14 เม.ย.-“อนุชา” ห่วงพระ จ.แพร่ ติดโควิดจากการเดินทาง เชื่อทุกวัดมีมาตรการเข้มงวด ขอความร่วมมือประชาชนป้องกันตามที่รัฐแนะนำ
จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2564 ผ่านทางโซเชียลมีเดียและกลุ่มไลน์ต่างๆ ของ จ.แพร่ ว่าวัดเมธังปิดประตูห้ามบุคคลภายนอกเข้าวัด เนื่องจากมีพระติดโควิด-19 จาก กทม. โดยลงเครื่องเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 ซึ่งในเที่ยวบินนี้ สธ. จ. แพร่ได้ตรวจพบว่ามีผู้โดยสารติดเชื้อโควิด จึงได้แจ้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารที่เดินทางมาในเที่ยวบินนี้ ดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด ปรากฏว่ามีพระสงฆ์สังกัดวัดเมธังกราวาส นั่งใกล้ชิดกับผู้ป่วยดังกล่าว จึงแจ้งให้เข้าตรวจพบว่าผลตรวจเป็นบวก รายละเอียดปรากฎตามข่าว
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว พบว่ามีพระที่เดินทางกลับจากพื้นที่กรุงเทพมหานครและพบผลการตรวจเชื้อเป็นบวกจริง คือ พระมหากิติชัย รองเจ้าอาวาสวัดเมธังกราวาส โดยมีทามไลน์ดังนี้
- วันที่ 7 เมษายน 2564 พระมหากิติชัย รองเจ้าอาวาสวัดเมธังกราวาส เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ โดยสายการบินนกแอร์ และมีคนขับรถไปรับที่สนามบิน
- วันที่ 8 เมษายน 2564 พระมหากิติชัย รองเจ้าอาวาสวัดเมธังกราวาส ร่วมฉันภัตตาหารกับพระในวัด จำนวน 4 รูป
- วันที่ 9 เมษายน 2564 ได้รับแจ้งจากสาธารณสุขจังหวัด ว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด เดินทางจากเที่ยวบินเดียวกันกับพระมหากิติชัย ทางสาธารณสุขจังหวัดแจ้งให้กักตัว
- วันที่ 10 เมษายน 2564 พระมหากิติชัย และพระภิกษุอีก 4 รูป และโยมใกล้ชิด 4 คน กักตัวอยู่ในห้องพัก
- วันที่ 11 เมษายน 2564 พระมหากิติชัย และพระภิกษุอีก 4 รูป และโยมใกล้ชิด 4 กักตัวอยู่ในห้องพัก ในวันเดียวกัน พระครูเวทย์สังฆกิจ เจ้าอาวาส กลับมาจากจังหวัดน่าน ตอนเย็น (ไม่ได้ใกล้ชิดกับพระมหากิติชัย แต่ ใกล้ชิดกับพระ 4 รูป และ โยมใกล้ชิด 4 คน)
- วันที่ 12 เมษายน 2564 พระมหากิติชัย ไปตรวจหาเชื้อโควิด 19 ที่ รพ.แพร่ และรอฟังผลที่วัดเมธังกราวาส
- วันที่ 13 เมษายน 2564 พระมหากิติชัย ไปตรวจหาเชื้อโควิด 19 ที่ รพ.แพร่ราม ผลออกเป็นบวก (ติดเชื้อ) ถูกส่งตัวเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแพร่
- วันที่ 14 เมษายน 2564 พระภิกษุและโยม 8 รูป/คน ไปตรวจหาเชื้อโควิด 19 ที่ รพ.แพร่ราม ผลออกเป็นลบทั้ง 8 รูป/คน (ไม่พบเชื้อ) แต่ทางโรงพยาบาลแพร่ราม แนะนำให้กักตัวต่ออีก 14 วัน
ซึ่งจากกรณีดังกล่าว รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นห่วงต่อคณะสงฆ์ ทั้งที่ปฏิบัติศาสนกิจในวัด และที่อยู่ระหว่างการเดินทาง ซึ่งที่ผ่านมาได้เคยแจ้งประสานไปยังวัดผ่านทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ขอความร่วมมือให้วัดทุกวัดปฏิบัติตามมติ มส. และมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด ของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะแนวทางและมาตรการในการรณรงค์ประเพณีสงกรานต์ ปลอดภัยได้บุญ พุทธศักราช 2564 ที่ขอความร่วมมือทุกวัดปฏิบัติตามมาตรการ และพิจารณาจัดศาสนาพิธีและส่งเสริมโบราณประเพณีของวัดตามแบบ New Normal ประกอบกับ มหาเถรสมาคมได้มีมติให้ทุกวัดปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยให้มีการตรวจคัดกรองพุทธศาสนิกชนที่จะมาทำบุญ ไหว้พระ รวมถึงทำความสะอาดบริเวณวัด ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ การใช้เจลล้างมือ มีป้ายแนะนำญาติโยมโดยขอความร่วมมือจาก อสม. ในพื้นที่ในการดูแลหากมีการแพร่ระบาด จึงเชื่อมั่นว่าทุกวัดได้ถือปฏิบัติตามมาตรการที่ขอความร่วมมือดังกล่าว ซึ่งกรณีของพระมหากิติชัย พบว่าเป็นการติดเชื้อระหว่างการเดินทางกลับจากกรุงเทพมหานคร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจึงขอความร่วมมือประชาชนร่วมปฎิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในระยะนี้ที่เป็นช่วงของการเดินทางวันหยุดยาว .-สำนักข่าวไทย