ทำเนียบเข้มมาตรการโควิด-19

              ทำเนียบ วันนี้  ( 16 เม.ย. )   ทำเนียบรัฐบาลปรับแนวทางการทำงานของสื่อมวลชน ภายหลังการระบาดของโควิด-19   ขณะที่นายกรัฐมนตรี เข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ   โดยจะประชุม ศบค.ชุดใหญ่บ่ายวันนี้


             ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  บรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล ในการเปิดทำงานวันแรกหลังเทศกาลสงกรานต์  ภายหลังการระบาดของโควิด-19   พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  ขอความร่วมมือมาตรการทำงานที่บ้าน  หรือ  Work from home  จนถึง 30 เมษายนนี้  ทำให้มีข้าราชการและเจ้าหน้าที่ค่อนข้างบางตา   ขณะที่ช่วงเช้านายกรัฐมนตรี  เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ที่ตึกภักดีบดินทร์

               สำนักโฆษก  สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  แจ้งขอความร่วมมือสื่อมวลชน จำกัดจำนวนผู้ที่เข้ามาปฏิบัติงานภายในทำเนียบ   โดยอนุญาตให้สื่อทีวี 1 ทีม  และสื่ออื่นๆ สังกัดละ 1 คน  และให้ส่งรายชื่อเข้ามาล่วงหน้า  ส่วนผู้ที่เคยเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง ให้งดเข้ามาปฏิบัติงานในทำเนียบอย่างเคร่งครัด


                พร้อมย้ำการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา  ตรวจวัดอุณหภูมิ  เว้นระยะห่าง โดยให้งดรุมสัมภาษณ์ทุกกรณี  และให้สื่อมวลชนอยู่ในจุดพักของตนเอง  หากมีการสัมภาษณ์ ทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งและอำนวยความสะดวกให้  อย่างไรก็ตามทำเนียบ ได้ฉีดฆ่าเชื้อห้องพักของสื่อมวลชน ทั้ง 3 ห้องเรียบร้อยแล้ว  

                ในช่วงบ่ายวันนี้  นายกรัฐมนตรี  เรียกประชุม ศบค.ชุดใหญ่ หารือมาตรการควบคุมโควิด-19  โดยที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีมติเสนอมาตรการเพิ่มพื้นที่จังหวัดควบคุมสูงสุดเป็นสีแดง 18 จังหวัด  พื้นที่ควบคุมสีส้ม 59 จังหวัด  รวมถึงมาตรการจำกัดเวลาให้บริการร้านอาหาร  โดยพื้นที่สีแดงเปิดได้ถึงเวลา 21.00 น.  พื้นที่สีส้มเปิดถึงเวลา 23.00 น.  ส่วนมาตรการอื่นๆ ทั้งพื้นที่สีแดงและสีส้มต้องปฏิบัติเหมือนกันในทุกจังหวัด  เช่น  ปิดสถานบริการในลักษณะผับ  บาร์  คาราโอเกะ  อาบอบนวด  ห้ามจำหน่ายสุราและห้ามดื่มในร้านอาหารทุกจังหวัด  รวมถึงงดการเรียนการสอน           

ทั้งนี้ต้องรอข้อสรุปที่ชัดเจนถึงมาตรการต่างๆ จากทาง ศบค. โดยหลังเสร็จสิ้นการประชุม โฆษก ศบค.จะแถลงในเวลาประมาณ 16.00 น. 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม