ผู้ตรวจการแผ่นดิน สั่ง จนท.ทำงานที่บ้าน 19-30 เม.ย.

กรุงเทพฯ 14 เม.ย.-ผู้ตรวจการแผ่นดิน สั่งเจ้าหน้าที่ทำงานที่บ้านในช่วง 19-30 เมษายน ป้องกันติดเชื้อโควิด-19

สนง.ผู้ตรวจการแผ่นดิน วันนี้ ( 14 เม.ย.) พ.ต.ท.กีรป กฤตธีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ลงนามในประกาศสำนักงานพูดตรวจการแผ่นดินวันนี้ เรื่องมาตรการป้องกันการแพทยระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ฉบับที่ 5) หลังพบเชื้อสายพันธ์อังกฤษมีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วกว่าสายพันธุ์เดิมถึง 1.7 เท่า และกระจายเป็นวงกว้าง ผู้ได้รับเชื้อจะไม่แสดงอาการอย่างชัดเจนหรืออาจใช้เวลานานกว่าอาการจะปรากฏ ผู้ได้รับเชื้อจะไม่แสดงอาการอย่างชัดเจน หรืออาจใช้เวลานานกว่าอาการจะปรากฏ ส่งผลให้การตรวจเชื้อมีความยากเพิ่มขึ้น รัฐบาลจึงได้ขอความร่วมมือหน่วยงานราชการให้ปฏิบัติงานนอกสถานที่ หรือ work from home เพื่อลดการสัมผัสในที่ทำงานนั้นเป็นความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อดังกล่าว ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ประกอบกับเพื่อให้การปฎิบัติงานของสำนักงานมีความสอดคล้องกับสถานการณ์ คำนึงถึงคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยในการปฏิบัติงานของพนักงานและลูกจ้าง


จึงออกประกาศให้ผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการสถาบัน หัวหน้าหน่วย มอบหมายงานให้พนักงานและลูกจ้างในสังกัดเพื่อนำกลับไปปฏิบัติงานอย่างที่พักอาศัยของตนเอง ระหว่างวันที่ 19 – 30 เมษายน และให้รายงานผลการดำเนินงานหรือความก้าวหน้าของงานต่อผู้บังคับบัญชาทุกสัปดาห์เป็นอย่างน้อยตามแบบฟอร์มรายงานการปฏิบัติงานจากที่พักอาศัย

สำหรับการปฎิบัติงานนอกสถานที่ จะต้องมีการรายงานตัวผ่านแอพพลิเคชันของสำนักงานผู้จัดการแผ่นดิน หรือวิธีการอื่นที่เหมาะสมโดยการปฏิบัติงานแต่ละวันต้องมีระยะเวลาอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน อย่างไรก็ตามในระหว่างการปฎิบัติงานจากที่พักอาศัย หากพนักงานและลูกจ้างมีไข้อุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป มีอาการไอแห้งๆ หรือไอมีเสมหะเกิน 1 สัปดาห์ มีอาการหายใจลำบาก เหนื่อยหอบ มีผื่นแดงลักษณะคล้ายตาข่ายหรือเส้นใหญ่เล็กๆ หรือผื่นบวมแดงคล้ายโรคลมพิษ มีจุดเลือดออก มีตุ่มน้ำคล้ายโรคสุกใส หรือมีภาวะเสี่ยงต่อโรคดังกล่าวให้รีบพบแพทย์และแจ้งผู้บังคับบัญชาเพื่อรายงานต่อเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และให้พิจารณาสั่งให้ผู้นั้นหยุดปฏิบัติงานเป็นเวลา 14 วันนับจากวันที่ได้รับแจ้ง .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

ปล่อยตัว “แซม ยุรนันท์” สวมกอดครอบครัว ขอกลับบ้านก่อน

“แซม ยุรนันท์” ได้รับการปล่อยตัวแล้ว สวมกอดครอบครัวด้วยสีหน้ามีความสุข พร้อมขอบคุณสื่อมวลชนที่มาต้อนรับ ขอกลับบ้านก่อน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

จับแล้วมือยิงอดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ย่านบางลำพู

“ผู้การจ๋อ” ส่ง “สารวัตรแจ๊ะ” นำทัพสืบ บช.น. ร่วมตำรวจกัมพูชา แกะรอยบุกจับ “จ่าเอ็ม” มือยิง “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ถึงพระตะบอง ประเทศกัมพูชา

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีดิไอคอน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี “ดิไอคอน” เปิดใจขอบคุณกระบวนการยุติธรรมและทัณฑสถานหญิง ดูแลเป็นอย่างดี ยืนยันบริสุทธิ์ใจตั้งแต่แรก พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งวันนี้ได้พิสูจน์ตนเองแล้ว

พบ จยย.มือยิงอดีตนักการเมืองกัมพูชาจอดทิ้งปั๊ม คาดได้ตัวเร็วๆ นี้

ตำรวจตรวจพบรถจักรยานยนต์มือยิงอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาแล้ว จอดทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บริเวณเลียบด่วนมอเตอร์เวย์ คาดได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้