fbpx

นายกฯ กำชับทุกหน่วยตั้งโรงพยาบาลสนาม

กรุงเทพฯ 17 เม.ย.-นายกรัฐมนตรี กำชับทุกหน่วยงานจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เตรียมรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดย อว. เร่งดำเนินการแล้วกว่า 12,882 เตียง กระจายทุกภาคทั่วประเทศ

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19ให้เพียงพอ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระโรงพยาบาล โดยหากผู้ป่วยไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย ให้กระจายมารักษาที่โรงพยาบาลสนามแทน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของกระทรวงมหาดไทยโดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ และกระทรวงกลาโหมโดยทางหน่วยงานของทุกกองทัพ


ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับรายงานว่ากระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้เร่งดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล ด้วยการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามแล้ว โดยปัจจุบันมีโรงพยาบาลสนามในเครือ อว. ทั้งสิ้น 12,882 เตียงกระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 37 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 14 เม.ย. 64) แบ่งตามภูมิภาคต่างๆได้ดังนี้

กรุงเทพมหานครและปริมณฑลจำนวน 1,872 เตียง อาทิ เช่น มหาวิทยาลัยมหิดล 470 เตียง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 442 เตียง มหาวิทยาลัยราชภัฎธนบุรี 360 เตียง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล สุวรรณภูมิ วิทยาเขตนนทบุรี 350 เตียง


ภาคกลางจำนวน 450 เตียง เช่น มหาวิทยาลัยศรีนครินทราวิโรฒ นครนายก 300 เตียง มหาวิทยาลัยราชภัฎเทพสตรี สุพรรณบุรี 100 เตียง

ภาคเหนือจำนวน 1,850 เตียง เช่น มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 1,420 เตียง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง 200 เตรียม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 100 เตียง มหาวิทยาลัยนเรศวร 100 เตียง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน 6,596 เตียง เช่นมหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี (อุดรธานี และบึงกาฬ) 3,736 เตียง มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี 1,030 เตียง มหาวิทยาลัยราชภัฎ ชัยภูมิ 638 เตียง


ภาคตะวันออกจำนวน 250 เตียง ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎราชนครินทร์

ภาคใต้จำนวน 1,864 เตียง เช่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ภูเก็ต 350 เตียง มหาวิทยาลัยทักษิณ สงขลา 350 เตียง มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา 260 เตียง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ประจวบคีรีขันธ์คีรีขันธ์ 144 เตียง มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต 110 เตียง มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ 100 เตียง เป็นต้น

ทั้งนี้ การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในแต่ละแห่งนั้น ได้ดำเนินการตามคำแนะนำของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวคือ ต้องมีความปลอดภัยทั้งระบบตัวอาคาร ระบบจัดการน้ำเสีย การจัดการอากาศ มีบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขคอยควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด มีการจัดโซนนิ่งต่างๆอย่างเหมาะสม โดยโรงพยาบาลสนามทุกแห่งต้องทำตามแนวทางความปลอดภัย ไม่มีปล่อยให้มีการติดเชื้อไปสู่ภายนอก หรือติดเชื้อไปสู่ชุมชน

นอกจากนี้ การจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม จะมีกลไกทำความเข้าใจกับประชาชนผ่านกลไก อสม. ว่า โรงพยาบาลสนามจะเป็นส่วนที่เตรียมการไว้หากเกิดมีผู้ป่วยจำนวนมากๆ แต่ถ้าสถานการณ์ไม่จำเป็นก็จะไม่ใช้ และสำหรับด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามนั้น ให้สามารถจัดตั้งได้เฉพาะกรณีโรคโควิด-19 เท่านั้น ซึ่งได้รับการยกเว้นจาก พ.ร.บ.สถานพยาบาล ที่นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดจะเป็นอนุญาตให้เกิดขึ้น โดยความเห็นชอบคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดซึ่งต้องเห็นชอบเป็นผู้เลือกสถานที่ ส่วนการรักษาพยาบาลนั้น กรมการแพทย์ได้จัดทำแนวทาง และปรับปรุงตลอดเวลา เพื่อให้คนป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อยมีปลอดภัยที่สุด และหากเกิดเหตุฉุกเฉินก็จะมีรถพยาบาลเข้าไปดู หรือรับส่งต่อได้ทันที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น