รัฐบาลยันวัคซีนโควิดมีประสิทธิภาพ-เตียงเพียงพอ

กรุงเทพฯ 15 เม.ย. – รัฐบาล ย้ำสร้างความเชื่อมั่นวัคซีนที่ไทยนำมาใช้มีประสิทธิภาพ-คุณภาพ ยืนยันการบริหารจัดการเตียงเพียงพอ รองรับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ชี้หากไม่ปิดสถานบันเทิงยอดผู้ป่วยอาจพุ่ง 20,000 คน/วัน


สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เผยแพร่ข้อความถึงความเชื่อมั่นวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ของประเทศไทย ว่า รัฐบาลเชื่อมั่นวัคซีนที่ไทยนำมาใช้อยู่ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพและคุณภาพ การบริหารจัดการเตียงเพียงพอ รองรับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลังช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์

โดยสาธารณสุข ยืนยันวัคซีนโควิดที่ไทยใช้มีประสิทธิภาพสูง และความปลอดภัย ประชาชนสามารถฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันและเพิ่มภูมิคุ้มกันของตัวเองได้ ข้อมูลทางระบาดวิทยาและข้อมูลทางวิชาการยืนยันว่า วัคซีนโควิด-19 ที่ไทยนำมาใช้ในทั้งแอสตราเซเนกา และซิโนแวค เป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ มีการฉีดวัคซีนสะสมรวม 579,305 โดสหรือเข็ม มีผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 505,744 คน ในทุกจังหวัดตามเป้าหมายและกำหนดเวลา ขณะนี้ยังมีการจัดหาวัคซีนซิโนแวคอีก 1 ล้านโดส ซึ่งอยู่ในประเทศไทยแล้ว รอการตรวจทางห้องปฏิบัติการและเอกสาร จะมีการส่งมอบให้กรมควบคุมโรคต่อไป ในระยะถัดไปจะฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยเฉพาะบุคลากรด่านหน้าให้ได้ 100% สำหรับวัคซีนหลักที่จะมาถึงไทยในเดือนมิถุนายน ประมาณเดือนละ 6-10 ล้านโดส สามารถจะฉีดให้กับประชาชนได้อย่างครบถ้วน


ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ในไทย ขณะนี้ เชื่อมโยงกับสถานบันเทิงและนำไปสู่การแพร่กระจายของเชื้อโรคสู่เพื่อนฝูงและชุมชน จำเป็นต้องลดการเคลื่อนที่ของบุคคล ปิดสถานที่เสี่ยง งดกิจกรรมการรวมกลุ่ม โดยสาธารณสุข คาดการณ์ฉากทัศน์ในอีก 1 เดือนข้างหน้า หากไม่มีมาตรการใด ๆ จะมีผู้ป่วยติดเชื้อสูงสุดมากกว่า 20,000 คนต่อวัน กรณีมีมาตรการปิดสถานบันเทิงเสี่ยงในจังหวัด จะมีผู้ป่วยติดเชื้อประมาณ 2,996 คนต่อวัน และกรณีที่มีมาตรการปิดสถานบันเทิงเสี่ยงในจังหวัด เน้นปรับพฤติกรรมส่วนบุคคล ลดกิจกรรมการรวมตัวกัน เพิ่มมาตรการทำงานที่บ้าน Work From Home สามารถลดผู้ป่วยติดเชื้อจะลดลงมาประมาณ 391 คนต่อวัน

ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดมากยิ่งขึ้น กระทรวงสาธารณสุขเน้นการตรวจคัดกรองโรค ควบคุม ติดตาม กำกับ การกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทุกคน และผู้ป่วยติดเชื้อจะต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น ทั้งโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน โรงพยาบาลสนาม และ Hospitel เพื่อป้องกันผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อนอาจเสียชีวิตได้และกำจัดความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อต่อคนในครอบครัวและในชุมชนได้ทั้งนี้

“การปฏิบัติตัวสำหรับผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัดเพื่อกลับมาทำงาน ดังนี้ 1.ขอให้เดินทางโดยรถยนต์ แต่หากต้องเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะขอให้ใส่หน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่าง รวมทั้งงดเว้นการรับประทานอาหาร 2.หากสามารถ work from home ที่จังหวัดนั้นๆ ได้ จะช่วยลดการนำเชื้อข้ามพื้นที่จากการเดินทางข้ามจังหวัด 3.หากจำเป็นต้องกลับมา ให้ work from home และกักตนเอง 14 วัน โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางไปจากจังหวัดเสี่ยง เพื่อดูอาการ หากผิดปกติให้รับแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือที่หมายเลข 1422 สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง หากต้องออกไปในที่สาธารณะ”


สำหรับการบริหารจัดการเตียงผู้ป่วย ภาครัฐมีการบริหารจัดการเตียงเพียงพอในการรองรับผู้ติดเชื้อ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีการจัดเตียงรองรับทั้งจากสถานพยายาลและโรงแรมแบบ Hospitel รวมกว่า 6 พันเตียง รวมทั้งโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงกลาโหมมีการเตรียมโรงพยาบาลภาคสนาม และกรมการแพทย์เตรียมเปิด Hospitel ซึ่งจะรองรับได้อีก 450 เตียง และโรงพยาบาลรามาธิบดีเตรียมเปิด Hospitels อีก 2 แห่ง อีก 100 เตียง สำหรับกรุงเทพมหานคร ได้มีการเพิ่มโรงพยาบาลสนาม ที่บางขุนเทียน 500 เตียง ที่บางบอน 200 เตียง และเตรียมเปิดที่บางกอกอารีนา จะรับได้อีก 1,000 เตียง ซึ่งรัฐบาลให้การรับรองโรงพยาบาลสนามที่มีอยู่ขณะนี้มีความปลอดภัย มีจำนวนแพทย์และพยาบาลตามมาตรฐานที่วางไว้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีประสบการณ์การจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ตั้งแต่การระบาดระลอกแรก รวมทั้งเตรียมพร้อมโรงพยาบาลสนามตามต่างจัดหวัดไว้แล้ว สำหรับ Hospitel ซึ่งเป็นการจัดบริการในโรงแรม กรมสนับสนุนบริการทางการแพทย์จะเข้าไปรับรองมาตรฐาน เช่นเดียวกับสถานกักกันของรัฐ (SQ/ ASQ) ซึ่งมีการตรวจ ประเมิน และติดตามสม่ำเสมอ

“นโยบายหลักของไทย ผู้ติดเชื้อทุกคนในประเทศจะต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น ยกเว้นช่วงการรอเตียง ซึ่งผู้ป่วยอยู่ที่บ้าน แล้วจะมีกลไกรองรับในการประสานเพื่อไปรับตัวผู้ป่วยในช่วงเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้ สามารถติดต่อไปที่สายด่วนจัดหาเตียง เบอร์ 1669 สำหรับต่จังหวัดต่างๆ จะเข้าศูนย์การบริหารจัดการ สายด่วนกรมการแพทย์ 1668 รับสายเวลา 8.00–22.00 น. และสายด่วน สปสช. 1330 ตลอด 24 ชม. หรือผ่าน line แอปลิเคชัน สบายดีบอต ซึ่งสามารถให้ข้อมูลติดต่อกลับ และจะมีการจัดสรรเตียงที่เหมะสม”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง