจากตำแหน่ง เพราะไม่สามารถฟื้นเศรษฐกิจได้ รัฐบาลจะต้องเร่งหาวัคซีนมากระจายการฉีดให้กับประชาชนโดยเร็ว และต้องหลากหลายยี่ห้อ และรัฐบาลต้องมีแผนงานการกระจายฉีดวัคซีนอย่างชัดเจนเพื่อให้ประชาชนมั่นใจ ,เร่งช่วยเหลือธุรกิจ SME การให้ซอฟท์โลนอย่างเร่งด่วน เร่งสร้างความมั่นใจให้กลับมาโดยเร็ว ซึ่งในสายตาของต่างชาติประเทศไทยในปัจจุบันไม่ต่างจากเมียนมา
“ถ้านายกฯ ยังอยู่ต่อไป เศรษฐกิจไทยจะยิ่งเสื่อมถอยไปเรื่อย ๆ เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นปัญหาหลักของประเทศให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และสุดท้าย ต้องเร่งสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับประเทศ โดยการปล่อยนักศึกษาและแกนนำผู้ชุมนุมที่ถูกคุมขัง ทั้งที่คดียังไม่สิ้นสุด อีกทั้งต้องให้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน” นายพิชัย กล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งจัดหาวัคซีนและฉีดให้กับประชาชนในปีนี้ให้ได้ถึง 40 ล้านคน เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันและไม่เกิดการแพร่ระบาดออกไปอีก ซึ่งล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดถึงกว่า 1,700 รายภายในหนึ่งวัน และเมื่อคำนวณอัตราการแพร่เชื้อ พบว่า 1 คนสามารถแพร่เชื้อได้อีก 2-3 คน ดังนั้นถ้าภายใน 30 วันรัฐบาลไม่มีมาตรการที่ชัดเจนออกมาจะทำให้มีผู้ติดเชื้อสูงถึงกว่า 1 แสน 3 หมื่นราย ซึ่งจะทำให้เกิดวิกฤติ
“จากนี้ทุกคนจะต้องทำหน้าที่เป็นหมอ ดูแลตนเองและครอบครัวไม่ให้มีโอกาสเสี่ยง ภาครัฐและเอกชนทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือร่วมใจกัน ทั้งนี้ ผู้นำประเทศภาครัฐและศบค.ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าจะมีมาตรการออกมารองรับเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดให้ลดลง เนื่องจากมาตรการในขนาดนี้ไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทยและเห็นว่าภายหลังจากที่นายกฯ ได้ออกมาแถลงเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา ถือเป็นการแถลงที่ทำให้ทุกคนหมดหวังและหมดกำลังใจ” นพ.ชลน่าน กล่าว
นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า การระบาดของโควิด-19 แบ่งออกเป็นสองด้าน คือด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันด้านสาธารณสุขกำลังมีปัญหา ดังนั้นด้านเศรษฐกิจจะต้องพยายามพยุงตัวเองให้ไหว แต่ขณะนี้รัฐบาลยังแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด ดังนั้น ทางออกคือเรื่องของวัคซีนและการท่องเที่ยวที่จะช่วยให้เศรษฐกิจได้ฟื้นตัว ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดการท่องเที่ยวได้จริงในช่วงต้นปีหน้า อีกทั้งมองว่าการส่งออกจะสามารถช่วยฟื้นเศรษฐกิจของไทยได้ เนื่องจากการส่งออกไม่ได้ส่งผลกระทบหรือแปรผันไปกับการติดเชื้อ จึงเสนอให้รัฐบาลสนับสนุนให้มีการลดภาษีนำเข้าวัตถุดิบและเครื่องจักรในเชิงยุทธศาสตร์เพื่อการส่งออก และดึงเงินจากผู้มีกำลังซื้อ มาซื้อสินค้าคงทน เช่น รถยนต์ อสังหาริมทรัพย์และเฟอร์นิเจอร์ เพื่อเหนียวนำให้เกิดการลงทุนต่อไป.-สำนักข่าวไทย