fbpx

ปภ.รายงาน 14 จังหวัดเกิดวาตภัย คลี่คลายแล้ว

กรุงเทพฯ 19 เม.ย.- ปภ.รายงานเกิดวาตภัยในพื้นที่ 14 จังหวัด คลี่คลายแล้วทุกจังหวัดเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่างเคลื่อนเข้าสู่บริเวณทะเลอันดามันประกอบกับลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมภาคใต้ฝั่งตะวันตกและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้นทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางพื้นที่
โดยในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเกิดวาตภัยใน 14 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน อุตรดิตถ์ ชัยภูมิ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด สุรินทร์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี พระนครศรีอยุธยา และอ่างทอง รวม 35 อำเภอ 72 ตำบล 117 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 497 จังหวัด ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด

ขณะที่ข้อมูลสถานการณ์ภัยในช่วงตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2564 ปัจจุบัน (19 เมษายน 2564 เวลา 06.00 น.) มีพื้นที่ประสบวาตภัยรวม 57 จังหวัด 300 อำเภอ 796 ตำบล 2,064 หมู่บ้าน 2 เขตเทศบาล บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 14,000 หลัง วัด 6 แห่ง รวมถึง กทม. 1 เขต 1 แขวง ผู้เสียชีวิต 4 ราย (น่าน มหาสารคาม เลย และอุดรธานี จังหวัดละ 1 ราย) ผู้บาดเจ็บ 10 ราย แยกเป็น ภาคเหนือ 15 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ พะเยา แพร่ น่าน ลำปาง ลำพูน ตาก สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ รวม 91 อำเภอ 291 ตำบล 1,025 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 9,352 หลัง ผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้บาดเจ็บ 3 ราย ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ 20 จังหวัด ได้แก่ บึงกาฬ หนองคาย นครพนม เลย อุดรธานี สกลนคร กาฬสินธุ์ หนองบัวลำภู ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร สุรินทร์ มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา รวม 131 อำเภอ 322 ตำบล 639 หมู่บ้าน 1 เทศบาลเมือง บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 2,956 หลัง ผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้บาดเจ็บ 7 ราย ภาคกลาง 13 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สิงห์บุรี สระบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ราชบุรี และนครปฐม รวม 60 อำเภอ 148 ตำบล 317 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1,418 หลัง วัด 2 แห่ง ภาคตะวันออก 6 จังหวัด ได้แก่ ระยอง จันทบุรี สระแก้ว ชลบุรี ปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา รวม 15 อำเภอ 32 ตำบล 78 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 201 หลัง ภาคใต้ 3 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และภูเก็ต รวม 3 อำเภอ 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 73 หลัง


ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหายเพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้างหรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม ท้ายนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ ปภ.รับแจ้งเหตุ1784 โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง